ในทุกๆประเทศที่ยังมีโทษประหารชีวิต มีหนึ่งในธรรมเนียมที่ยังคงเป็นที่ปฏิบัติกันอยู่ นั่นคือ การให้นักโทษ ได้รับประทานอาหารมื้อสุดท่าย หรือ The Last Meal
ก่อนการประหารชีวิต หลังดำเนินการตรวจสอบหลักฐานต่างๆสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นการให้นักโทษได้รับประทานอาหารมื้อสุดท้าย และทำพิธีทางศาสนา โดยกฎเกณฑ์เกี่ยวกับอาหารมื้อสุดท้ายนี้จะต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยมากมักจะไม่มีสุรา หรือสิ่งต้องห้าม แต่ในบางประเทศ เช่น ฝรั่งเศส มีธรรมเนียมการให้เหล้ารัมแก้วเล็กๆด้วย และในหลายประเทศ ก็อนุญาตให้นักโทษได้เลือกอาหารมื้อสุดท้ายได้ตามความเหมาะสม โดยในสหรัฐอเมริกา อาหารมื้อสุดท้ายก็มีกฎเกณฑ์ต่างกันไปในแต่ละรัฐ เช่น
1.ในรัฐฟลอริดา อาหารนั้นต้องทำจากวัตถุดิบที่หาได้ในเรือนจำ ราคาไม่เกิน 40 เหรียญ
2.ในรัฐจอร์เจีย อาหารมื้อสุดท้ายราคาต้องไม่เกิน 15 เหรียญ
3.ในรัฐลุยเซียนา ผู้คุมสามารถร่วมทานอาหารมื้อสุดท้ายกับนักโทษ รวมทั้งจ่ายค่าอาหารมื้อนั้นให้ได้
4.ในรัฐเท็กซัส ตั้งแต่ปี 2011 ได้ยกเลิกธรรมเนียมการให้อาหารมื้อสุดท้ายแบบพิเศษตามคำขอ เนื่องจากมีนักโทษรายหนึ่งสั่งอาหารจำนวนมาก แต่ไม่ได้ทาน ตั้งแต่นั้นมานักโทษประหารจะได้รับอาหารมื้อสุดท้ายเป็นอาหารปกติตามที่เรือนจำจัดให้
นี่คือตัวอย่างของอาหารมื้อสุดท้ัายสำหรับนักโทษประหารในสหรัฐฯ
1.Aileen Wuornos ฆาตกรต่อเนื่องหญิง ถูกประหารปี 2002 ในรัฐฟลอริดา ไม่ได้สั่งอาหารอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ทานเบอร์เกอร์ และของขบเคี้ยวจากโรงอาหารของทางเรือนจำ และกาแฟอีกหนึ่งถ้วย
2.Ted Bundy ฆาตกรต่อเนื่อง ถูกประหารปี 1989 ในรัฐฟลอริดา ไม่ได้สั่งอะไรเป็นพิเศษ แต่ได้รับสเต็กแบบมีเดียมแรร์ ไข่ทอด ขนมปัง นม น้ำส้ม เนย และเยลลี แต่ก็ไม่ได้ทาน
3.Ronnie Lee Gardner ฆาตกรรมสองราย ถูกประหารปี 2010 ในรัฐยูทาห์ ได้รับหางล็อบสเตอร์ สเต็ก เซเว่นอัพ ไอศกรีมวานิลลา และชมภาพยนตร์ The Lord of the Ring สามภาคจบ
4.Timothy McVeigh ผู้ก่อเหตุวางระเบิดที่โอคลาโฮมา ปี 1995 ถูกประหารปี 2001 ที่อินเดียนา ได้รับไอศกรีมช็อกโกแลตชิพ
5.Clarence Ray Allen ถูกประหารปี 2006 ที่แคลิฟอร์เนีย ได้รับสเต็กเนื้อควายกับขนมปังทอด(อาหารของอเมริกันอินเดียน) ไก่ทอดเคเอฟซี เพนแกนพาย และไอศกรีมวอลนัท (ทั้งสองเป็นแบบ Sugar free)
สำหรับในไทย อาหารมื้อสุดท้ายเป็นอาหารธรรมดา โดยนักโทษสามารถขอกินอะไรเป็นพิเศษได้ แต่ต้องเป็นที่ทางเรือนจำจัดให้ได้ ยกเว้นสุรา แต่โดยมากไม่มีใครทาน มักจะขอให้ทางผู้คุมทำบุญไปให้มากกว่า
ส่วนอาหารมื้อพิเศษ เช่น กรณีนายเดชา ผู้ก่อเหตุข่มขืนและฆาตกรรมลูกเลี้ยงในปี 2539 ถูกประหารในปี 2542 ได้ขอทานทุเรียน ซึ่งตอนนั้นผู้คุมคนหนึ่งมีญาติที่ขายทุเรียนในตลาดนนท์พอดี เลยจัดหาให้ได้ และนายวาด ผู้ก่อคดีวางเพลิงจนมีผู้เสียชีวิต ได้ขอทานแกงไตปลาเป็นครั้งสุดท้าย เผอิญวันนั้นผู้คุมคนหนึ่งมีแกงไตปลาเป็นอาหารเย็นในพอดี จึงสละแกงถุงนั้นให้ เป็นอาหารมื้อสุดท้าย พร้อมข้าวเหนียวสังขยาอีกหนึ่งห่อ (จากหนังสือของคุณยุทธ บางขวาง)
