#ระบอบไทยๆ นี้ เป็นระบอบที่เกิดขึ้นมาจากนิสัย สันดาน สภาพแวดล้อม แนวคิดพฤติกรรมและ #สังคมแบบไทยๆ ที่ส่วนใหญ่ ที่รักสบาย มักง่าย #เล่นพรรคเล่นพวก #มือถือสากปากถือศีล ไม่ซื่อสัตย์ ไม่มีอุดมการณ์ และที่สำคัญในช่วงหลังคือวัดค่าของคนจากเงิน ของใช้ สิ่งที่มองเห็นจากข้างนอก #ระบบอุปภัมท์
ในเมื่อการวัดค่าของคนไม่ได้อยู่ที่จิตใจ ความดีงาม ความสามารถอีกต่อไป คนส่วนใหญ่จึงมีเป้าหมายใหม่ เป็นการทำอย่างไรก็ได้ให้มีเงินมากที่สุด เมื่อความต้องการเงินมากๆโดยไม่เลือกวิธีการ ไปรวมกับนิสัยแบบไทยๆ ที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ จึงนำไปสู่การ #คอรัปชั่น ทั้งใน นอก ลับ และเปิดเผย #การคอรัปชั่นมีขึ้นทุกแทบหน่วยงานราชการ รวมไปถึงทุกคนในเอกชนและภาคครัวเรือน ที่เป็นหนึ่งในตัวการส่งเสริมการคอรัปชั่น (#ยอมให้ชาติเสียประโยชน์เพื่อตัวเองได้ประโยชน์)
ถ้าเกิดและโตมาจนอ่านหนังสือออกเล่นเฟซบุคได้ #คงไม่มีใครไม่เคยเกี่ยวข้องกับการคอรัปชั่น #ฝากลูกเข้าโรงเรียน #ยัดเงินตำรวจ #โกงภาษีเงินได้ สารพัดการคอรัปชั่นในชีวิตประจำวัน (ไม่ต้องพูดถึงการคอรัปชั่นระดับนักการเมืองที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว)
ที่น่าแปลกใจ #คือคนไทยรับได้ #แถมอยู่กับมันได้อย่างมีความสุขอีกด้วย #ด่านักการเมืองว่าเลวทุกคน ถึงเวลา ขอให้ช่วยฝากลูกเข้าโรงเรียน
#ด่าตำรวจไม่มีดี ถึงเวลา ช่วยหนูหน่อยนะพี่ ขี้เกียจไปโรงพัก บลาบลาบลา
#สิ่งเหล่านี้คือระบอบไทยๆ มีมานานแล้ว เราอยู่กับมันมานาน แต่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น เมื่อตัวเองใช้บริการมัน
>>
ถามอีกรอบ สมมุติพรุ่งนี้ #สุเทพชนะ คิดว่าไอ้ระบอบไทยๆที่หยั่งรากลึกมานาน มันจะหายไปหรือ? #ข้าราชการ #ตำรวจ #ประชาชน #นักการเมืองทุกคน จะพร้อมใจกันเป็นคนดีขึ้นมากกว่าเดิมทันที อ่าห์ #โลกช่างสวยงาม #เราอยู่ในยูโทเปีย คิดแบบนั้นกันจริงๆหรือ?
#การปลุกระดมม็อบไปปิดสถานที่ราชการก็ไม่ใช่การแก้ปัญหา เพราะนักการเมืองทุกฝ่ายมีเงินทุนและมวลชนของตัวเองมากพอ พอที่จะปลุกม็อบมากี่ครั้งก็ได้ เมื่อฝ่ายตรงข้ามได้เป็นรัฐบาล กลายเป็นวังวนอัปยศที่หาทางออกไม่ได้ของประเทศไทย
... ทางแก้ของปัญหาการเมืองในประเทศ ผมเชื่อว่าไม่มีทางออกจากวงจรอุบาทว์ ไม่ว่าจะก่อม็อบไปเปลี่ยนรัฐบาลไปซักกี่รัฐบาล ถ้าคนไทยไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง ปฏิวัติตัวเองจากข้างในเลิกเห็นแก่ความสบาย เลิกร้องขอสิทธิพิเศษ (เลิกใช้ระบบอุปภัมท์) เลิกมองคนที่ภายนอก เลิกคิดมักง่าย เลิกขับรถผิดกฏจราจร เลิกเล่นพรรคเล่นพวก เลิกมือถือสากปากถือศีล บลา บลา บลา หันมามองความสามารถภายใน ความดี ความมีคุณธรรม... และเคารพกติกา ให้เกียรติคนอื่น ...
