หนูจะคุยกับแม่เรื่องซื้อรถอย่างไรดีคะ เครียดค่ะ

สวัสดีค่ะ หนูมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ เมื่อเช้านี้ หนูคุยโทรศัพท์กับแม่ แม่บอกว่าจะซื้อรถ ช่วยไปเซ็นสัญญาให้หน่อย                                     
หนูตกใจตื่นจากอาการงัวเงีย แล้วถามซ้ำอีกครั้ง  แม่บอกพรุ่งนี้เตรียมหลักฐานที่ต้องใช้มาด้วยนะ รายละเอียดอย่างไรก็ยังไม่ทราบชัดเจนค่ะ ทราบแต่เพียงว่า จะซื้อรถ จะให้ใช้เป็นชื่อหนู แม่ค้ำ

ตอนกลางวันเลยโทรหาแม่ แม่บอกว่า จะซื้อรถต่อจากอา(เป็นน้องสาวของพ่อเลี้ยงหนูค่ะ) หนูก็ถามรายละเอียดคร่าวๆว่า รถอะไร ราคาเท่าไร ผ่อนเดือนเท่าไร รถกี่ปีแล้ว รถคันเก่าล่ะ(ที่บ้านมีรถคันเก่าซึ่งเป็นของพ่อเลี้ยง แต่ก็ยังขับได้อยู่)

แม่ตอบมาว่า เป็นรถกระบะวีโก้ ราคา 4 แสน ผ่อนไฟแนนซ์เดือนละ 8,000 ผ่อน 5 ปี รถประมาณ 5 ปี บอกว่าคันเก่ามันเก่าแล้ว และจะใช้ชื่อหนูเฉยๆ แต่คนผ่อนคือพ่อเลี้ยง ส่วนแม่เป็นคนค้ำ ไม่ให้หนูลำบากหรอก หนูเลยถามว่า ทำไมพ่อเลี้ยงไม่ใช้ชื่อตัวเอง แม่บอกว่า เค้าใช้ชื่อเข้าไฟแนนซ์ให้รถลุงของหนูไปแล้ว เนื่องจากลุงหนูมีอาชีพค้าขาย ไม่มีสลิปเงินเดือน ซึ่งลุงของหนูขาดส่งไปช่วงหนึ่ง เค้าเลยติด blacklist ไม่สามารถใช้ชื่อซื้อรถได้

หนูเลยถามว่า แล้วค่าใช้จ่ายจะพอเหรอ เงินเดือนหมื่นกว่าบาทเองนะ (รวมโอแล้วก็ไม่เกิน 2 หมื่นค่ะ)แม่หนูตอบกลับมาว่า "พอ แค่ 8,000 เอง" หนูเลยถามกลับว่า มันไม่ใช่ค่าผ่อนรถนะ ค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าภาษี ค่าบำรุงนู่นนี่นั่น จะพอเหรอออออ
แม่ไม่ตอบค่ะ เปลี่ยนไปเรื่องอื่น (คงไม่ได้คิดถึงค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะแม่ไม่เคยซื้อรถ เคยขับแต่มอเตอร์ไซค์)....

สิ่งที่หนูกังวลก็คือ เรื่องค่าใช้จ่ายค่ะ จริงอยู่ บ้านไม่ต้องเช่า แล้วก็อยู่ต่างจังหวัด ค่าครองชีพก็ไม่สูงมาก แต่สิ่งที่หนูกลัวคือ
ถ้าเกิดฉุกเฉินต้องใช้เงินเยอะขึ้นมา เนื่องจากแม่หนูไม่สบายอยู่ และมียายที่แก่มากแล้ว จะทำอย่างไร หนูจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าจะผ่อนกันไหว หากไหวก็คงชักหน้าไม่ถึงหลัง ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมา ถ้าให้หนูผ่อน บอกตามตรงหนูก็ไม่อยากผ่อนค่ะ เพราะหนูไม่อยากได้อยู่แล้วตั้งแต่แรก แต่แม่เป็นคนค้ำ หนูก็ไม่อยากเห็นแม่ขึ้นโรงขึ้นศาล และหนูก็ไม่อยากเสียเครดิตทางการเงิน เวลาทำเรื่องกู้อะไร มันก็คงลำบากค่ะ แล้วมันก็คงวนลูปมาที่หนูอีกครั้ง  

ส่วนเงินหนูที่เก็บไว้ ก็เก็บไว้เผื่อฉุกเฉินให้แม่กับยายอยู่แล้วค่ะ หนูไม่อยากจะเสียเงินกับเรื่องนี้เลยค่ะ เพราะหนูมองว่ารถคันเก่าก็
ยังใช้ได้อยู่ และไม่ได้ใช้ไปไหนมาไหนบ่อยด้วย จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้รถคันใหม่ในเร็วๆนี้ อีกทั้งรถได้มา ก็มีแต่เสื่อมราคาลงอีก

อีกอย่างจากประสบการณ์แล้ว หนูมีแววว่าจะต้องเสียเงินค่ะ คิดว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ เนื่องจากแม่หนูเป็นคนที่อยากได้อะไรแล้วต้องได้ ก็จะมาบอกหนูให้ดูนั่นดูนี่ให้หน่อย คำว่าดูของแม่หนูคือ ซื้อให้หน่อย แล้วหนูเป็นพวกใจอ่อน ขี้สงสารค่ะ ก็ซื้อให้ทุกครั้ง หลังๆหนูเริ่มใจแข็งแล้วค่ะ เพราะบางอย่างมันก็ไม่จำเป็นอะไรเลย เพียงแต่เห็นคนอื่นเค้ามีเลยอยากมีบ้าง และแม่หนูมองว่าหนูทำงานมีเงินเดือน (เงินเดือนหนูสองหมื่นปลายๆ ค่ะ) เลยร้องขออะไรแบบง่ายๆ และคิดว่าหนูคงให้ได้ทุกอย่าง มีอะไรที่หนูให้ได้ หนูก็ให้ค่ะ เพราะเค้าเป็นแม่ แต่หนูก็อยากเก็บเงินไว้เรียนต่อ เก็บเงินไว้ซื้อบ้านเป็นของตัวเองบ้าง

สำหรับพ่อเลี้ยงหนู จากที่หนูดู เค้าก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลยค่ะ ดูแลแม่หนูได้ หนูไม่ได้กลัวว่าเค้าจะเบี้ยวหนีไปทั้งรถนะคะ หนูกลัวว่าหากเกิดไรขึ้น
มาที่เราไม่คาดคิด อะไรๆมันก็ไม่แน่นอนนะคะ เราจะทำอย่างไร ถ้าหนูไม่ทำ หนูจะกลายเป็นลูกอกตัญญูหรือเปล่าคะ  หนูจะคุยกับแม่อย่างไรดีคะเรื่องนี้  หนูนั่งเครียดมาทั้งวันเลยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่