http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/393149
ปรกติคอลัมน์นี้ จะเขียนโปร ปชป อัดเสื้อแดงตลอด
วันนี้มาแปลก
ระบอบสุเทพ–อภิสิทธิ์
วันนี้โอกาสที่ประเทศไทยเว้นวรรคประชาธิปไตยมีสูงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
สิ่งที่กลุ่มขั้วอำนาจที่มองไม่เห็น ดำเนินการ กำลังคืบคลานไปสู่จุดมุ่งหมายจุดประสงค์ เพื่อแช่แข็งประเทศไทย และ เว้นวรรคนักการเมือง สัก 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง
อ้างเหตุเพื่อต้องการปฏิรูปการเมือง
สิ่งที่นักวิชาการ คนชนชั้นนำ และ คนชนชั้นสูง ต้องการ ณ เวลานี้คือสกัดนักการเมือง ที่เป็น เครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรต้องการขีดวงจำกัดการเติบโตของ เครือข่ายและพวกพ้องตลอดจนคนในครอบครัวชินวัตรให้เดินเข้าสู่วงการเมืองเดินเข้าสู่รัฐสภาอย่างยากลำบาก
เพื่อให้ได้นักการเมืองที่ กลุ่มขั้วอำนาจที่มองไม่เห็น คิดว่าเป็นนักการเมืองที่ชักจูงให้เดินตามได้ง่าย
ขณะเดียวกันสิ่งที่ กลุ่มขั้วอำนาจที่มองไม่เห็น กับ ม็อบ กปปส.ขยายประเด็นจนนำมาสู่เหตุแห่งความวุ่นวายทางการเมืองคือ เรื่องคอร์รัปชันการโกงกินอย่างใหญ่โตในเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณและพวกพ้องสิ่งที่พวกเขาคิดมีเรื่องเดียวคือต้องหยุดระบอบทักษิณ
คำว่า “ระบอบทักษิณ” เป็นคำที่มีความหมายว่าเป็นระบอบแห่งการโกงกิน คอร์รัปชัน สร้างความไม่เป็นธรรมในระบบราชการ
ทั้งๆที่ในความหมายนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตรจะเข้าสู่วงการเมืองกับ พรรคพลังธรรม ของ พล.ต.จำลอง ศรีเมืองด้วยซ้ำไป มันมีอยู่มาอย่างยาวนานและซับซ้อน เป็นสิ่งที่ คุณสุเทพเทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เคยรับรู้มาตั้งแต่เมื่อเริ่มเล่นการเมืองและโด่งดังเป็นพลุแตกเมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ
เอาละมาว่ากันเป็นเรื่องๆอย่างที่ คุณสุเทพ ประกาศว่า ระบอบทักษิณทำให้ ระบบราชการเสียหายมีการเล่นพรรคเล่นพวก แต่งตั้งคนในเครือข่ายทักษิณและพรรคเพื่อไทยให้ได้ดีซึ่ง รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เหิมกร้าวเกินไปจริงๆ
แต่เมื่อครั้งสมัย คุณสุเทพ นั่งเป็น รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปฏิบัติหน้าที่ได้แค่อาทิตย์เดียวก็สั่งย้ายคุณพีรพล ไตรทศาวิทย์ จาก ปลัดกระทรวงมหาดไทย มาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดย คุณอภิสิทธิ์ ให้เหตุผลว่า ทำงานด้วยไม่ได้ และเพื่อความเหมาะสม แล้วแต่งตั้งข้าราชการที่อาวุโสอยู่ลำดับกลางๆมาเป็นปลัดกระทรวง และหลังจากนั้นก็สั่ง ย้าย ผวจ.ขนานใหญ่คนอ่อนอาวุโสได้ดี ข้ามหัวไปนั่งเป็นอธิบดี เป็นรองปลัด จนถูกตำหนิวิพากษ์วิจารณ์ แต่ คุณสุเทพ และ คุณอภิสิทธิ์ กลับนิ่งเฉย
แล้วผลสุดท้ายเป็นยังไงครับศาลปกครองมีคำสั่งให้รัฐบาลคืนตำแหน่งและเงินเดือนให้ “ดร.ป๋อง” ปลัดฯพีรพล เพราะเป็นคำสั่งย้ายที่ไม่ชอบธรรม!!