อาหารมื้อสุดท้าย ของนักโทษประหาร
ก่อนการประหารชีวิต หลังดำเนินการตรวจสอบหลักฐานต่างๆสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นการให้นักโทษได้รับประทานอาหารมื้อสุดท้าย และทำพิธีทางศาสนา โดยกฎเกณฑ์เกี่ยวกับอาหารมื้อสุดท้ายนี้จะต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยมากมักจะไม่มีสุรา หรือสิ่งต้องห้าม แต่ในบางประเทศ เช่น ฝรั่งเศส มีธรรมเนียมการให้เหล้ารัมแก้วเล็กๆด้วย และในหลายประเทศ ก็อนุญาตให้นักโทษได้เลือกอาหารมื้อสุดท้ายได้ตามความเหมาะสม โดยในสหรัฐอเมริกา อาหารมื้อสุดท้ายก็มีกฎเกณฑ์ต่างกันไปในแต่ละรัฐ เช่น
1.ในรัฐฟลอริดา อาหารนั้นต้องทำจากวัตถุดิบที่หาได้ในเรือนจำ ราคาไม่เกิน 40 เหรียญ
2.ในรัฐจอร์เจีย อาหารมื้อสุดท้ายราคาต้องไม่เกิน 15 เหรียญ
3.ในรัฐลุยเซียนา ผู้คุมสามารถร่วมทานอาหารมื้อสุดท้ายกับนักโทษ รวมทั้งจ่ายค่าอาหารมื้อนั้นให้ได้
4.ในรัฐเท็กซัส ตั้งแต่ปี 2011 ได้ยกเลิกธรรมเนียมการให้อาหารมื้อสุดท้ายแบบพิเศษตามคำขอ เนื่องจากมีนักโทษรายหนึ่งสั่งอาหารจำนวนมาก แต่ไม่ได้ทาน ตั้งแต่นั้นมานักโทษประหารจะได้รับอาหารมื้อสุดท้ายเป็นอาหารปกติตามที่เรือนจำจัดให้
นี่คือตัวอย่างของอาหารมื้อสุดท้ัายสำหรับนักโทษประหารในสหรัฐฯ
1.Aileen Wuornos ฆาตกรต่อเนื่องหญิง ถูกประหารปี 2002 ในรัฐฟลอริดา ไม่ได้สั่งอาหารอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ทานเบอร์เกอร์ และของขบเคี้ยวจากโรงอาหารของทางเรือนจำ และกาแฟอีกหนึ่งถ้วย
2.Ted Bundy ฆาตกรต่อเนื่อง ถูกประหารปี 1989 ในรัฐฟลอริดา ไม่ได้สั่งอะไรเป็นพิเศษ แต่ได้รับสเต็กแบบมีเดียมแรร์ ไข่ทอด ขนมปัง นม น้ำส้ม เนย และเยลลี แต่ก็ไม่ได้ทาน
3.Ronnie Lee Gardner ฆาตกรรมสองราย ถูกประหารปี 2010 ในรัฐยูทาห์ ได้รับหางล็อบสเตอร์ สเต็ก เซเว่นอัพ ไอศกรีมวานิลลา และชมภาพยนตร์ The Lord of the Ring สามภาคจบ
4.Timothy McVeigh ผู้ก่อเหตุวางระเบิดที่โอคลาโฮมา ปี 1995 ถูกประหารปี 2001 ที่อินเดียนา ได้รับไอศกรีมช็อกโกแลตชิพ
5.Clarence Ray Allen ถูกประหารปี 2006 ที่แคลิฟอร์เนีย ได้รับสเต็กเนื้อควายกับขนมปังทอด(อาหารของอเมริกันอินเดียน) ไก่ทอดเคเอฟซี เพนแกนพาย และไอศกรีมวอลนัท (ทั้งสองเป็นแบบ Sugar free)
สำหรับในไทย อาหารมื้อสุดท้ายเป็นอาหารธรรมดา โดยนักโทษสามารถขอกินอะไรเป็นพิเศษได้ แต่ต้องเป็นที่ทางเรือนจำจัดให้ได้ ยกเว้นสุรา แต่โดยมากไม่มีใครทาน มักจะขอให้ทางผู้คุมทำบุญไปให้มากกว่า
ส่วนอาหารมื้อพิเศษ เช่น กรณีนายเดชา ผู้ก่อเหตุข่มขืนและฆาตกรรมลูกเลี้ยงในปี 2539 ถูกประหารในปี 2542 ได้ขอทานทุเรียน ซึ่งตอนนั้นผู้คุมคนหนึ่งมีญาติที่ขายทุเรียนในตลาดนนท์พอดี เลยจัดหาให้ได้ และนายวาด ผู้ก่อคดีวางเพลิงจนมีผู้เสียชีวิต ได้ขอทานแกงไตปลาเป็นครั้งสุดท้าย เผอิญวันนั้นผู้คุมคนหนึ่งมีแกงไตปลาเป็นอาหารเย็นในพอดี จึงสละแกงถุงนั้นให้ เป็นอาหารมื้อสุดท้าย พร้อมข้าวเหนียวสังขยาอีกหนึ่งห่อ (จากหนังสือของคุณยุทธ บางขวาง)