คำว่า "เนรคุณ" เป็นคำคุณศัพท์ ตามราชบัญฑิตยสถาน
เนรคุณ [ระคุน] ว. อกตัญญูไม่รู้คุณ ไม่สํานึกถึงบุญคุณ.
adj. vt. vi. to be ungrateful, to go against, to revile, to betray (a benefactor)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้ขอเสนอคำว่า "คนเนรคุณ" ดีกว่าเน่อะ โดยการเนรคุณที่เกิดจากตัวบุคคลนั่นเอง
คนเรานั้น เมื่อเกิดมาตัวเป็นตนแล้ว ได้รับสิ่งต่างๆแต่ยังเล็กจนเติบใหญ่ มีที่ให้พักพิง
จากนั้นก็นำวิถีเข้าสู่สังคม โดยเริ่มจากขนาดเล็ก ไปสู่ขนาดใหญ่ อันกว้างใหญ่ไพศาล
การศึกษา ประสบการณ์ นำมาใช้เพื่อดำรงชีพให้ก้าวต่อไปข้างหน้า.....................
คนเรานั้นถูกหล่อหลอมมาด้วยปัจจัยแวดล้อมที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับฐานาณุรูปนั้นๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่พึงระลึกเสมอว่า ทำอะไรให้กับบ้านเมืองบ้าง แค่ตรรกะง่ายๆคือ
ทำสิ่งที่ดี สิ่งที่เป็นประโยชน์ บ้างหรือไม่ คงไม่ต้องไปถึงขนาดที่ว่า
บริจาคเงินจำนวนมหาศาลเพื่อการช่วยเหลือ แต่จิตใจสกปรก ปราศจากรู้ว่า
อะไรดี อะไรชั่ว กุศลย่อมเกิดกับผู้รู้ว่า ทำสิ่งดี สิ่งที่เป็นคุณต่อสังคม ต่อประเทศ
แค่นี้คนก็ชื่นชม ไม่มากก็น้อยครับ.................................
แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่ง หาความดีใดๆไม่ได้ เมื่อมีอำนาจก็ลุแก่อำนาจแม้จะถูกคัดคานก็ตาม
สามัญสำนึกหาได้มีไม่ และก็รู้ทั้งรู้ว่า สิ่งที่กระทำลงไปนั้น นำมาซึ่งความเดือดร้อน
บทเรียนครั้งแรก ย่อมต้องให้อภัย เพราะอาจเกิดจากความโง่ หรือด้อยปัญญาแม้จะขึ้นชื่อว่ามนุษย์ก็ตาม
บ้างก็เลวแต่กำเนิด แต่ปกปิด ซ่อนเร้นอยู่ภายในมาตลอด พอมีโอกาสได้แสดงออก กลับยิ่งซ้ำเติม
ชาติบ้านเมือง โดยหาได้สำนึกแต่ประการใดไม่ บางครั้งก็อ้างหรือเบี่ยงประเด็นแบบซื่อตาใส
แม้จะมีลูกก็ตามที คนประเภทนี้ คงต้องให้ไปดู 4 ขาบ้างก็คงจะดี ว่าพฤติกรรมนั้นเป็นเช่นไรบ้าง
เมื่อมีโอกาส แทนที่จะกระทำตนให้สมกับชื่อเสียง เกียรติยศ วงศ์ตระกูล ....เปล่าเลย...
