เงินหายจากบัญชีธนาคารกรุงเทพหลายหมื่น ตามเรื่องไปเป็นเดือนไม่ได้รับการติดต่อกลับ แถมโดนคอลเซ็นเตอร์วางหูใส่!

ไม่เคยคิดจะมาตั้งกระทู้อะไรแบบนี้ในพันทิปเลยค่ะ
เพราะสมัครไว้เพื่อถามเส้นทางการท่องเที่ยวในห้องบลูซะมากกว่า
แต่มาวันนี้ไม่ไหวจริงๆค่ะ เจอธนาคารกรุงเทพทำพิษไปแบบนี้
จึงอยากจะมาเล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนๆฟัง

ปกติเราเป็นคนที่ชอบสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากเว็บต่างประเทศ
แต่ละเว็บนั้นเป็นเว็บที่น่าเชื่อถือค่ะ เป็นแบรนด์ดัง เช่น Marc Jacobs, Sephora, Asos เป็นต้น
ซึ่งแต่ละครั้งที่สั่งจะใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต (Debit) ของธนาคารกรุงเทพ
และทุกครั้งที่สั่งนั้น จะต้องกรอกหมายเลขหน้าบัตร และเลข CCV 3 หลักหลังบัตรเป็นปกติ
ในทุกครั้งนั้น เราใช้ไอแพดของเราสั่งตลอดค่ะ บัตรก็ติดตัวตลอด ไม่เคยทำหาย ตกหล่นที่ไหน

มาวันที่ 9/12/56 เราได้รับ SMS 2 ครั้งในวันเดียว
เป็น SMS แจ้ง iPay OTP จากธนาคารกรุงเทพ
ซึ่งวันนั้นเราไม่ได้สั่งอะไรเลยค่ะ นอนอยู่บ้านเฉยๆ
ตอนได้รับ SMS นั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าอาจจะเกิดอะไรผิดพลาดจากธนาคาร
ก็เลยปล่อยผ่านค่ะ SMS แจ้งเตือนก็หมดเขตพอดี เงินก็ไม่ได้เข้าไปเช็คด้วย (ยอมรับว่าสะเพร่าจริงๆค่ะ)

มาถึงวันที่ 12/12/56 เราจะกดเงินสดจากบัตร
พอถึงหน้าตู้ ATM ตกใจค่ะ ทำไมเงินเหลือ 123.63 บาท!!!!!!
เงินหายไปเป็นหมื่นๆ คืออะไร?

(ขอแจ้งนะคะ วันที่ 9-12 นี้ เราไม่ได้ยุ่งอะไรกับบัตรธนาคารกรุงเทพเลยค่ะ ใช้แต่เงินจากธนาคารอื่นที่มีอยู่)

ก็เลยไปเปิด iBanking เช็คดูค่ะ และรีบไปธนาคารสาขาเราทันที
คือ สาขาเดอะมอลล์บางแค ค่ะ

จะพิมยอดที่หายไปจากบัญชีให้ดูนะคะ

วันที่ 9/12/56
- 105.96
- 4,920.51
- 25.43
- 71.20
- 343.27
- 3,366.67
- 3,926.00
- 4,622.71
- 2,029.10
- 324.36 (จำนวน 3 ยอด)
- 3,224.19
- 32.81
- 820.08
- 32.81 (จำนวน 4 ยอด)

วันที่ 10/12/56
- 336.66
- 606.01

วันที่ 12/12/56
- 2,490.03

วันที่ 13/12
- 4,816.20

รวมจำนวนเงินที่หายไปจากบัญชีทั้งสิ้น 32,841.15 บาทค่ะ

เมื่อไปแจ้งธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์บางแค
พนักงานก็ได้รับเรื่องไว้ และโทรติดต่อไปที่สายบัตรและคอลเซ็นเตอร์ให้เรา
แล้วก็แจ้งเราว่าเงินเราถูกนำไปใช้กับ www.wallmart.com และ iTune ของ Apple
นอกจากนี้ยังมีเว็บอื่นๆอีก จำได้ไม่หมดค่ะ

ทีนี้พนักงานก็ให้เรารอ บอกสายบัตรจะติดต่อเรากลับมาเอง
เราก็รอค่ะ จนถึงวันที่ 24 ธันวาคม เรารอไม่ไหว ไม่มีใครติดต่อมาเลย
จึงไปที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์บางแคอีกครั้ง

