พอดีเพิ่งจะดู About Time จบไปเมื่อสักครู่ เลยมีคำถามขึ้นมาอยากจะถามชาวพันทิพว่าชอบเรื่องไหนมากกว่ากัน
หนังทั้งสองเรื่องเป็นหนังเกี่ยวกับเวลาคล้ายๆกันอาจจะต่างกันที่เงื่อนไข บทดราม่าของของพระนางก็คล้ายๆกัน
ความรักที่มีต่อครอบครัวก็คล้ายๆกันอีก สลับกันตรงที่ About Time เป็นความรักที่โฟกัสไปทางพ่อ ส่วน butterfly effect
นั้นโฟกัสไปทางแม่ คะแนนจากimdb ก็ยังไล่ๆกันอีก About Time 7.8 butterfly effect 7.7
ส่วนตรงนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวหลังจากที่ได้ชมทั้งสองเรื่องนะครับ ผมกับชอบ butterfly effect ตรงที่ทุกอย่างมันชัดเจน
มากกว่า ไม่ว่าจะเหตุผล ประเด็น แรงจูงใจ การย้อนเวลาที่มีผลอย่างมากกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น เรียกว่าย้อนกันทีแทบจะเปลี่ยน
โลกทั้งใบ ตรงนี้เป็นจุดที่ทำได้ดีมากทำให้เห็นว่ามันยิ่งใหญ่มากมีพลัง ส่วนบทความรักที่พระเอกมีต่อนางเอก ความรักที่มีต่อแม่
มีต่อเพื่อน มันเห็นมิติของตัวละครเหล่านั้นได้ทุกคน เรียกว่าทุกตัวละครเด่นหมด มีชีวิตเปลียนไปทุกครั้งที่เหตุการณ์บางอย่างเปลี่ยน
มิติของเหตุการณ์ เหล่านั้นมีผลอย่างเห็นได้ชัด และจุดพีคท้ายสุดที่ดึงอารมณ์ได้ดีมากๆ หลังหนังจบยังตราตรึงอารมณ์ความรู้สึก
ได้อย่างดีมาก
ส่วน About Time ผมชอบความสัมพันธ์ของพ่อกับพระเอกมาก แต่ไม่รู้ทำไมผมไม่ค่อยซึ้งเท่าไหร่เลยแฮะ
หรือมันไม่มีประเด็นระหว่างพ่อกับลูกที่มากพอทำให้ผมอินไปได้มากๆ แต่ดูรู้สึกขนลุกอยู่เหมือนกัน ส่วนความรักของพระนาง
อันนี้ไม่รู้ตัวหนังเน้นหรือป่าว แต่ผมรู้สึกมันเป็นความรักที่เรียบง่าย จนดูเหมือนไม่มีอะไรเลย อย่างตอนพระเอกไปที่ห้องกับคนที่พระเอก
รักคนแรก และพระเอกตัดสินใจเลือกนางเอก กลับมาขอแต่งงานตรงนี้แทนที่มันจะดึงอารมณ์ผมได้แต่มันก็เฉยๆอีกนั่นแหละ
ส่วนประเด็นเรื่องย้อนเวลาเหตุผลที่พระเอกเปลี่ยนทุกอย่างมันไม่ได้ส่งผลถึงใครอย่างมากมายเท่าไหร่ ไม่ชอบก็เปลี่ยนใหม่
จะมีครั้งนึงเรื่องลูกที่เปลี่ยนไป แต่รู้สึกมันไม่ได้แรงถึงขนาดดึงอารมณ์ไปได้มากมายอะไร อะไรๆมันดูเรียบๆเกือบทั้งเรื่อง
ไม่เหมือน butterfly effect ที่พอไปเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์แล้วมันเปลี่ยนชีวิตไปเป็นอีกคนนึงเลย แถมเปลี่ยนอีกหลายๆคนด้วย
บทสรุปเรื่องพ่อที่น่าจะดึงอารมณ์ได้มากกว่านี้ ฉากพ่อกับพระเอกย้อนเวลาไปครั้งสุดท้าย ผมว่ามันน่าจะดึงอารมณ์ได้มากกว่านี้
ดนตรีน่าจะทรงพลังกว่านี้ แต่ผมกับเฉยๆอีกนั่นแหละ เหมือนมันจะไม่มีจุดพีคเลยเรียบๆง่ายๆไปหมดเลย
เป็นเหตุผลส่วนตัวที่ได้ดูนะครับ แล้วเพื่อนๆล่ะครับคิดว่าหนังทั้งสองเรื่องเป็นอย่างไร และชอบเรื่องไหนมากกว่ากัน
