ในโลกแห่งนี้นอกจากนักผจญภัย กับคนของแผ่นดินแล้ว ก็ยังมีอมนุษย์ เช่นกอบลินอยู่ด้วย ซึ่งแม้จะไม่ฉลาดนัก แต่แพร่พันธุ์เร็ว รับมือยาก ซ้ำยังโหดแถมเจ้าเล่ห์อีกตะหาก ถ้าแค่ลำพังตัวเดียว นักผจญภัยเลเวลกลาง ๆ ขึ้นไปก็พอรับมือได้ แต่จำนวนและความหลากหลายก็ทำให้มีปัญหาได้ ถิ่นของพวกนี้อยู่ในแถบตะวันออกเฉียงเหนือเกาะเชน

นักผจญภัยรวมตัวกันหารือว่าพรุ่งนี้มีคนของแผ่นดินหลายกลุ่มอยากเจออยากคุยด้วย ชิโรเอะเลยช่วยแบ่งกันไป ชิโรเอะจะคุยกับกลุ่มบัณฑิต ให้ครัสตี้ไปเจอกับพวกอัศวิน ส่วนมิจิทากะไปพบลอร์ดดาร์ท เฮนเรียตต้าก็ถามว่าครัสตี้ต้องเจอพวกลอร์ดกับเลดี้ตามประกบ จะเหนื่อยไหม แต่ครัสตี้บอกว่าเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งเจอโล่ห์คุ้มกันชั้นเลิศพอดี



ตัดมาด้านเจ้าหญิงเรเนเซียที่กำลังรอชุดนอนจากเมด เมดเอลิซซ่าบอกให้ใส่ชุดนอนผ้าไหมก็ไม่เอา จะเอาชุดนอนผ้าสักหลาดเท่านั้น (เจ้าหญิงติดดินรึ น่าสนใจแฮะ) แต่พอเมดทักว่าหนุ่มคนไหนก็คงไม่ยอมให้เจ้าหญิงนอนกลิ้งเกลือกทั้งวันหรอกนะ เจ้าหญิงก็นึกถึงครัสตี้ที่เดินมาหาต่อจากตอนที่แล้ว ซึ่งหน้าหนุ่มแว่นส่อความเจ้าเล่ห์ชัดแจ้งไม่ปิดบังเลยซักนิด แถมพูดตรง ๆ เลยว่าใช้เจ้าหญิงเป็นข้ออ้างเพื่อเลี่ยงจากลอร์ดขี้ตื๊อ เจ้าหญิงแอบคิดในใจว่าน่ารำคาญ แต่ครัสตี้กลับเดาความคิดเจ้าหญิงออกมาได้ตรงเป๊ะ จนสาวน้อยสูงศักดิ์กลัวที่โดนอ่านความคิดออก แล้วครัสตี้ก็ขอดื่มชาพร้อมบอกเหตุผลโต้ง ๆ ว่าจะได้มีข้ออ้างหลบบรรดาลอร์ดจอมตื้อแล้วก็พวกงานเลี้ยงน้ำชา ไหน ๆ เจ้าหญิงเองก็ไม่ชอบพวกงานพบประสังสรรค์พวกนี้เหมือนกัน ทำเอาเจ้าหญิงอึ้งไปเลยว่าหมอนี่นิสัยไม่ดีจริง ๆ ด้วย





เมดก็เตือนว่าให้ระวังครัสตี้ ขณะที่เจ้าหญิงคิดว่าเพราะเขาเหมือนอ่านใจเธอออก แต่เมดให้เหตุผลว่าเพราะเป็นนักผจญภัยต่างหาก ไว้ใจไม่ได้ เจ้าหญิงต้องนึกถึงฐานะของตนเองในฐานะสมาชิกตระกูลดยุคโคเวนให้มากกว่านี้ ทำเอาเรเนเซียหน้างอ  รุ่งขึ้นเจ้าหญิงเป็นแบบให้ศิลปินวาดภาพเหมือน แล้วก็มีหนุ่ม ๆ มายืนชื่นชมความงามของภาพ แต่เจ้าหญิงก็กลับมองว่าคนพวกนั้นมองมายังปู่เธอมากกว่าตัวเธอ แค่รูปภาพจะวาดให้สวยยังไงก็ได้ ส่วนตัวเธอแค่จะใส่เสื้อผ้าเองยังไม่อาจทำได้เลย



