สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ต้องพูดในลักษณะขอความร่วมมือครับ พูดกับเค้าดีๆ ถึงความเดือดร้อนของเรา
เพื่อขอความเห็นใจกันในฐานะเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงกัน หากเค้ามีจิตสำนึกที่ดี
เค้าต้องยอมที่จะแก้ไข ซึ่งสำคัญมากเลยนะครับ เรื่องของการพูดจาตักเตือนกัน
ทั้งคำพูด ทั้งน้ำเสียง ทั้งสีหน้าท่าทาง ทุกอย่างสำคัญหมด ทำอย่างไรให้เค้ารู้สึก
เค้าไม่ได้ถูกตำหนิ เค้าไม่ได้ทำผิด และเค้าไม่ได้ถูกรังเกียจ เพียงแต่สิ่งที่เค้าทำ
อาจทำให้เราต้องไ้ด้รับความเดือดร้อนไปบ้าง ขอความร่วมมือให้แก้ไขหน่อยได้มั้ย
พูดกับเค้าด้วยท่าทางที่เป็นมิตร
ส่วนตัวยังเคยเผลอไปสูบบุหรี่ในปั๊มน้ำมันเลยครับ ซึ่งผมเห็นว่าอยู่ห่างจากที่จ่าย
น้ำมัน ซึ่งออกมาในส่วนลานจอดรถแล้ว จึงไม่ได้ให้ความสำคัญ มีน้องพนักงาน
คนหนึ่ง เดินมาเตือนผม พูดจาดี ท่าทางกิริยาดูนอบน้อมมาก แทนที่ผมจะรู้สึกโกรธ
ผมกลับเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ที่ผมไปสูบในปั๊ม และยินดีที่จะทิ้งบุหรี่ลง
ไม่สูบต่ออีก โดยไม่ได้รู้สึกโกรธพนักงานคนนั้นเลย ซึ่งก็เคยมีที่ผมไปสูบในที่
สาธารณะ แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่ง เดินเข้ามาเตือนผม แต่พูดจาไม่ค่อยดี เข้าใจว่า
คงเกิดจากอารมณ์ไม่ดีด้วย แต่เรื่องแบบนี้ หากตักเตือนกัน ก็พูดจาดีๆกันก็ได้
ผมก็ไม่ใช่คนพูดไม่รู้เรื่องอะไร แต่ทำไมจึงต้องใส่อารมณ์ พูดจา กิริยาท่าทาง
แย่มาก ซึ่งผมก็รู้นะว่าผมผิด แต่ผมก็ยังจะสูบต่อ (อารมณ์ประมาณว่า มีปัญหาอะไร)
ซึ่งแทนที่ผมจะรู้สึกอยากให้ความร่วมมือกับเค้า แต่พอเจอท่าทีของเค้าแบบนั้นแล้ว
กลับกลายเป็นความรู้สึกต่อต้านขึ้นมาทันทีทันใด ซึ่งผมก็รู้นะครับ ว่าเราทำไม่ถูก
แต่ด้วยความที่รู้สึกไม่ดีกับลักษณะการเข้ามาเตือนของเค้าเท่านั้น คุณแย่มา เราก็แย่ไป
ซึ่งสำคัญมากเลยนะครับ เราจะทำให้เค้าร่วมมือกับเรา หรือต่อต้านเรา ก็อยู่ที่การ
เข้าหาเค้า ไปพูดกับเค้าให้ได้เข้าใจ อย่างจริงใจครับ ผมเชื่อว่า หาก จขกท. มี
เจตนาที่ดี และมีความตั้งใจดีจริงๆ เค้าต้องให้ความร่วมมือแน่นอนครับ ลองดูนะครับ