คุณลืมตอบคำถามที่ * จำเป็นต้องตอบ
หนัง About Time กับ butterfly effect ชอบเรื่องไหนมากกว่ากันครับ
หนังทั้งสองเรื่องเป็นหนังเกี่ยวกับเวลาคล้ายๆกันอาจจะต่างกันที่เงื่อนไข บทดราม่าของของพระนางก็คล้ายๆกัน
ความรักที่มีต่อครอบครัวก็คล้ายๆกันอีก สลับกันตรงที่ About Time เป็นความรักที่โฟกัสไปทางพ่อ ส่วน butterfly effect
นั้นโฟกัสไปทางแม่ คะแนนจากimdb ก็ยังไล่ๆกันอีก About Time 7.8 butterfly effect 7.7
ส่วนตรงนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวหลังจากที่ได้ชมทั้งสองเรื่องนะครับ ผมกับชอบ butterfly effect ตรงที่ทุกอย่างมันชัดเจน
มากกว่า ไม่ว่าจะเหตุผล ประเด็น แรงจูงใจ การย้อนเวลาที่มีผลอย่างมากกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น เรียกว่าย้อนกันทีแทบจะเปลี่ยน
โลกทั้งใบ ตรงนี้เป็นจุดที่ทำได้ดีมากทำให้เห็นว่ามันยิ่งใหญ่มากมีพลัง ส่วนบทความรักที่พระเอกมีต่อนางเอก ความรักที่มีต่อแม่
มีต่อเพื่อน มันเห็นมิติของตัวละครเหล่านั้นได้ทุกคน เรียกว่าทุกตัวละครเด่นหมด มีชีวิตเปลียนไปทุกครั้งที่เหตุการณ์บางอย่างเปลี่ยน
มิติของเหตุการณ์ เหล่านั้นมีผลอย่างเห็นได้ชัด และจุดพีคท้ายสุดที่ดึงอารมณ์ได้ดีมากๆ หลังหนังจบยังตราตรึงอารมณ์ความรู้สึก
ได้อย่างดีมาก
ส่วน About Time ผมชอบความสัมพันธ์ของพ่อกับพระเอกมาก แต่ไม่รู้ทำไมผมไม่ค่อยซึ้งเท่าไหร่เลยแฮะ
หรือมันไม่มีประเด็นระหว่างพ่อกับลูกที่มากพอทำให้ผมอินไปได้มากๆ แต่ดูรู้สึกขนลุกอยู่เหมือนกัน ส่วนความรักของพระนาง
อันนี้ไม่รู้ตัวหนังเน้นหรือป่าว แต่ผมรู้สึกมันเป็นความรักที่เรียบง่าย จนดูเหมือนไม่มีอะไรเลย อย่างตอนพระเอกไปที่ห้องกับคนที่พระเอก
รักคนแรก และพระเอกตัดสินใจเลือกนางเอก กลับมาขอแต่งงานตรงนี้แทนที่มันจะดึงอารมณ์ผมได้แต่มันก็เฉยๆอีกนั่นแหละ
ส่วนประเด็นเรื่องย้อนเวลาเหตุผลที่พระเอกเปลี่ยนทุกอย่างมันไม่ได้ส่งผลถึงใครอย่างมากมายเท่าไหร่ ไม่ชอบก็เปลี่ยนใหม่
จะมีครั้งนึงเรื่องลูกที่เปลี่ยนไป แต่รู้สึกมันไม่ได้แรงถึงขนาดดึงอารมณ์ไปได้มากมายอะไร อะไรๆมันดูเรียบๆเกือบทั้งเรื่อง
ไม่เหมือน butterfly effect ที่พอไปเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์แล้วมันเปลี่ยนชีวิตไปเป็นอีกคนนึงเลย แถมเปลี่ยนอีกหลายๆคนด้วย
บทสรุปเรื่องพ่อที่น่าจะดึงอารมณ์ได้มากกว่านี้ ฉากพ่อกับพระเอกย้อนเวลาไปครั้งสุดท้าย ผมว่ามันน่าจะดึงอารมณ์ได้มากกว่านี้
ดนตรีน่าจะทรงพลังกว่านี้ แต่ผมกับเฉยๆอีกนั่นแหละ เหมือนมันจะไม่มีจุดพีคเลยเรียบๆง่ายๆไปหมดเลย
เป็นเหตุผลส่วนตัวที่ได้ดูนะครับ แล้วเพื่อนๆล่ะครับคิดว่าหนังทั้งสองเรื่องเป็นอย่างไร และชอบเรื่องไหนมากกว่ากัน