ตอนนี้ญี่ปุ่นมีนโยบายส่งออกอุตสาหกรรมวัฒนธรรม หนัง ซีรี่ย์ เพลง อะนิเม หรืออาหาร อย่างเช่นอันนี้
ญี่ปุ่นตั้งทีวีแพร่วัฒนธรรมในอุษาคเนย์
รัฐบาลญี่ปุ่นเอาอย่างเกาหลี ลุยอุตสาหกรรมวัฒนธรรมในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขายตั้งแต่การ์ตูน ละคร ไปจนถึงอาหาร หวังเพิ่มยอดส่งออกสินค้า และดึงดูดนักท่องเที่ยว
บรรดาสถานีโทรทัศน์ เอเยนซี่โฆษณา และหุ้นส่วนหลายราย มีแผนจะเปิด "Japan Channel" โดยประเดิมแห่งแรกที่สิงคโปร์ในเดือนกุมภาพันธ์ เคเบิลทีวีในสิงคโปร์แห่งนี้จะออกอากาศละคร การ์ตูน และรายการเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น
รัฐบาลโตเกียวจะสนับสนุนเงินทุนในนาม "Cool Japan Fund"ด้วยเงินราว 80,000 ล้านเยน หรือประมาณ 27,700 ล้านบาท ขณะที่บรรดาสถานีและเอเยนซี่โฆษณา รวมทั้งบริษัทต่างๆ จะลงขันกันเป็นจำนวนหลายพันล้านเยน จัดตั้ง "บริษัทจุดประสงค์พิเศษ" หรือเอสพีซี (special purpose companies) ในประเทศต่างๆเพื่อบริหารสถานีโทรทัศน์ในแต่ละประเทศ
หุ้นส่วนกลุ่มนี้จะจัดตั้งเอสพีซีขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ และจะทยอยเตรียมการเพื่อออกอากาศในอนาคต รวมทั้งมองหาช่องสถานีออกอากาศ และสิทธิออกอากาศของเคเบิลทีวีและโทรทัศน์ดาวเทียมในประเทศเหล่านั้น
สถานีเหล่านั้นจะฉายหนังญี่ปุ่น และโฆษณาสินค้าญี่ปุ่น พ่วงด้วยรายการขายของ เช่น ของเล่น, เครื่องสำอาง, เสื้อผ้า คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังญี่ปุ่น และช่วยส่งเสริมการขาย ด้วยการหว่านเสน่ห์ของวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์แบบญี่ปุ่น
เกาหลีใต้ ซึ่งญี่ปุ่นถือเป็นคู่แข่งในอุตสาหกรรมนี้ ดืทำแคมเปญในทำนองนี้มาตั้งแต่ปี 2540 รัฐบาลเกาหลีใต้มีบทบาทนำในการส่งเสริมละครทีวี, เพลงป๊อป และสินค้าวัฒนธรรมของเกาหลีในต่างแดน ซึ่งช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าเกาหลี และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศ
ในปี 2554 ตลาดอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมีมูลค่าราว 2.3 ล้านล้านเยน รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะเพิ่มมูลค่าเป็น 11 ล้านล้านเยนภายในปี 2563 และเพิ่มเป็น 17 ล้านล้านเยนหากรวมถึงยอดขายของอาหารญี่ปุ่นด้วย
รัฐบาลใหม่ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ มองว่า โครงการนี้เป็นมาตรการหนึ่งในการฟื้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
ที่มา
http://news.voicetv.co.th/global/60020.html
ดังนั้นต่อไปนี้เกาหลีคือคู่แข่งคนสำคัญของญี่ปุ่น การให้คู่แข่งมาโกยเงินในบ้านจึงไม่ใช่เรื่องที่สมควรอีกต่อไป และอีกอย่างนายกอาเบะค่อนข้างชาตินิยมด้วยซึ่งก็เป็นสาเหตุสำคัญเช่นกัน
กระแสซบเซาของบันเทิงเกาหลีในญี่ปุ่นอาจเนื่องมาจากนโยบาย cool japan ของนายกอาเบะ
ญี่ปุ่นตั้งทีวีแพร่วัฒนธรรมในอุษาคเนย์
รัฐบาลญี่ปุ่นเอาอย่างเกาหลี ลุยอุตสาหกรรมวัฒนธรรมในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขายตั้งแต่การ์ตูน ละคร ไปจนถึงอาหาร หวังเพิ่มยอดส่งออกสินค้า และดึงดูดนักท่องเที่ยว
บรรดาสถานีโทรทัศน์ เอเยนซี่โฆษณา และหุ้นส่วนหลายราย มีแผนจะเปิด "Japan Channel" โดยประเดิมแห่งแรกที่สิงคโปร์ในเดือนกุมภาพันธ์ เคเบิลทีวีในสิงคโปร์แห่งนี้จะออกอากาศละคร การ์ตูน และรายการเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น
รัฐบาลโตเกียวจะสนับสนุนเงินทุนในนาม "Cool Japan Fund"ด้วยเงินราว 80,000 ล้านเยน หรือประมาณ 27,700 ล้านบาท ขณะที่บรรดาสถานีและเอเยนซี่โฆษณา รวมทั้งบริษัทต่างๆ จะลงขันกันเป็นจำนวนหลายพันล้านเยน จัดตั้ง "บริษัทจุดประสงค์พิเศษ" หรือเอสพีซี (special purpose companies) ในประเทศต่างๆเพื่อบริหารสถานีโทรทัศน์ในแต่ละประเทศ
หุ้นส่วนกลุ่มนี้จะจัดตั้งเอสพีซีขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ และจะทยอยเตรียมการเพื่อออกอากาศในอนาคต รวมทั้งมองหาช่องสถานีออกอากาศ และสิทธิออกอากาศของเคเบิลทีวีและโทรทัศน์ดาวเทียมในประเทศเหล่านั้น
สถานีเหล่านั้นจะฉายหนังญี่ปุ่น และโฆษณาสินค้าญี่ปุ่น พ่วงด้วยรายการขายของ เช่น ของเล่น, เครื่องสำอาง, เสื้อผ้า คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังญี่ปุ่น และช่วยส่งเสริมการขาย ด้วยการหว่านเสน่ห์ของวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์แบบญี่ปุ่น
เกาหลีใต้ ซึ่งญี่ปุ่นถือเป็นคู่แข่งในอุตสาหกรรมนี้ ดืทำแคมเปญในทำนองนี้มาตั้งแต่ปี 2540 รัฐบาลเกาหลีใต้มีบทบาทนำในการส่งเสริมละครทีวี, เพลงป๊อป และสินค้าวัฒนธรรมของเกาหลีในต่างแดน ซึ่งช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าเกาหลี และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศ
ในปี 2554 ตลาดอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมีมูลค่าราว 2.3 ล้านล้านเยน รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะเพิ่มมูลค่าเป็น 11 ล้านล้านเยนภายในปี 2563 และเพิ่มเป็น 17 ล้านล้านเยนหากรวมถึงยอดขายของอาหารญี่ปุ่นด้วย
รัฐบาลใหม่ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ มองว่า โครงการนี้เป็นมาตรการหนึ่งในการฟื้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
ที่มา http://news.voicetv.co.th/global/60020.html
ดังนั้นต่อไปนี้เกาหลีคือคู่แข่งคนสำคัญของญี่ปุ่น การให้คู่แข่งมาโกยเงินในบ้านจึงไม่ใช่เรื่องที่สมควรอีกต่อไป และอีกอย่างนายกอาเบะค่อนข้างชาตินิยมด้วยซึ่งก็เป็นสาเหตุสำคัญเช่นกัน