ประสบการณ์ สดๆร้อนๆ มาเล่าให้อ่านกันค่ะ
เริ่มจาก 1-2 อาทิตย์ ที่ผ่านมา ทานกาแฟ ที่ซื้อจากเวียดนาม ทุกวัน แบบเข้มข้น ที่ทำงาน กลับบ้าน เส้นพระรามสอง. รถติดมากๆๆ ก้อหิว หยิบ ชอกโกแลต ของลูก ที่พี่สาว ซื้อมาฝาก กะว่าช่วยกิน ให้หมด จัดไปหลาย เหมือนกัน. อันนี้ ต้องบอกว่าลืม ตัว. ระหว่างนั้น การรับประทานอาหาร ก้อเหมือน มีก้อนๆติดคอ พอ ทานไป ก้อจุก แอ้ก รู้ว่า น่าจะเป็นโรคกระเพาะ จึงหยุดยาแก้ปวด ที่เกี่ยวกับผ่าตัดที่ไหล่. ทานแต่ miracid
มา วิกฤติ วันที่ 25 หลังจากไปซื้อของ เพื่อเลี้ยงน้องๆ วันรุ่งขึ้น ก้อปวดท้อง เข้าห้องน้ำ ใช้ความพยายาม ในการถ่าย ออกแรง จนหน้าท้องเกร็ง. ก้อเกิดเรื่อง. รู้สึกเลยว่า มี อะไรสักอย่าง แผ่ซ่านไปทั้งหน้าอก ช่องท้อง ทุรนทุราย เพราะ หนาวๆ จากการอาบน้ำ เจอ ไฟร้อน ใน ตัว แผ่ซ่าน เหงื่อออก ชนิดเป็นน้ำ แต่สะท้านหนาว. เอ เกิดอะไรขึ้น คิดอย่างแรก น้ำย่อย ในกระเพาะขย้อน ขึ้นมา แน่นอน. กินน้ำเข้า เจือจาง.แล้วนอน คืนนั้น เป็นอีกครั้ง ทรมาณมาก
รุ่งขึ้นเช้า ไปหาหมอ ที่ รพ ใกล้บ้าน จ่ายยามา ทาน ตามนั้น นอน ซม เพราะ น่าจะหมดแรง ทานได้เฉพาะข้าวต้ม. ตกเย็น เข้าห้องน้ำ อาบน้ำ เป็นอีก คราวนี้ สังเกตุว่า ความหนาว ทำให้ กล้ามเนื้อ ช่วงท้องเกร็ง พาให้ ภายในเกร็ง. กลับมานอน ทุรนทุราย ไป จนเช้า. โทรไป ปรึกษาพี่. ที่เป็นหมอ ก้อให้กลับมา ที่ อลัมมิล กับ แอร์ เอ้ก. วันนั้น ทั้งวัน นั่งจิบ อลัมมิล แทนกาแฟ. นั่งทำงาน ได้ ทั้งวัน. ตกเย็น ทานเข้า นั่ง พัก 20 นาที ไปอาบน้ำ เป็นอีก ตานี้ ชัวร์ ความหนาวที่ทำให้เกิดอาการเกร็ง เป็นส่วนที่ทำให้เกิด แต่วันนี้ ทรมาณหนัก เพราะ ไม่ผายลม ไม่ถ่าย มา 2 วัน เคาะท้อง มีแต่ลม นอน ไม่ได้. โทร ไปหา พี่อีก ก้อให้ไปซื้อ ยา กาวิสคอน อย่างน้ำ มา กินเข้าไป บวกกับ ตอนที่แสบร้อน จัดอลัมมิล เข้าไป เต็มที่. วันนี้ ตื่นขึ้นมา ทุรนทุราย ไม่ถ่าย ไม่ผายลม จุกแอ้กๆ สมชื่อ นั่งรอ ทานยา ตามที่พี่เขาบอก มา เริ่มดีขึ้น ถ่ายมานิดนึง ต้มน้ำขิง ก้อช่วยขึ้นมาอีกบ้าง. แต่ยังไม่วางใจ ต้อง ระมัดระวังไม่ให้เกิดอีก
จริงๆ อยากบอก ทุกคน ว่า อย่ามาเป็นโรคแบบนี้ เลย. ทรมาณสุดๆ. ควรระมัดระวัง เรื่อง อาหาร การกิน ประเมินตนเอง ว่า ไหว ไม่ไหว. อย่าให้เหมือนคุณป้าจุก เลย
ปีใหม่ เลยผิดแผนไปหมด. กะว่าจะไปปฎิบัติธรรมที่วัด สัก 3 วัน ก้อไม่กล้าไป กลัว เป็นภาระ ให้ พระอาจารย์.
