จริงๆผมว่าต้องพูดแบบนี้ครับ สายดิจิทัล ถ้าเสียบแล้วเกิดภาพปรกติแล้ว จะเส้นละ 100 หรือเส้นละล้าน คุณภาพภาพจะเท่ากันทุกประการครับ

แต่ไอครั้นจะไปพูดว่าคุณภาพสายเท่ากันมันก็ไม่ได้ครับ สายแพงจะมีข้อดีเรื่อง shielding จากสัญญาณรบกวนทั้งหลาย ขนาดทองแดงที่ใหญ่กว่าจึงเกิด loss ที่น้อยกว่า แต่คุณต้องตอบคำถามก่อนว่าคุณต้องการใช้คุณสมบัติเหล่านั้นจริงๆหรือไม่

หลักการของสัญญาณดิจิทัล คือ 0 กับ 1 การที่สายมี loss สูงๆ อาจทำให้มี bit ที่หายไปบ้างก็จริง แต่เทคนิคการส่งพวกนี้มี Checksum เข้าช่วยแก้ไข bit ที่หายหรือเสียไปครับ ตราบใดที่อัตราหายยังไม่มากเกินกว่าที่ระบบรับได้ เครื่องรับจะสามารถถอดรหัสได้โดยสัญญาณไม่ผิดเพี้ยน (ลองนึกถึงคุณภาพสัญญาณในกล่องรับดาวเทียมบ้านคุณดู ตราบใดที่มันไม่ต่ำไปคุณจะได้ภาพปรกติทุกประการ) แต่หาก loss มีเยอะเกินผลคือเครื่องรับจะถอดรหัสไม่สำเร็จ ภาพที่เกิดจะล้ม เละ หรือมืดไปเลยอย่างชัดเจนครับ ไม่ใช่ว่าจะทำให้ความละเอียดลดลง สีไม่สด บลาๆ อย่างที่เซลชอบหลอก

ทีนี้คุณจำเป็นต้องซื้อสายแพงๆมั้ย? ร้อยละ 90 ต่อในบ้านธรรมดา ระยะ 2-3 เมตร คำตอบคือ ไม่จะเป็นเลยครับ ผมซื้อสายละร้อย เป็น 10 เส้นใช้ที่ทำงาน ไม่เคยมีปัญหา แต่ถ้าหากคุณอยู่ในสภาพที่สัญญาณรบกวนมาก เช่นอยู่ใกล้สายไฟฟ้าเแรงสูงมากๆ หรืออยู่ในสตูดิโอถ่ายหนังที่สายไฟสายสัญญาณวิ่งเยอะไปหมดในห้อง  หรือถ้าคุณต้องใช้สายยาวมากๆ คุณอาจจะต้องใช้สายแพงขึ้นมาเพื่อประโยชน์การป้องกันสัญญาณรบกวนเหล่านั้น ใช้สายขนาดใหญ่เพื่อให้ loss มันลดลงนั่นเอง  แต่เชื่อผมมั้ยว่าร้อยละ 90 หน่ะ ไม่จำเป็นขนาดนั้น

ผมขอแนะนำอย่างนี้ละกันครับ ซื้อสายถูกๆมาก่อนเถอะ คณเอาสายมาเสียบแล้ว ภาพปรกติ ไม่มีภาพเละ ภาพล้ม กระตุก ผมรับรองได้เลยคุณภาพภาพโอเคแล้ว แต่หากมีปัญหาคุณอาจจะลองซื้อสายที่แพงขึ้นมาอีกหน่อย แต่ไอสายละหลายพันผมกล้าพูดได้เลยว่าไม่จำเป็นหรอก