แล้วผลออกมาเป็นอย่างไร อย่าลืมมาบอกกันด้วยนะครับ ผมขอติดตามเรื่องนี้
ของคุณ จขกท. นะครับ
เพื่อขอความเห็นใจกันในฐานะเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงกัน หากเค้ามีจิตสำนึกที่ดี
เค้าต้องยอมที่จะแก้ไข ซึ่งสำคัญมากเลยนะครับ เรื่องของการพูดจาตักเตือนกัน
ทั้งคำพูด ทั้งน้ำเสียง ทั้งสีหน้าท่าทาง ทุกอย่างสำคัญหมด ทำอย่างไรให้เค้ารู้สึก
เค้าไม่ได้ถูกตำหนิ เค้าไม่ได้ทำผิด และเค้าไม่ได้ถูกรังเกียจ เพียงแต่สิ่งที่เค้าทำ
อาจทำให้เราต้องไ้ด้รับความเดือดร้อนไปบ้าง ขอความร่วมมือให้แก้ไขหน่อยได้มั้ย
พูดกับเค้าด้วยท่าทางที่เป็นมิตร
ส่วนตัวยังเคยเผลอไปสูบบุหรี่ในปั๊มน้ำมันเลยครับ ซึ่งผมเห็นว่าอยู่ห่างจากที่จ่าย
น้ำมัน ซึ่งออกมาในส่วนลานจอดรถแล้ว จึงไม่ได้ให้ความสำคัญ มีน้องพนักงาน
คนหนึ่ง เดินมาเตือนผม พูดจาดี ท่าทางกิริยาดูนอบน้อมมาก แทนที่ผมจะรู้สึกโกรธ
ผมกลับเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ที่ผมไปสูบในปั๊ม และยินดีที่จะทิ้งบุหรี่ลง
ไม่สูบต่ออีก โดยไม่ได้รู้สึกโกรธพนักงานคนนั้นเลย ซึ่งก็เคยมีที่ผมไปสูบในที่
สาธารณะ แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่ง เดินเข้ามาเตือนผม แต่พูดจาไม่ค่อยดี เข้าใจว่า
คงเกิดจากอารมณ์ไม่ดีด้วย แต่เรื่องแบบนี้ หากตักเตือนกัน ก็พูดจาดีๆกันก็ได้
ผมก็ไม่ใช่คนพูดไม่รู้เรื่องอะไร แต่ทำไมจึงต้องใส่อารมณ์ พูดจา กิริยาท่าทาง
แย่มาก ซึ่งผมก็รู้นะว่าผมผิด แต่ผมก็ยังจะสูบต่อ (อารมณ์ประมาณว่า มีปัญหาอะไร)
ซึ่งแทนที่ผมจะรู้สึกอยากให้ความร่วมมือกับเค้า แต่พอเจอท่าทีของเค้าแบบนั้นแล้ว
กลับกลายเป็นความรู้สึกต่อต้านขึ้นมาทันทีทันใด ซึ่งผมก็รู้นะครับ ว่าเราทำไม่ถูก
แต่ด้วยความที่รู้สึกไม่ดีกับลักษณะการเข้ามาเตือนของเค้าเท่านั้น คุณแย่มา เราก็แย่ไป
ซึ่งสำคัญมากเลยนะครับ เราจะทำให้เค้าร่วมมือกับเรา หรือต่อต้านเรา ก็อยู่ที่การ
เข้าหาเค้า ไปพูดกับเค้าให้ได้เข้าใจ อย่างจริงใจครับ ผมเชื่อว่า หาก จขกท. มี
เจตนาที่ดี และมีความตั้งใจดีจริงๆ เค้าต้องให้ความร่วมมือแน่นอนครับ ลองดูนะครับ
แล้วผลออกมาเป็นอย่างไร อย่าลืมมาบอกกันด้วยนะครับ ผมขอติดตามเรื่องนี้
