ฉันติดตามภาพยนตร์ ของ เฉินหลง มาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่เอไกหว่า 1,2 วิ่งสู้ฟัด รวมไปถึง Zodiac และสารพัดฟัดต่างๆ ที่ตามมา อันเป็นเอกลักษณ์ ที่ฉันก็นึกสงสัยมาจนถึงปัจจุบัน ว่าทำไมภาพยนตร์ส่วนใหญ่ของเฉินหลงต้องมีคำว่า ฟัด มาจนหนังเรื่องนี้ แต่ละเรื่องมีแอคชั่น บู๊และความมันแตกต่างกันไป
หนังเรื่องนี้ให้อารมณ์แตกต่างจากเฉินหลงในเรื่องอื่นๆ ที่แม้การต่อสู้เมามันจะไม่ได้เน้นมากเท่าเรื่องที่ผ่านมา แต่ก็สร้างความลุ้นระทึกไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆด้วยบทบาทและเนื้อหาของเฉินหลงผู้แสดงเป็นตำรวจ บวกกับลูกสาว (ที่น่ารักมากก)
เนื้อเรื่องดำเนินไปด้วยฉากในบาร์แห่งหนึ่ง ที่ใช้ฉากนี้แทบจะทั้งเรื่องอันเป็นห้องปิดตายที่ตัวประกันทั้งหมดถูกจับมารวมกันในที่แห่งนี้ รวมไปถึงลูกสาว ตัวประกันจากต่างที่ต่างสถาน แต่ทุกคนล้วนมีชนวนเงื่อนงำให้มาเกี่ยวข้องกัน ก่อเกิดเป็นปมในใจที่เป็นสาเหตุการก่อคดีของผู้ร้ายรายนี้ และสุดท้ายเรื่องราวจะคลี่คลายอย่างไรก็ติดตามชมในภาพยนตร์นะคะ
สุดท้ายอยากฝากสิ่งที่ฉันได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้
1. ในโลกนี้ไม่มีสีดำทึบ ไม่มีสีขาวล้วน มีแต่สีเทา อยู่ที่ว่าจะเป็นเทาอ่อน เทาเข้มหรือเทาหม่น คนที่ร้ายก็ไม่ใช่ว่าจะร้ายไปซะทีเดียว ทุกการกระทำย่อมมีเหตุผลของตน ก็ขึ้นกับว่ามุมมองของคนที่มองจะเป็นใคร
2. อย่าตัดสินใครจากสิ่งที่เห็น ( อย่างเช่นในเรื่องที่ตัดสินว่าคนที่จับตัวประกันต้องเป็นคนที่ฆ่า) เราควรจะมองคนให้ละเอียดถี่ถ้วนและรอบคอบ สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นก็ได้
3. ทุกชีวิตมีคุณค่า ไม่มีใครสามารถตัดสินชีวิตใครแทนชีวิตใครได้
4. ทุกปัญหาแก้ได้ด้วยสติ คนเรามีปัญหาต้องพูดคุยกัน เจรจากันอย่างมีสติและยอมรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายตรงข้าม ปัญหาจึงจะคลี่คลายลงได้
5. ไม่มีพ่อคนไหนไม่รักลูก บางครั้งพ่ออาจมีเหตุผลของตนที่ทำให้ลูกอาจไม่เข้าใจกันจนก่อเกิดเป็นความเข้าใจผิด ทั้งนี้ควรหันหน้ามาปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน รักพ่อให้มากๆนะคะ
ปล. โดยรวมแล้วฉันและครอบครัวชอบและประทับใจภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ แต่ต่างคนต่างความคิดเห็นอาจจะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบแต่ท้ายที่สุดก็ต้องลองไปพิสูจน์ด้วยตัวของคุณเองค่ะ
ขอบคุณผู้อ่านทุกคนนะคะ
Review Police story 2013 หรือ วิ่งสู้ฟัด 2013
หนังเรื่องนี้ให้อารมณ์แตกต่างจากเฉินหลงในเรื่องอื่นๆ ที่แม้การต่อสู้เมามันจะไม่ได้เน้นมากเท่าเรื่องที่ผ่านมา แต่ก็สร้างความลุ้นระทึกไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆด้วยบทบาทและเนื้อหาของเฉินหลงผู้แสดงเป็นตำรวจ บวกกับลูกสาว (ที่น่ารักมากก)
เนื้อเรื่องดำเนินไปด้วยฉากในบาร์แห่งหนึ่ง ที่ใช้ฉากนี้แทบจะทั้งเรื่องอันเป็นห้องปิดตายที่ตัวประกันทั้งหมดถูกจับมารวมกันในที่แห่งนี้ รวมไปถึงลูกสาว ตัวประกันจากต่างที่ต่างสถาน แต่ทุกคนล้วนมีชนวนเงื่อนงำให้มาเกี่ยวข้องกัน ก่อเกิดเป็นปมในใจที่เป็นสาเหตุการก่อคดีของผู้ร้ายรายนี้ และสุดท้ายเรื่องราวจะคลี่คลายอย่างไรก็ติดตามชมในภาพยนตร์นะคะ
สุดท้ายอยากฝากสิ่งที่ฉันได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้
1. ในโลกนี้ไม่มีสีดำทึบ ไม่มีสีขาวล้วน มีแต่สีเทา อยู่ที่ว่าจะเป็นเทาอ่อน เทาเข้มหรือเทาหม่น คนที่ร้ายก็ไม่ใช่ว่าจะร้ายไปซะทีเดียว ทุกการกระทำย่อมมีเหตุผลของตน ก็ขึ้นกับว่ามุมมองของคนที่มองจะเป็นใคร
2. อย่าตัดสินใครจากสิ่งที่เห็น ( อย่างเช่นในเรื่องที่ตัดสินว่าคนที่จับตัวประกันต้องเป็นคนที่ฆ่า) เราควรจะมองคนให้ละเอียดถี่ถ้วนและรอบคอบ สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นก็ได้
3. ทุกชีวิตมีคุณค่า ไม่มีใครสามารถตัดสินชีวิตใครแทนชีวิตใครได้
4. ทุกปัญหาแก้ได้ด้วยสติ คนเรามีปัญหาต้องพูดคุยกัน เจรจากันอย่างมีสติและยอมรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายตรงข้าม ปัญหาจึงจะคลี่คลายลงได้
5. ไม่มีพ่อคนไหนไม่รักลูก บางครั้งพ่ออาจมีเหตุผลของตนที่ทำให้ลูกอาจไม่เข้าใจกันจนก่อเกิดเป็นความเข้าใจผิด ทั้งนี้ควรหันหน้ามาปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน รักพ่อให้มากๆนะคะ
ปล. โดยรวมแล้วฉันและครอบครัวชอบและประทับใจภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ แต่ต่างคนต่างความคิดเห็นอาจจะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบแต่ท้ายที่สุดก็ต้องลองไปพิสูจน์ด้วยตัวของคุณเองค่ะ
ขอบคุณผู้อ่านทุกคนนะคะ