เกริ่น
กระทู้นี้ไม่ได้สอนให้คนงมงาย หรือจะเป็นฝ่ายตรงข้ามกับวิทยาศาสตร์
แต่อยากแชร์สำหรับคนที่ไม่เชื่อ ไม่เคยอ่าน ดั่งคำว่ารู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม อ่านแล้วตัดสินใจเอาเอง และโปรดอย่าสรุปมั่วๆ
เรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องเล่าลวงโลกแบบแม่นางลาบไก่ฯ หรือน้ำท่วมทุ่ง คิดไปเอง จัดฉากแบบรายการวิทยุรายการทีวีทุกวันนี้
คนส่วนหนึ่งที่ไม่เชื่อเรื่องผีลี้ลับเพราะคนเล่า+ที่มาไม่น่าเชื่อถือ
แต่เรื่องนี้เป็นพระนิพนธ์ในสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น นภวงศ์ ประสูติสมัยร.5 สิ้นพระชนม์พ.ศ 2501)
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 13 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร พระประวัติท่านเชิญหาอ่านได้ในกูเกิล
สาเหตุที่เกิดบันทึกนี้ เนื่องจากพระองค์ทรงสนพระทัยเรื่องลี้ลับ ทรงเล่าไว้ว่า
"เขียนขึ้นตามที่ได้ฟังและจำมา เพื่อไม่ให้สูญไปตามชีวิตเพียงแต่ปรุงแต่งคำพูดที่นึกว่าพอเข้าใจง่ายและสั้น พอได้ความเพื่อไม่สู้เบื่อในการอ่าน...ฯ"
คือท่านฟังเรื่องเล่ามาจากเจ้านาย+พระเถระ+ชาวบ้านสมัยนั้นที่คุ้นเคยกันมาเล่าเรื่องผีให้ฟัง
ท่านสัมภาษณ์เองบ้างแล้วบันทึกไว้เฉพาะเรื่องที่น่าเชื่อถือ
เจ้าของเรื่องเหล่านี้มีอยู่จริงและเป็นคนมีชื่อเสียงคงไม่โกหกพระองค์แน่นอน บันทึกมีหลายเรื่องดังนี้
1 "ผู้หญิงคนนั้น"
พระศาสนโสภณ (แจ่ม จตฺตสลฺโล) วัดมกุฎกษัตริย์เคยเล่าว่า
วันหนึ่ง เวลากลางวัน ท่านกับพระหลายรูปได้ไปนั่งอยู่ข้างโบสถ์ ต่อจากโบสถ์ออกไป มีกำแพงวัดและมีประตูออกไปสู่ป่าช้าซึ่งปิดอยู่นั้น
ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งจับบานประตูผลักเข้าไปแล้วดึงกลับออกไป ทำเช่นนี้อยู่หลายครั้ง
พระศาสนโสภณเห็นแล้วจำได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ตายแล้ว เขานำไปฝังไว้ที่ป่าช้า ผ้านุ่งห่มสำรับนั้น
พระรูปหนึ่งเดินไปดูที่ประตูก็ไม่เห็นมีใครเลยรีบกลับกุฏิ
อยากให้คนที่ไม่เชื่อเรื่องผีมาอ่านกระทู้นี้
กระทู้นี้ไม่ได้สอนให้คนงมงาย หรือจะเป็นฝ่ายตรงข้ามกับวิทยาศาสตร์
แต่อยากแชร์สำหรับคนที่ไม่เชื่อ ไม่เคยอ่าน ดั่งคำว่ารู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม อ่านแล้วตัดสินใจเอาเอง และโปรดอย่าสรุปมั่วๆ
เรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องเล่าลวงโลกแบบแม่นางลาบไก่ฯ หรือน้ำท่วมทุ่ง คิดไปเอง จัดฉากแบบรายการวิทยุรายการทีวีทุกวันนี้
คนส่วนหนึ่งที่ไม่เชื่อเรื่องผีลี้ลับเพราะคนเล่า+ที่มาไม่น่าเชื่อถือ
แต่เรื่องนี้เป็นพระนิพนธ์ในสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น นภวงศ์ ประสูติสมัยร.5 สิ้นพระชนม์พ.ศ 2501)
สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 13 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร พระประวัติท่านเชิญหาอ่านได้ในกูเกิล
สาเหตุที่เกิดบันทึกนี้ เนื่องจากพระองค์ทรงสนพระทัยเรื่องลี้ลับ ทรงเล่าไว้ว่า
"เขียนขึ้นตามที่ได้ฟังและจำมา เพื่อไม่ให้สูญไปตามชีวิตเพียงแต่ปรุงแต่งคำพูดที่นึกว่าพอเข้าใจง่ายและสั้น พอได้ความเพื่อไม่สู้เบื่อในการอ่าน...ฯ"
คือท่านฟังเรื่องเล่ามาจากเจ้านาย+พระเถระ+ชาวบ้านสมัยนั้นที่คุ้นเคยกันมาเล่าเรื่องผีให้ฟัง
ท่านสัมภาษณ์เองบ้างแล้วบันทึกไว้เฉพาะเรื่องที่น่าเชื่อถือ
เจ้าของเรื่องเหล่านี้มีอยู่จริงและเป็นคนมีชื่อเสียงคงไม่โกหกพระองค์แน่นอน บันทึกมีหลายเรื่องดังนี้
1 "ผู้หญิงคนนั้น"
พระศาสนโสภณ (แจ่ม จตฺตสลฺโล) วัดมกุฎกษัตริย์เคยเล่าว่า
วันหนึ่ง เวลากลางวัน ท่านกับพระหลายรูปได้ไปนั่งอยู่ข้างโบสถ์ ต่อจากโบสถ์ออกไป มีกำแพงวัดและมีประตูออกไปสู่ป่าช้าซึ่งปิดอยู่นั้น
ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งจับบานประตูผลักเข้าไปแล้วดึงกลับออกไป ทำเช่นนี้อยู่หลายครั้ง
พระศาสนโสภณเห็นแล้วจำได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ตายแล้ว เขานำไปฝังไว้ที่ป่าช้า ผ้านุ่งห่มสำรับนั้น
พระรูปหนึ่งเดินไปดูที่ประตูก็ไม่เห็นมีใครเลยรีบกลับกุฏิ