รบกวนสอบปรึกษา ด้านกฏหมายให้น้า หน่อยครับ
ผมไม่มีความรู้ด้านกฏหมายเลย  อาจใช้ข้อความไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม  แต่จะพยายายามอธิบายให้เข้าใจให้ง่ายที่สุด
ขอความกรุณา ช่วยผมหน่อยนะครับ

เนื่องจาก นาย ก. ได้นำที่ดินมาจำนอง  ให้กับ นาง ข. จำนวน 3 งาน  แต่ละงานต่างวาระกัน นำมาจำนอง ครั้งละ 1 งาน
งานที่ 1 และ 2 ไม่มีการส่งดอกเบี้ย  และยินยอมให้มีการยึด ได้มีการทำเอกสารอย่างถูกต้อง
จนมาถึง ที่ดิน งานที่ 3  ได้มีการจำนองไว้ 80,000 บาท (มีเอกสารการจำนอง)
แต่ก็ไม่มีการส่งดอกเบี้ย เช่นเคย  จึงได้มีการเจรจาทำการตกลงยินยอมพร้อมโอน แต่ยังไม่ทันได้โอน
ทาง นาง ข.  เห็นว่าจะได้เป็นเจ้าของที่ดินโดยชอบธรรมแล้ว   จึงได้ทำการปรับหน้าดิน โดยนำดินมาถม  (เป็นเงิน 30,000 บาท)
การปรับหน้าดิน  ผมเป็นคนดำเนินการ เนื่องจากที่ดินแปลงนี้ นาง ข. จะยกให้ผม

หลังจากนั้น นาย ก. เสียชีวิต  ก่อนวันนัดโอนที่ดิน 4 วัน   นาง ข.  จึงไม่ได้ดำเนินการใด ๆ  เพราะไม่สามารถติดต่อลูกหลานได้

หลังจากนั้นทราบเรื่องว่า มรดกที่ดินแปลงนี้  ได้ตกทอด มาเป็นของลูกเขย  (หัวหมอ)  
ลูกเขยไม่ยินยอมพร้อมโอนให้ แถมต้องการเงินเพิ่มอีก เป็นแปลงละ 150,000 บาท
ทาง นาง ข.  ไม่ยินยอมเพราะเห็นว่า ราคาแพงเกินไป  และได้ไปอายัดโฉนด ที่กรมที่ดิน เพื่อป้องกัน นาย ก. แจ้งโฉนดหาย
(ซึ่งทาง นาย ก. บอกว่าไปแจ้งหายก็ได้โฉนดคืนแล้ว นาง ข. จึงรีบไปอายัด)
นาย ก. ต้องการโฉนด  จึงได้มาขอไถ่ถอน 60,000 บาท  แล้วบอกว่าจะนำเงินมาให้ภายหลังอีก
นาง ข. ยินยอม   พร้อมทำเอกสาร  รับเงิน 60,000 บาท  จาก นาย ก. (เอกสารฉบับนี้ไม่ได้สำเนาเก็บไว้)

แต่ นาย ก.  ไม่จบ   กลับเอาเรื่องไปฟ้องศาล  ว่า นาง ข. และพรรคพ้อง  บุกรุก ทำให้ทรัพย์สินสูญเสีย  พร้อมทั้งกล่าวหาว่า นาง ข. และพวกพ้อง เจตนาทำลาย หมุดที่ดิน
ทั้ง ๆ  ที่หมุด ก็ยังอยู่ที่เดิม

ศาลนัดไต่สวน วันที่ 18 กพ 2557 ครับ     ไม่ทราบทางผม จะทำอะไรได้บ้างครับ  เพื่อให้พ้นข้อกล่าวหาและได้เงินที่หยิบยืมไป คืนเต็มจำนวน

รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ  ตอนนี้มือแปดด้านเลยครับ