ของคุณ จขกท. นะครับ
ความคิดเห็นที่ 40
ผมทำมาทุกวิธีแล้วครับ คนสูบเป็นแม่บ้าน ข้างๆบ้าน เป็นบ้านเช่า รั้วติดกัน แกจะนั่งสูบในบ้าน ริมรั้วบ้านผมตลอด บุหรี่ที่แกสูบเป็นชนิดที่กลิ่นแรงมาก สูบมวนต่อมวน ทั้งวัน แกเหมือนเป็นโรคจิตอ่อนๆด้วย เพื่อนบ้านคุยกับแก แกไม่เคยคุยตอบเลย และผัวแก ลูกแก ไม่ชอบให้ออกจากบ้าน ผัวแกขับรถขายน้ำหวาน เมียไม่ทำงาน อยู่แต่บ้าน สูบบุหรี่ ได้ข่าวว่ามีเรื่องกับ ข้างบ้านเช่าหลังเก่า จนต้องย้ายมาข้างบ้านผม
- ผมเริ่มจากคุยดีๆ คุยกับผัวแก คุยกับลูกแก ก็ไม่ได้ผล แกก็ยังสูบเยอะเหมือนเดิม
- ต่อมาผมเริ่มคุยแรงขึ้น เสียงดัง พยายามบอกเหตุผลต่างๆนาๆ เช่นเดือดร้อน เป็นภูมิแพ้ ขอให้หยุดสูบเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ ที่ผมอยู่บ้าน แกไม่เคยตอบผมเลย ส่วนลูกผัวแก ก็บอกว่าจะคุยให้ ก็ไม่ได้ผล แกก็ยังสูบเยอะเหมือนเดิม
- ต่อมาผมของขึ้น ด่าเลย แม่ผมอยู่อีกบ้าน ก็มาช่วยด่า ด่าทุกครั้งที่ได้กลิ่นเช่น เหม็นโว้ย สูบอยู่ได้ ก็เหมือนจะได้ผลนิดหน่อย พี่แกก็เดินเข้าบ้านไป ทิ้งกลิ่นเอาไว้ แต่วันต่อมา ก็มาสูบเหมือนเดิม
- ต่อมาผมของขึ้นสุดๆ ด่าแรงๆดังๆ face to face ผัวเขา ก็บอกว่า คนมันติดบุหรี่จะให้ทำไง ไปสูบหน้าบ้านคนอื่น คนอื่นเขาก็ด่า ผมว่าทำไมไม่ไปสูบหลังบ้านหรือชั้น2 เขาว่าบ้านเขาก็เหม็นบุหรี่เหมือนกัน ไม่ทำอะไรทั้งนั้น จะให้ผมออกเงินทำกำแพงปิดรั้วอย่างเดียว ผมโกรธมากที่เขาปัดความรับผิดชอบ บ้านเขาเหม็นบุหรี่ แต่ให้เมียมาสูบริมรั้วบ้านผมแทน ผมกะจะกระชากคอเสื้อจะต่อยแบบขู่ๆ แต่แม่ห้ามไว้ได้ ลูกแกเรียนตำรวจมาจะจับผม ก็ไปโรงพักกัน ตำรวจเจรจาขอให้เมียแกหยุดสูบ ผัวแกรับปาก แต่หลายวันต่อมา เมียก็มาสูบเหมือนเดิม
- ต่อมา ผมก็พยายามทน จนวันหนึ่งทนไม่ไหว กลิ่นบุหรี่แรงมาก ด่าแล้วก็ยังสูบ เหมือนไม่สนใจผม ผมก็เอาน้ำฉีดแกเลย แกเดินหนีเข้าบ้านไป แต่หลายวันต่อมา ก็มาสูบเหมือนเดิม