แต่อนิจจาเวลามันผ่านไปถึง 2 ปี คุณพีรพลเกษียณอายุราชการ จะไปทวงหาความยุติธรรมจากใคร??
ในรัฐบาลที่มี คุณสุเทพ เป็น รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง 2 ปีนั้นลองย้อนกลับไปดูการ แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการมหาดไทยในระดับปลัดกระทรวงอธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด
ฉาวโฉ่หนักมาก!!
แต่งตั้งบุคคลที่เพิ่งก้าวขึ้นมาเป็น ผวจ.โหนข้ามมาเป็นอธิบดีโดย สร้างฉาก 3 เดือนย้ายไปอยู่จังหวัดนั้น อีก 3 เดือนย้ายไปอีกจังหวัดหนึ่ง และ 6 เดือนต่อมาก็ย้ายไปสู่อีกตำแหน่ง แค่ปีเดียวโปรไฟล์แน่นเอ้ียด แต่ขอโทษครับแค่ในเวลา 1 ปี เท่านั้น
สุดท้ายเรื่องจบลงแบบเสียหน้าไปทั้งรัฐบาล เมื่อคนคนนั้นตั้งให้เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยไม่ได้
ยังไม่จบครับ แต่งตั้ง ผวจ.จากคนในเครือข่าย ทั้งที่อ่อนอาวุโส ดันมาเป็นอธิบดี หมายมั่นอีกรอบจะให้เป็น ปลัดมหาดไทย ทดแทนคนที่แห้ว แต่ถูกตำหนิหลุดไปจากตำแหน่งอธิบดีหรือรองปลัดกระทรวง
ความไม่เป็นธรรม ความไม่ยุติธรรมกับข้าราชการคนอื่นๆที่ได้รับในรัฐบาล คุณอภิสิทธิ์ และ คุณสุเทพ เมื่อครั้งเป็นรองนายกฯ
อย่างนี้เขาเรียกว่า “ระบอบสุเทพ–อภิสิทธิ์” ได้หรือไม่!!
“ลม ตะวันตก”
ลมเปลี่ยนทิศ
ปรกติคอลัมน์นี้ จะเขียนโปร ปชป อัดเสื้อแดงตลอด
วันนี้มาแปลก
ระบอบสุเทพ–อภิสิทธิ์
วันนี้โอกาสที่ประเทศไทยเว้นวรรคประชาธิปไตยมีสูงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
สิ่งที่กลุ่มขั้วอำนาจที่มองไม่เห็น ดำเนินการ กำลังคืบคลานไปสู่จุดมุ่งหมายจุดประสงค์ เพื่อแช่แข็งประเทศไทย และ เว้นวรรคนักการเมือง สัก 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง
อ้างเหตุเพื่อต้องการปฏิรูปการเมือง
สิ่งที่นักวิชาการ คนชนชั้นนำ และ คนชนชั้นสูง ต้องการ ณ เวลานี้คือสกัดนักการเมือง ที่เป็น เครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรต้องการขีดวงจำกัดการเติบโตของ เครือข่ายและพวกพ้องตลอดจนคนในครอบครัวชินวัตรให้เดินเข้าสู่วงการเมืองเดินเข้าสู่รัฐสภาอย่างยากลำบาก
เพื่อให้ได้นักการเมืองที่ กลุ่มขั้วอำนาจที่มองไม่เห็น คิดว่าเป็นนักการเมืองที่ชักจูงให้เดินตามได้ง่าย
ขณะเดียวกันสิ่งที่ กลุ่มขั้วอำนาจที่มองไม่เห็น กับ ม็อบ กปปส.ขยายประเด็นจนนำมาสู่เหตุแห่งความวุ่นวายทางการเมืองคือ เรื่องคอร์รัปชันการโกงกินอย่างใหญ่โตในเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณและพวกพ้องสิ่งที่พวกเขาคิดมีเรื่องเดียวคือต้องหยุดระบอบทักษิณ
คำว่า “ระบอบทักษิณ” เป็นคำที่มีความหมายว่าเป็นระบอบแห่งการโกงกิน คอร์รัปชัน สร้างความไม่เป็นธรรมในระบบราชการ