พนักงานบอกว่าส่งเรื่องไปแล้ว แต่เอกสารไม่ถึง ต้องดำเนินเรื่องใหม่
(เอิ่ม มีอย่างนี้ด้วยหรอคะ แล้วไม่คิดจะโทรมาบอกเราเลยหรอเนี่ย)
เราก็โอเคกรอกรายละเอียดยื่นคำร้องไปใหม่ แล้วก็ย้ำพนักงานว่าช่วยส่งให้ถึงด้วยนะคะ
เพราะไม่ได้รับการติดต่ออะไรเลยตั้งแต่รอมา เงียบกริบ
เราก็เลยแถมถามส่งท้ายว่ามีสิทธิ์จะได้เงินคืนบ้างมั้ย
พนักงานตอบว่า "ไม่แน่ใจเลยค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ"
(นาทีนั้นจะร้องไห้ เงินหายไปแถมเป็นเงินที่เราไม่ได้ใช้ด้วย แต่ได้รับคำตอบแบบนี้ ชื่นใจมากค่ะ)

พอมาวันนี้วันที่ 2 มกราคม เรารอไม่ไหวแล้วค่ะ
เดินทางไปสำนักงานใหญ่ที่สีลม พนักงานที่นั่นก็ให้คำตอบไม่ได้
ได้แต่ติดต่อคอลเซ็นเตอร์ให้เรา ยื่นโทรศัพท์มาให้พูดด้วย
คอลเซ็นเตอร์บอกว่าไม่มีเรื่องนี้แจ้งเข้ามาเลย เราก็โมโหสิคะ
12/12 ก็เข้าไปแจ้งแล้ว 24/12 ก็เข้าไปแจ้งแล้ว ทำไมบอกไม่มีเรื่อง
ทั้งๆที่วันนั้นๆเราก็คุยกับคอลเซ็นเตอร์เอง

ก็เลยพูดไปว่า
พี่คะ เงินหนูหายไปหลายหมื่น เดินเรื่องเองมา 3 ครั้ง จะเดือนนึงแล้ว นี่ธนาคารจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยใช่มั้ยคะ

พนักงานตอบว่า
เข้าใจค่ะ แต่จะให้ทำยังไงคะ ทางเราไม่มีเรื่องนี้แจ้งไว้เลย หาแล้วก็ไม่มี

เราก็เงียบค่ะ นาทีนั้นไม่รู้จะพูดอะไรอีก มันจุกไปหมด ซักพักเค้าก็วางสายใส่เลยค่ะ

เราส่งโทรศัพท์ให้พนักงานสำนักงานใหญ่ พร้อมบอกว่า คอลเซ็นเตอร์วางหูใส่ค่ะ
พนักงานบอก จริงหรอคะ ทำไมคอลเซ็นเตอร์ธนาคารเราเป็นแบบนี้ ได้ถามชื่อไว้มั้ยคะ
เราก็บอกว่า ก็คุณเป็นคนต่อสายครั้งแรก เค้าแจ้งไว้ครั้งแรกที่รับสายไม่ใช่หรอ
พนักงานก็ได้แต่บ่นว่า ทำไมคอลเซ็นเตอร์เป็นอย่างนี้

แล้วพนักงานก็ให้เรายื่นคำร้องและโทรไปคอลเซ็นเตอร์อีกครั้ง
สเต็ปเดิมๆที่เคยทำเหมือนวันที่ 12/12 และ 24/12 เลยค่ะ
เราก็ได้แต่รอตามที่ธนาคารบอกค่ะ




ปล.
- ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ตั้งแต่วันที่ 19/12 แล้วค่ะ ตำรวจที่รับแจ้งยังบอกเลยว่า ธนาคารกรุงเทพอีกแล้วหรอ คนรู้จักเค้าก็โดนไป 2 แสน หายไปแบบไม่รู้สาเหตุ
- ทุกวันนี้จะปิดบัญชีก็ทำไม่ได้ ต้องรอเงินคืนมาก่อน เครียดค่ะ เครียดมากๆ ไม่รู้จะทำยังไง อาจเป็นเพราะเงินที่หายไปจำนวนคงไม่เยอะ บวกกับอายุเราแค่ 24 ด้วยมั้งคะ
- ทั้งความปลอดภัย (แจ้ง OTP มาในมือถือเราแล้วแต่เงินก็ยังถูกหักโดยคนอื่นไปได้) ทั้งบริการ (ถูกพนักงานคอลเซ็นเตอร์วางหูใส่) แบบนี้ ก็ขอลาจากธนาคารกรุงเทพตลอดชีวิตนะคะ เพื่อนๆหลายคนและคนในครอบครัวพอทราบเรื่องก็พากันเอาเงินออกไปฝากที่ธนาคารอื่นกันบ้างแล้วล่ะค่ะ

- แท็กเครื่องแป้งเพราะเป็นอุทาหรณ์สำหรับสาวๆที่ชอบสั่งสินค้า เครื่องสำอางออนไลน์เหมือนเรานะคะ