เจ้าหญิงเดินไปตามระเบียงแล้วก็ได้ยินเสียงประดาบ เมื่อมองลงไปก็เห็นครัสตี้กำลังเป็นคู่ซ้อมต่อสู้ให้อัศวินชุดเกราะในวัง แม้จะแหยง ๆ ในตัวครัสตี้แต่ก็ลงมานั่งดูการซ้อมสู้ของพวกอัศวินแล้วก็พูดคุยกับหนุ่มแว่น  ชิโรเอะเดินผ่านมาเห็นครัสตี้อยู่กับพวกทหารอัศวินก็หยุดดูกับพวกกลุ่มบัณฑิต




เจ้าหญิงก็เลียบเคียงว่าครัสตี้มาสู้กับพวกอัศวินไม่เบื่อแย่หรือ เพราะฝีมือต่างกันมาก แว่นเกราะก็ตอบไปตามตรงว่าอยากรู้เรื่องคนของแผ่นดินให้มากกว่านี้ แต่เจ้าหญิงก็ยังระแวงว่าแค่อยากรู้ว่ามีใครพอมีฝีมือบ้างมากกว่า แล้วครัสตี้ก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนเรียกชื่อเจ้าหญิงดังจนอัศวินหันมามองกันหมด ทำเอาเจ้าหญิงวางมาดแทบไม่ทัน แล้วครัสตี้ก็พูดว่าหากใครชนะขอพระราชทานอนุญาตเป็นคู่ควงในงานเลี้ยงได้ไหม พวกอัศวินเนื้อเต้นกันใหญ่ ส่วนเจ้าหญิงก็ช็อคที่ตัวเองโดนครัสตี้ใช้ประโยชน์กันซึ่ง ๆ หน้างี้เลย






ชิโรเอะเห็นแค่นั้นก็รู้เลยว่าโล่ห์ที่ครัสตี้พูดถึงหมายถึงเจ้าหญิงนี่เอง


ฝั่งอาคัทสึกิที่ไปสอดแนมก็ได้ยินสองลอร์ดพูดถึงนักผจญภัยอยู่ว่าจะเจรจารู้เรื่องรึ แล้วก็พูดถึงอัศวินอิซึโมะ ก่อนพูดว่าจะใช้งานนักผจญภัย เพราะไง ๆ ก็เป็นอมตะอยู่แล้ว จากนั้นเด็กสามคนเมื่อตอนงานเลี้ยงก็มาเล่นไล่จับอาคัทสึกิต่อ จนสาวน้อยนินจารีบเผ่นแทบไม่ทัน




ด้านชิโรเอะที่นั่งดูพวกบัณฑิตเจ้าทฤษฎีเถียงกันเองด้วยหน้าละเหี่ย ก็มีสายเข้าจากมิโนริที่กำลังจะลงดันเจี้ยนอีกรอบอยากคุยด้วย แต่พอบอกไปว่าติดประชุมอยู่ สาวคันนางิก็รีบวางสายแล้วเดินไปด้วยสีหน้ากลุ้ม






ด้านครัสตี้ที่เจออัศวินคนสุดท้ายก็ชนะมาได้ (แหงล่ะ!) ก่อนจะเดินไปทำความเคารพเจ้าหญิงที่พยายามปั้นหน้ายิ้มสุดความสามารถ






ครัสตี้ที่พักดื่มชากับเจ้าหญิงก็พูดว่าสู้กับอัศวินหลายคนนี่เหนื่อยจริง ๆ แล้วก็ล้มตัวลงนอนเลย เจ้าหญิงตกใจเพราะถูกสอนให้ต้องทำตัวอยู่ในกรอบ แต่ครัสตี้กลับบอกว่าเขาเป็นนักผจญภัย ต่อให้ใครมาเห็นแบบนี้ก็ต้องยอมรับอยู่แล้วว่านักผจญภัยก็เป็นแบบนี้ แถมยังชวนให้เจ้าหญิงนอนกลางวันด้วยซะอีก เจ้าหญิงเรเนเซียอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงนอนบนโต๊ะตามคำเชิญจริง ๆ แต่พอได้ยินเสียงคนอื่นแว่วมาก็รีบผุดลุกขึ้นนั่งทันที ครัสตี้ก็บอกว่าเป็นนักผจญภัยน่ะดีนะ อยากกินเมื่อไหร่ก็ได้กิน อยากนอนเมื่อไหร่ก็ได้นอน (แกรจะขายตรงชิมิยะ)