คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ผมมองว่าไม่ใช่ยักยอกนะ เพราะจากข้อเท็จจริงไม่พบว่าลูกจ้างนั้นมีหน้าที่เก็บเงินไว้แทนบริษัท
จึงต้องถือว่ากระทำความผิดฐานฉ้อโกง ตาม มาตรา 341 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท มีอายุความ 3 เดือน นับแต่ทราบ
แต่เมื่อข้อเท็จจริงกระทำความผิดเกิบ 20 ครั้ง จึงมีโทษจำคุก 10 ปี ตาม มาตรา 91 (1)
จึงต้องถือว่ากระทำความผิดฐานฉ้อโกง ตาม มาตรา 341 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท มีอายุความ 3 เดือน นับแต่ทราบ
แต่เมื่อข้อเท็จจริงกระทำความผิดเกิบ 20 ครั้ง จึงมีโทษจำคุก 10 ปี ตาม มาตรา 91 (1)
แสดงความคิดเห็น
สอบถามการเอาผิดลูกจ้าง คดียักยอกทรัพย์หน่อยครับ
เป็นหมายเลขบัญชีของตนเอง แล้วไปหลอกกับลูกค้าบริษัทแม่ผมว่า แม่ผมไม่สบายอะไรสักอย่างนี่แหละครับ
แล้วลูกค้าก็หลงกลโอนเข้าไปในบัญชีธนาคารของลูกจ้าง แล้วลูกจ้างคนนั้นก็มาบอกกับแม่ผมว่า ลูกค้าขอผ่อนชำระเป็นงวดๆไป
โดยที่เธอเอาเงินบางส่วนส่งคือเข้าไปในบัญชีธนาคารของแม่ผมแค่บางส่วนเท่านั้น ซึ่งเธอทำแบบนี้บ่อยมาก เกือบ20กว่าครั้ง
พักหลังแม่ผมจึงเกิดสงสัยเข้าก็เลยไปสอบถามกับลูกค้า สืบทราบภายหลังว่าลูกจ้างคนนั้นทำมาแล้วไม่ต่ำมากว่า1ปี
โดยที่แม่ผมได้ไปขอหลักฐานการโอนเงินของลูกค้าจากธนาคาร พบว่ามีโอนเงินจากลูกค้าเข้าไปยังบัญชีลูกจ้างคนนั้น
เกือบ หนึ่งล้านห้าแสนบาท แล้วที่ลูกจ้างโอนเข้ามาในบัญชีแม่ผมแค่ เจ็ดแสนบาท ส่วนที่หายก็ประมาณเจ็ดแสนกว่าบาท
ตอนนี้ทางแม่ผมได้ให้พนักงานคนนั้นออกไป และได้เรียกพ่อแม่และคนใกล้ชิดของลูกจ้างคนนั้น มาไกล่เกลี่ย
แต่ดูก็พูดเหมือนกับว่า ไม่มีปัญญาจะชดใช้ยอดใช้กรรมในคุก ซึ่งผมก็ได้ฟังดูแล้วก็โกรธแทนแม่ผมมาก กำลังจะไปแจ้งความ
ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ผมจึงอยากจะทราบขอกฏหมายสักนิด เพื่อจะเอาผิดลูกจ้างคนนั้นว่าเธอจะโดนคดีอะไรบ้าง โดนคุกกี่ปี
ขอบคุณครับ