สวัสดี ปีใหม่ กันนะคะ. ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ค่ะ อย่าใช้ชีวิต แบบประมาทเลินเล่อ ด้วยค่ะ
โรคกระเพาะ หรือ กรดไหลย้อน. แต่ทรมาณ จริงๆ
เริ่มจาก 1-2 อาทิตย์ ที่ผ่านมา ทานกาแฟ ที่ซื้อจากเวียดนาม ทุกวัน แบบเข้มข้น ที่ทำงาน กลับบ้าน เส้นพระรามสอง. รถติดมากๆๆ ก้อหิว หยิบ ชอกโกแลต ของลูก ที่พี่สาว ซื้อมาฝาก กะว่าช่วยกิน ให้หมด จัดไปหลาย เหมือนกัน. อันนี้ ต้องบอกว่าลืม ตัว. ระหว่างนั้น การรับประทานอาหาร ก้อเหมือน มีก้อนๆติดคอ พอ ทานไป ก้อจุก แอ้ก รู้ว่า น่าจะเป็นโรคกระเพาะ จึงหยุดยาแก้ปวด ที่เกี่ยวกับผ่าตัดที่ไหล่. ทานแต่ miracid
มา วิกฤติ วันที่ 25 หลังจากไปซื้อของ เพื่อเลี้ยงน้องๆ วันรุ่งขึ้น ก้อปวดท้อง เข้าห้องน้ำ ใช้ความพยายาม ในการถ่าย ออกแรง จนหน้าท้องเกร็ง. ก้อเกิดเรื่อง. รู้สึกเลยว่า มี อะไรสักอย่าง แผ่ซ่านไปทั้งหน้าอก ช่องท้อง ทุรนทุราย เพราะ หนาวๆ จากการอาบน้ำ เจอ ไฟร้อน ใน ตัว แผ่ซ่าน เหงื่อออก ชนิดเป็นน้ำ แต่สะท้านหนาว. เอ เกิดอะไรขึ้น คิดอย่างแรก น้ำย่อย ในกระเพาะขย้อน ขึ้นมา แน่นอน. กินน้ำเข้า เจือจาง.แล้วนอน คืนนั้น เป็นอีกครั้ง ทรมาณมาก
รุ่งขึ้นเช้า ไปหาหมอ ที่ รพ ใกล้บ้าน จ่ายยามา ทาน ตามนั้น นอน ซม เพราะ น่าจะหมดแรง ทานได้เฉพาะข้าวต้ม. ตกเย็น เข้าห้องน้ำ อาบน้ำ เป็นอีก คราวนี้ สังเกตุว่า ความหนาว ทำให้ กล้ามเนื้อ ช่วงท้องเกร็ง พาให้ ภายในเกร็ง. กลับมานอน ทุรนทุราย ไป จนเช้า. โทรไป ปรึกษาพี่. ที่เป็นหมอ ก้อให้กลับมา ที่ อลัมมิล กับ แอร์ เอ้ก. วันนั้น ทั้งวัน นั่งจิบ อลัมมิล แทนกาแฟ. นั่งทำงาน ได้ ทั้งวัน. ตกเย็น ทานเข้า นั่ง พัก 20 นาที ไปอาบน้ำ เป็นอีก ตานี้ ชัวร์ ความหนาวที่ทำให้เกิดอาการเกร็ง เป็นส่วนที่ทำให้เกิด แต่วันนี้ ทรมาณหนัก เพราะ ไม่ผายลม ไม่ถ่าย มา 2 วัน เคาะท้อง มีแต่ลม นอน ไม่ได้. โทร ไปหา พี่อีก ก้อให้ไปซื้อ ยา กาวิสคอน อย่างน้ำ มา กินเข้าไป บวกกับ ตอนที่แสบร้อน จัดอลัมมิล เข้าไป เต็มที่. วันนี้ ตื่นขึ้นมา ทุรนทุราย ไม่ถ่าย ไม่ผายลม จุกแอ้กๆ สมชื่อ นั่งรอ ทานยา ตามที่พี่เขาบอก มา เริ่มดีขึ้น ถ่ายมานิดนึง ต้มน้ำขิง ก้อช่วยขึ้นมาอีกบ้าง. แต่ยังไม่วางใจ ต้อง ระมัดระวังไม่ให้เกิดอีก
จริงๆ อยากบอก ทุกคน ว่า อย่ามาเป็นโรคแบบนี้ เลย. ทรมาณสุดๆ. ควรระมัดระวัง เรื่อง อาหาร การกิน ประเมินตนเอง ว่า ไหว ไม่ไหว. อย่าให้เหมือนคุณป้าจุก เลย
ปีใหม่ เลยผิดแผนไปหมด. กะว่าจะไปปฎิบัติธรรมที่วัด สัก 3 วัน ก้อไม่กล้าไป กลัว เป็นภาระ ให้ พระอาจารย์.
สวัสดี ปีใหม่ กันนะคะ. ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ค่ะ อย่าใช้ชีวิต แบบประมาทเลินเล่อ ด้วยค่ะ