ยังคงตั้งหน้าตั้งตา กระทำสิ่งที่ชั่วร้าย อย่างไม่ลดละ เขาบอกว่าขึ้นไปสูง ก็ตกลงมาต่ำได้
ปรากฎเป็นประจักษ์ชัดเจนแล้วว่า หันหน้าไปทางไหน ไร้ผู้คนให้ความเชื่อถือ แขนขาที่เคย
มีประโยชน์ เริ่มออกห่าง เพราะมนุษย์นั้น เป็นสัตว์ที่เห็นแก่ตัวอันดับต้นๆ นี่คือเหตุที่ทำให้
เกิดภาวะการดิ้น เพื่อให้อยู่รอดต่อไป คนเรานั้นเมื่อคราจะสิ้นแสง แม้แต่แววตาก็หาความสุขได้ไม่
ที่ออกมาพูดนั่น พูดนี่ ...ก็อย่างว่าแร่ะ.....หมามันจนตรอก......สุภาษิตนี้ ทุกยุคทุกสมัยมีให้เห็น
เกลื่อนกราด ไม่ยักกะสำเนียกไว้บ้าง..................
เกิดในผืนแผ่นดิน.......แต่เกิดมาพร้อมกับ จิตใจที่เหี้ยมโหด ไร้ความปราณี ไร้เมตตา ไร้ศิลธรรม
เกิดในผืนแผ่นดิน.......ข้าว ปลา อาหาร ไม่ได้ช่วยให้มันสำนึกได้ว่า กินบนผืนแผ่นดินที่ให้ที่เกิดมา
เกิดในผืนแผ่นดิน.......เมื่อมีลาภ ยศ เป็นถึงเจ้าคนนายคน ไม่คิดเลยแม้แต่น้อย เรื่องสร้างคุณความดีให้อนุชนได้กล่าวขาน
คนคนนี้เมื่อไม่สำนึกในบุญคุณ เราไม่ว่า เราไม่ท้วง เพราะแผ่นดินในโลกมีอีกมากมาย ตามแต่จะเลือก แต่เมื่อได้เกิด
บนผืนแผ่นดินที่ได้ชื่อว่า แผ่นดินสยาม ไม่รู้คุณ ไม่สำนึก มันจะต่างอะไรกับ
"คนเนรคุณ" ของแผ่นดิน ใช่หรือไม่?
ขอเสนอคำว่า "คนเนรคุณ" อันเกิดจากการกระทำของบุคคลนั้นๆ ทั้งสิ้นคาฟ
คำว่า "เนรคุณ" เป็นคำคุณศัพท์ ตามราชบัญฑิตยสถาน
เนรคุณ [ระคุน] ว. อกตัญญูไม่รู้คุณ ไม่สํานึกถึงบุญคุณ.
adj. vt. vi. to be ungrateful, to go against, to revile, to betray (a benefactor)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้ขอเสนอคำว่า "คนเนรคุณ" ดีกว่าเน่อะ โดยการเนรคุณที่เกิดจากตัวบุคคลนั่นเอง
คนเรานั้น เมื่อเกิดมาตัวเป็นตนแล้ว ได้รับสิ่งต่างๆแต่ยังเล็กจนเติบใหญ่ มีที่ให้พักพิง
จากนั้นก็นำวิถีเข้าสู่สังคม โดยเริ่มจากขนาดเล็ก ไปสู่ขนาดใหญ่ อันกว้างใหญ่ไพศาล
การศึกษา ประสบการณ์ นำมาใช้เพื่อดำรงชีพให้ก้าวต่อไปข้างหน้า.....................
คนเรานั้นถูกหล่อหลอมมาด้วยปัจจัยแวดล้อมที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับฐานาณุรูปนั้นๆ
แต่สิ่งหนึ่งที่พึงระลึกเสมอว่า ทำอะไรให้กับบ้านเมืองบ้าง แค่ตรรกะง่ายๆคือ
ทำสิ่งที่ดี สิ่งที่เป็นประโยชน์ บ้างหรือไม่ คงไม่ต้องไปถึงขนาดที่ว่า
บริจาคเงินจำนวนมหาศาลเพื่อการช่วยเหลือ แต่จิตใจสกปรก ปราศจากรู้ว่า
อะไรดี อะไรชั่ว กุศลย่อมเกิดกับผู้รู้ว่า ทำสิ่งดี สิ่งที่เป็นคุณต่อสังคม ต่อประเทศ
แค่นี้คนก็ชื่นชม ไม่มากก็น้อยครับ.................................
แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่ง หาความดีใดๆไม่ได้ เมื่อมีอำนาจก็ลุแก่อำนาจแม้จะถูกคัดคานก็ตาม
สามัญสำนึกหาได้มีไม่ และก็รู้ทั้งรู้ว่า สิ่งที่กระทำลงไปนั้น นำมาซึ่งความเดือดร้อน
บทเรียนครั้งแรก ย่อมต้องให้อภัย เพราะอาจเกิดจากความโง่ หรือด้อยปัญญาแม้จะขึ้นชื่อว่ามนุษย์ก็ตาม
บ้างก็เลวแต่กำเนิด แต่ปกปิด ซ่อนเร้นอยู่ภายในมาตลอด พอมีโอกาสได้แสดงออก กลับยิ่งซ้ำเติม
ชาติบ้านเมือง โดยหาได้สำนึกแต่ประการใดไม่ บางครั้งก็อ้างหรือเบี่ยงประเด็นแบบซื่อตาใส
แม้จะมีลูกก็ตามที คนประเภทนี้ คงต้องให้ไปดู 4 ขาบ้างก็คงจะดี ว่าพฤติกรรมนั้นเป็นเช่นไรบ้าง
เมื่อมีโอกาส แทนที่จะกระทำตนให้สมกับชื่อเสียง เกียรติยศ วงศ์ตระกูล ....เปล่าเลย...
ยังคงตั้งหน้าตั้งตา กระทำสิ่งที่ชั่วร้าย อย่างไม่ลดละ เขาบอกว่าขึ้นไปสูง ก็ตกลงมาต่ำได้
ปรากฎเป็นประจักษ์ชัดเจนแล้วว่า หันหน้าไปทางไหน ไร้ผู้คนให้ความเชื่อถือ แขนขาที่เคย
มีประโยชน์ เริ่มออกห่าง เพราะมนุษย์นั้น เป็นสัตว์ที่เห็นแก่ตัวอันดับต้นๆ นี่คือเหตุที่ทำให้
เกิดภาวะการดิ้น เพื่อให้อยู่รอดต่อไป คนเรานั้นเมื่อคราจะสิ้นแสง แม้แต่แววตาก็หาความสุขได้ไม่
ที่ออกมาพูดนั่น พูดนี่ ...ก็อย่างว่าแร่ะ.....หมามันจนตรอก......สุภาษิตนี้ ทุกยุคทุกสมัยมีให้เห็น
เกลื่อนกราด ไม่ยักกะสำเนียกไว้บ้าง..................
เกิดในผืนแผ่นดิน.......แต่เกิดมาพร้อมกับ จิตใจที่เหี้ยมโหด ไร้ความปราณี ไร้เมตตา ไร้ศิลธรรม
เกิดในผืนแผ่นดิน.......ข้าว ปลา อาหาร ไม่ได้ช่วยให้มันสำนึกได้ว่า กินบนผืนแผ่นดินที่ให้ที่เกิดมา
เกิดในผืนแผ่นดิน.......เมื่อมีลาภ ยศ เป็นถึงเจ้าคนนายคน ไม่คิดเลยแม้แต่น้อย เรื่องสร้างคุณความดีให้อนุชนได้กล่าวขาน
คนคนนี้เมื่อไม่สำนึกในบุญคุณ เราไม่ว่า เราไม่ท้วง เพราะแผ่นดินในโลกมีอีกมากมาย ตามแต่จะเลือก แต่เมื่อได้เกิด
บนผืนแผ่นดินที่ได้ชื่อว่า แผ่นดินสยาม ไม่รู้คุณ ไม่สำนึก มันจะต่างอะไรกับ
"คนเนรคุณ" ของแผ่นดิน ใช่หรือไม่?