สมมุติ สุเทพชนะ คิดว่าไอ้ระบอบไทยๆที่หยั่งรากลึกมานาน ข้าราชการ ตำรวจ ประชาชน นักการเมือง จะกลายเป็นคนดีทันที?
ในเมื่อการวัดค่าของคนไม่ได้อยู่ที่จิตใจ ความดีงาม ความสามารถอีกต่อไป คนส่วนใหญ่จึงมีเป้าหมายใหม่ เป็นการทำอย่างไรก็ได้ให้มีเงินมากที่สุด เมื่อความต้องการเงินมากๆโดยไม่เลือกวิธีการ ไปรวมกับนิสัยแบบไทยๆ ที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ จึงนำไปสู่การ #คอรัปชั่น ทั้งใน นอก ลับ และเปิดเผย #การคอรัปชั่นมีขึ้นทุกแทบหน่วยงานราชการ รวมไปถึงทุกคนในเอกชนและภาคครัวเรือน ที่เป็นหนึ่งในตัวการส่งเสริมการคอรัปชั่น (#ยอมให้ชาติเสียประโยชน์เพื่อตัวเองได้ประโยชน์)
ถ้าเกิดและโตมาจนอ่านหนังสือออกเล่นเฟซบุคได้ #คงไม่มีใครไม่เคยเกี่ยวข้องกับการคอรัปชั่น #ฝากลูกเข้าโรงเรียน #ยัดเงินตำรวจ #โกงภาษีเงินได้ สารพัดการคอรัปชั่นในชีวิตประจำวัน (ไม่ต้องพูดถึงการคอรัปชั่นระดับนักการเมืองที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว)
ที่น่าแปลกใจ #คือคนไทยรับได้ #แถมอยู่กับมันได้อย่างมีความสุขอีกด้วย #ด่านักการเมืองว่าเลวทุกคน ถึงเวลา ขอให้ช่วยฝากลูกเข้าโรงเรียน
#ด่าตำรวจไม่มีดี ถึงเวลา ช่วยหนูหน่อยนะพี่ ขี้เกียจไปโรงพัก บลาบลาบลา
#สิ่งเหล่านี้คือระบอบไทยๆ มีมานานแล้ว เราอยู่กับมันมานาน แต่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น เมื่อตัวเองใช้บริการมัน
>>
ถามอีกรอบ สมมุติพรุ่งนี้ #สุเทพชนะ คิดว่าไอ้ระบอบไทยๆที่หยั่งรากลึกมานาน มันจะหายไปหรือ? #ข้าราชการ #ตำรวจ #ประชาชน #นักการเมืองทุกคน จะพร้อมใจกันเป็นคนดีขึ้นมากกว่าเดิมทันที อ่าห์ #โลกช่างสวยงาม #เราอยู่ในยูโทเปีย คิดแบบนั้นกันจริงๆหรือ?
#การปลุกระดมม็อบไปปิดสถานที่ราชการก็ไม่ใช่การแก้ปัญหา เพราะนักการเมืองทุกฝ่ายมีเงินทุนและมวลชนของตัวเองมากพอ พอที่จะปลุกม็อบมากี่ครั้งก็ได้ เมื่อฝ่ายตรงข้ามได้เป็นรัฐบาล กลายเป็นวังวนอัปยศที่หาทางออกไม่ได้ของประเทศไทย
... ทางแก้ของปัญหาการเมืองในประเทศ ผมเชื่อว่าไม่มีทางออกจากวงจรอุบาทว์ ไม่ว่าจะก่อม็อบไปเปลี่ยนรัฐบาลไปซักกี่รัฐบาล ถ้าคนไทยไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง ปฏิวัติตัวเองจากข้างในเลิกเห็นแก่ความสบาย เลิกร้องขอสิทธิพิเศษ (เลิกใช้ระบบอุปภัมท์) เลิกมองคนที่ภายนอก เลิกคิดมักง่าย เลิกขับรถผิดกฏจราจร เลิกเล่นพรรคเล่นพวก เลิกมือถือสากปากถือศีล บลา บลา บลา หันมามองความสามารถภายใน ความดี ความมีคุณธรรม... และเคารพกติกา ให้เกียรติคนอื่น ...