ทั้งๆที่ในความหมายนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตรจะเข้าสู่วงการเมืองกับ พรรคพลังธรรม ของ พล.ต.จำลอง ศรีเมืองด้วยซ้ำไป มันมีอยู่มาอย่างยาวนานและซับซ้อน เป็นสิ่งที่ คุณสุเทพเทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.เคยรับรู้มาตั้งแต่เมื่อเริ่มเล่นการเมืองและโด่งดังเป็นพลุแตกเมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ
เอาละมาว่ากันเป็นเรื่องๆอย่างที่ คุณสุเทพ ประกาศว่า ระบอบทักษิณทำให้ ระบบราชการเสียหายมีการเล่นพรรคเล่นพวก แต่งตั้งคนในเครือข่ายทักษิณและพรรคเพื่อไทยให้ได้ดีซึ่ง รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เหิมกร้าวเกินไปจริงๆ
แต่เมื่อครั้งสมัย คุณสุเทพ นั่งเป็น รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปฏิบัติหน้าที่ได้แค่อาทิตย์เดียวก็สั่งย้ายคุณพีรพล ไตรทศาวิทย์ จาก ปลัดกระทรวงมหาดไทย มาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดย คุณอภิสิทธิ์ ให้เหตุผลว่า ทำงานด้วยไม่ได้ และเพื่อความเหมาะสม แล้วแต่งตั้งข้าราชการที่อาวุโสอยู่ลำดับกลางๆมาเป็นปลัดกระทรวง และหลังจากนั้นก็สั่ง ย้าย ผวจ.ขนานใหญ่คนอ่อนอาวุโสได้ดี ข้ามหัวไปนั่งเป็นอธิบดี เป็นรองปลัด จนถูกตำหนิวิพากษ์วิจารณ์ แต่ คุณสุเทพ และ คุณอภิสิทธิ์ กลับนิ่งเฉย
แล้วผลสุดท้ายเป็นยังไงครับศาลปกครองมีคำสั่งให้รัฐบาลคืนตำแหน่งและเงินเดือนให้ “ดร.ป๋อง” ปลัดฯพีรพล เพราะเป็นคำสั่งย้ายที่ไม่ชอบธรรม!!
แต่อนิจจาเวลามันผ่านไปถึง 2 ปี คุณพีรพลเกษียณอายุราชการ จะไปทวงหาความยุติธรรมจากใคร??
ในรัฐบาลที่มี คุณสุเทพ เป็น รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง 2 ปีนั้นลองย้อนกลับไปดูการ แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการมหาดไทยในระดับปลัดกระทรวงอธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด
ฉาวโฉ่หนักมาก!!
แต่งตั้งบุคคลที่เพิ่งก้าวขึ้นมาเป็น ผวจ.โหนข้ามมาเป็นอธิบดีโดย สร้างฉาก 3 เดือนย้ายไปอยู่จังหวัดนั้น อีก 3 เดือนย้ายไปอีกจังหวัดหนึ่ง และ 6 เดือนต่อมาก็ย้ายไปสู่อีกตำแหน่ง แค่ปีเดียวโปรไฟล์แน่นเอ้ียด แต่ขอโทษครับแค่ในเวลา 1 ปี เท่านั้น
สุดท้ายเรื่องจบลงแบบเสียหน้าไปทั้งรัฐบาล เมื่อคนคนนั้นตั้งให้เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยไม่ได้
ยังไม่จบครับ แต่งตั้ง ผวจ.จากคนในเครือข่าย ทั้งที่อ่อนอาวุโส ดันมาเป็นอธิบดี หมายมั่นอีกรอบจะให้เป็น ปลัดมหาดไทย ทดแทนคนที่แห้ว แต่ถูกตำหนิหลุดไปจากตำแหน่งอธิบดีหรือรองปลัดกระทรวง
ความไม่เป็นธรรม ความไม่ยุติธรรมกับข้าราชการคนอื่นๆที่ได้รับในรัฐบาล คุณอภิสิทธิ์ และ คุณสุเทพ เมื่อครั้งเป็นรองนายกฯ
อย่างนี้เขาเรียกว่า “ระบอบสุเทพ–อภิสิทธิ์” ได้หรือไม่!!
“ลม ตะวันตก”