ชาติเสือไม่ควรพลาด...ภูตาจอ@พังงา

สวัสดีทุกท่านครับ สืบเนื่องมาจากกระทู้นี้ เป็นแรงบันดาลใต
http://ppantip.com/topic/30007335 โดยเมื่อปีที่แล้วน้าแกก็อายุ 57 แล้ว ยังไปไหวเลย ผมเองน้อยกว่าแกหลายสิบปี ก็เลยอยากลองบ้างครับ

ผมทำงานในพื้นที่ใกล้เคียงภูตาจอมาหลายปี แต่มาออกกำลังกายด้วยการปั่นยังไม่ครบปี ซึ่งผมชอบการไต่เขามากเป็นพิเศษ ก่อนปีใหม่นี้เลยมีโอกาสชวนพี่เสืออีกตัวขึ้นไปเรียกฮาร์ทเรทกันหน่อย

ปล.เรื่องประวัติความเป็นมา ที่ตั้ง เส้นทางต่างๆ ดูเอาจากกระทู้ของท่าน ตาสาน เลยนะครับ จะได้ไม่เปลืองพื้นที่เวบ





ด้วยระยะทาง 14 กม. อย่างที่น้าตาสานบอกว่าเป็นทางดิน ผสมหินภูเขา ที่ลักษณะเป็นหินลอยก้อนใหญ่ๆ ตลอดเส้นทาง ค่อนข้างอันตรายครับ ยางบางๆ เบาๆ อาจจะไปไม่รอด ผมเองรู้ทั้งรู้แต่ก็เอามาแค่ยาง 26x1.95 (GEAX Mezcal) พี่อีกท่านหนึ่งใช้ GEAX Sauguro ขนาด 27.5x2.0 ครับ



แน่นอนครับว่า การขึ้นเขาหรือขึ้นภู มันก็ต้องเจอเส้นทางที่เป็นทางชั้น และถ้าชันขาขึ้นก็ต้องมีชันขาลง หินลอยทำให้รถพร้อมที่จะเสียการทรงตัวตลอดเวลา ผมมือใหม่ซะด้วยซิครับ ไม่กล้าปล่อยไหล หรือทำความเร็วต้องไปเรื่อยๆ เลียเบรคเกือบตลอดเส้นทาง (แค่นี่ก็หอบแล้ว)



ระหว่างทางมีป้ายชี้ชมดอกบัวผุดด้วย แต่ผมก็ไม่ได้แวะครับ เพราะออกกันเกือบบ่ายสองแล้ว กลัวจะมืดก่อนถึงยอดภู



เส้นทางไปได้เรื่อยๆ ไม่ร้อนนะครับ ผมโชคดีที่ไม่เจอฝนไม่งั้นทางคงลำบากกว่านี้ มีห้วยเล็กๆ ให้ล้างหน้าล้างตาและแวะพักกันด้วย





ขี่ชมนกชมไม้ก็เพลินๆ ดีนะครับ แต่ก็ต้องเผื่อเวลากันหน่อย การเดินทางแบบนี้อย่ารีบร้อนเลยครับ นอกจากจะเหนื่อยจนอาจจะท้อแล้ว ก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุจนหมดสนุกได้



เนินชันมากๆ ปั่นไม่ไหวก็เข็นครับ ทั้งขึ้นและลง



ระหว่างทางเจอพี่ๆ 4x4 หลายคันที่เดินทางขึ้นไปเที่ยวเช่นกัน บางคันเสียก็ยังลากกันขึ้นไป (เพื่อซ่อมบนยอดภู) แม้ว่าเค้าไม่รู้จักกัน แต่ก็ช่วยกันเต็มที่ครับ น่าประทับใจ หวังว่านักปั่นเราก็คงจะมีน้ำใจ เมื่อเจอเพื่อนๆ เกิดปัญหาระหว่างทางเช่นเดียวกันนะครับ





เส้นทางบางช่วงเกิดจากการปรับไหล่เขาลงมา ทำให้ด้านหนึ่งเป็นเขาอีกด้านเป็นเหว ต้องระวังครับ ห้ามส่งลงเนินเด็ดขาด ถ้าเอารถไม่อยู่มีสิทธิ์ลงเหวได้เลยครับ





ถ้ามาเส้นทางนี้โดยรถยนต์ ก็ต้อง 4x4 เท่านั้นครับ นอกจากสภาพรถที่ต้องพร้อมที่สุดแล้ว คนขับก้ต้องมีทักษะในการขับรถประเภทนี้ด้วย หลายๆ เนินโหดเอาเรื่องเลยครับ ทั้งร่องน้ำ ทั้งเนินหินลื่นๆ จัดเต็มเลย



พ้นหินมาไม่เท่าไหร่ เจอพื้นทรายอีก เสือขาอ่อนอย่างผมก็ต้องเข็นตามระเบียบครับ



ร่วมสามชั่วโมง ทั้งนั่ง ยืน โยก โดด เข็น ก็มาถึงจนได้ครับ ก่อนค่ำจริงๆ ด้วย เย้ๆ



บรรยากาสดีมากครับ แต่ลมแรงและอากาสหนาวมากๆ





ผมนอนรับลมหนาวอยู่ 1 คืน เช้ามาลมแรงมากๆ ครับ ทะเลหมอกเลยไม่มาตามนัด เลยตัดสินใจลงกันแต่เช้าเพื่อไม่ให้ขวางทางท่านที่ใช้รถยนต์ที่จะลงตามมาเมื่อแดดแรงกว่านี้ ลงมาก็แวะล้างตัวในห้วยบ้านช้างเชื่อ จุดเริ่มต้นของการเดินทาง น้ำใสไหลเย็น ชื่นใจมากครับ





และปิดท้ายด้วยภาพนี้ครับ



ข้อมูลสำหรับนักปั่นน่ะครับ

ขาขึ้น AV 5 Max 24 ระยะทาง 14 กม. เวลา 3 ชม. 10 นาที
ขาลง AV 12 Max 25 ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.

ปล.1 ไปหน้าหนาวอากาศจะหนาวมากๆ ครับ เตรียมเครื่องนอน เสื้อกันหนาวไปด้วย โดยฝากกับรถขึ้นไปดีกว่าแบกไปเองครับ
ปล.2 แทรดแบบนี้ แนะนำให้ลดความสูงของเบาะลงกว่าเดิมประมาณ 1- 1.5 นิ้วครับ เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน (ซึ่งเกิดแน่ๆ) จะได้ไม่เจ็บ และการขึ้นลงจะสะดวกขึ้น งานนี้ไม่ต้องการความเร็วในการปั่นอยู่แล้ว (เพราะทำความเร็วไม่ได้) ส่วนท่านที่ใส่คลีท เปลี่ยนได้เปลี่ยนเป็นแบบธรรมดานะครับ บางจังหวะ คลีทมันล็อกโดยที่เราไม่รู้ตัว ฉุกเฉินมาคว่ำก็หมดสนุก ผมใช้แบบกระเทยก็ยังเกือบพลาดอยู่บ่อยๆ
ปล.3 ถ้าทำได้ในขาขึ้น เตรียมน้ำไปให้มากกว่า 1 ขวดนะครับ ร่างกายจะเสียน้ำมาก เดี๋ยวตะคริวจะกิน
ปล.4 แนะนำว่าเส้นทางนี้ "อย่ารีบ อย่าคะนอง" เด็ดขาดนะครับ ระหว่างทางหากเกิดปัญหาบาดเจ็บจะลำบาก เพราะระหว่างทางไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทางทุรกันดาร ก็ทำให้การช่วยเหลือมาถึงได้ช้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่