- ต่อมาอีก ผมทนไม่ไหวอีกรอบ ฉีดน้ำใส่ แต่ไม่ฉีดใส่แก ฉีดใส่ชั้นรองเท้า อัดเข้าไปในบ้าน ลูกแกอยู่พอดี โวยวาย โทรเรียกตำรวจมาอีกครั้ง ตำรวจก็มาเคลีย ให้ไปคุยที่โรงพัก ตอนรอตำรวจ ผมนั่งคิดอยู่นาน ถึงสิ่งที่ทำไปทุกอย่าง หาวิธีแก้ไขปัญหา ผมรู้ว่า ถ้าผมยังไม่หยุด ผมจะต้องทำอะไรเกิดกว่าฉีดน้ำแน่ๆ พอตำรวจมา ลูกแกก็ฟ้องตำรวจ ผมก็เจรจาพูดดีๆ ลูกแกก็พูดด่าผมว่า ผมฉีดน้ำเข้าบ้านแก ทำให้บ้านแกเดือดร้อน จะให้ตำรวจเอาผิดผมให้ได้ ผมก็บอกว่า ผมไม่ได้ต้องการฉีดน้ำให้ของเปียก แต่อยากให้รู้ว่าเวลาผมโดนควันบุหรี่ทุกวัน ทุกชั่วโมง มันรู้สึกอย่างไร ลูกแกเถึยงเหมือนแม่ค้า (คงเป็นแม่ค้าแหละ แนวอารมณ์ ไม่เหตุผล) พูดทำนอง แม่ติดบุหรี่ ไม่สูบไม่ได้ ยังไงก็ต้องสูบ ให้ผมเลิกฉีดน้ำซะ ผมเซ็งมาก เซ็งจริงๆ ผมก็เลยหมดกำลังใจ ปล่อยวาง บอกว่า ok คุณปล่อยให้แม่คุณสูบไปเลย ผมจะไม่บ่น ไม่ด่า ไม่ฉีดน้ำ อะไรอีกแล้ว อยากทำอะไรก็ทำเถอะ ผมก็นั่งบนพื้น ลูกแกก็ด่าผมต่อ จะให้ตำรวจจับให้ได้ โกรธที่ของเปียก ด่ารดหัวผม แม่ผมเหลืออด ก็เลยขู่ลูกแกว่า ถ้าทำอะไรลูกกู กูจะฆ่า เงียบกันไปหมด แล้วตำรวจก็บอกให้ผมพาแม่กลับบ้านก่อน แล้วเขาก็คุยกับบ้านที่สูบบุหรี่ต่อ
- หลังจากนั้น ผมก็เรียกช่างมาทำกำแพง ให้กันควันได้นิดนึงก็ยังดี บ้านอยู่ใต้ลม แต่ที่งงคือ ไม่เห็นแกมาสูบบุหรี่ริมบ้านผมอีกเลย และไม่รู้ว่า แกไปสูบที่ไหนด้วย เป็นแบบนี้มาจะปีแล้ว ทั้งๆที่ผมทำใจว่าจะทน และไม่บ่นแกอีกแล้ว
- ผมเริ่มจากคุยดีๆ คุยกับผัวแก คุยกับลูกแก ก็ไม่ได้ผล แกก็ยังสูบเยอะเหมือนเดิม
- ต่อมาผมเริ่มคุยแรงขึ้น เสียงดัง พยายามบอกเหตุผลต่างๆนาๆ เช่นเดือดร้อน เป็นภูมิแพ้ ขอให้หยุดสูบเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ ที่ผมอยู่บ้าน แกไม่เคยตอบผมเลย ส่วนลูกผัวแก ก็บอกว่าจะคุยให้ ก็ไม่ได้ผล แกก็ยังสูบเยอะเหมือนเดิม
- ต่อมาผมของขึ้น ด่าเลย แม่ผมอยู่อีกบ้าน ก็มาช่วยด่า ด่าทุกครั้งที่ได้กลิ่นเช่น เหม็นโว้ย สูบอยู่ได้ ก็เหมือนจะได้ผลนิดหน่อย พี่แกก็เดินเข้าบ้านไป ทิ้งกลิ่นเอาไว้ แต่วันต่อมา ก็มาสูบเหมือนเดิม
- ต่อมาผมของขึ้นสุดๆ ด่าแรงๆดังๆ face to face ผัวเขา ก็บอกว่า คนมันติดบุหรี่จะให้ทำไง ไปสูบหน้าบ้านคนอื่น คนอื่นเขาก็ด่า ผมว่าทำไมไม่ไปสูบหลังบ้านหรือชั้น2 เขาว่าบ้านเขาก็เหม็นบุหรี่เหมือนกัน ไม่ทำอะไรทั้งนั้น จะให้ผมออกเงินทำกำแพงปิดรั้วอย่างเดียว ผมโกรธมากที่เขาปัดความรับผิดชอบ บ้านเขาเหม็นบุหรี่ แต่ให้เมียมาสูบริมรั้วบ้านผมแทน ผมกะจะกระชากคอเสื้อจะต่อยแบบขู่ๆ แต่แม่ห้ามไว้ได้ ลูกแกเรียนตำรวจมาจะจับผม ก็ไปโรงพักกัน ตำรวจเจรจาขอให้เมียแกหยุดสูบ ผัวแกรับปาก แต่หลายวันต่อมา เมียก็มาสูบเหมือนเดิม
- ต่อมา ผมก็พยายามทน จนวันหนึ่งทนไม่ไหว กลิ่นบุหรี่แรงมาก ด่าแล้วก็ยังสูบ เหมือนไม่สนใจผม ผมก็เอาน้ำฉีดแกเลย แกเดินหนีเข้าบ้านไป แต่หลายวันต่อมา ก็มาสูบเหมือนเดิม
- ต่อมาอีก ผมทนไม่ไหวอีกรอบ ฉีดน้ำใส่ แต่ไม่ฉีดใส่แก ฉีดใส่ชั้นรองเท้า อัดเข้าไปในบ้าน ลูกแกอยู่พอดี โวยวาย โทรเรียกตำรวจมาอีกครั้ง ตำรวจก็มาเคลีย ให้ไปคุยที่โรงพัก ตอนรอตำรวจ ผมนั่งคิดอยู่นาน ถึงสิ่งที่ทำไปทุกอย่าง หาวิธีแก้ไขปัญหา ผมรู้ว่า ถ้าผมยังไม่หยุด ผมจะต้องทำอะไรเกิดกว่าฉีดน้ำแน่ๆ พอตำรวจมา ลูกแกก็ฟ้องตำรวจ ผมก็เจรจาพูดดีๆ ลูกแกก็พูดด่าผมว่า ผมฉีดน้ำเข้าบ้านแก ทำให้บ้านแกเดือดร้อน จะให้ตำรวจเอาผิดผมให้ได้ ผมก็บอกว่า ผมไม่ได้ต้องการฉีดน้ำให้ของเปียก แต่อยากให้รู้ว่าเวลาผมโดนควันบุหรี่ทุกวัน ทุกชั่วโมง มันรู้สึกอย่างไร ลูกแกเถึยงเหมือนแม่ค้า (คงเป็นแม่ค้าแหละ แนวอารมณ์ ไม่เหตุผล) พูดทำนอง แม่ติดบุหรี่ ไม่สูบไม่ได้ ยังไงก็ต้องสูบ ให้ผมเลิกฉีดน้ำซะ ผมเซ็งมาก เซ็งจริงๆ ผมก็เลยหมดกำลังใจ ปล่อยวาง บอกว่า ok คุณปล่อยให้แม่คุณสูบไปเลย ผมจะไม่บ่น ไม่ด่า ไม่ฉีดน้ำ อะไรอีกแล้ว อยากทำอะไรก็ทำเถอะ ผมก็นั่งบนพื้น ลูกแกก็ด่าผมต่อ จะให้ตำรวจจับให้ได้ โกรธที่ของเปียก ด่ารดหัวผม แม่ผมเหลืออด ก็เลยขู่ลูกแกว่า ถ้าทำอะไรลูกกู กูจะฆ่า เงียบกันไปหมด แล้วตำรวจก็บอกให้ผมพาแม่กลับบ้านก่อน แล้วเขาก็คุยกับบ้านที่สูบบุหรี่ต่อ
- หลังจากนั้น ผมก็เรียกช่างมาทำกำแพง ให้กันควันได้นิดนึงก็ยังดี บ้านอยู่ใต้ลม แต่ที่งงคือ ไม่เห็นแกมาสูบบุหรี่ริมบ้านผมอีกเลย และไม่รู้ว่า แกไปสูบที่ไหนด้วย เป็นแบบนี้มาจะปีแล้ว ทั้งๆที่ผมทำใจว่าจะทน และไม่บ่นแกอีกแล้ว
แสดงความคิดเห็น
มีรุ่นน้องเป็นทุกข์เพราะเพื่อนบ้านที่มาใหม่ "สูบบุหรี่" จัดมาก "ควันบุหรี่" ลอยตามลมเข้าบ้านรุ่นน้องตลอด เขาทำอย่างไรดี