เริ่มต้นวันที่ 3 ด้วยการตื่นค่อนข้างสาย (9 โมงกว่า) อาบน้ำแต่งตัวเก็บของ Check Out ออกจากโรงแรมก็ปาเข้าไป 10 โมงนิดๆ แถมยังต้องสะพายเป้ลากกระเป๋าดิ่งไปที่ Toyoko inn Senba Higashi เพื่อฝากกระเป๋าใบใหญ่ก่อนจะเดินทางไปเกียวโต เราเลยรีบตรงดิ่งไปที่ สถานี Shinsaibashi เพื่อนั่งรถไปลงที่ สถานี Tanimachi ตามที่ดูจากแผนที่โรงแรม ตอนนั้นในใจคิดอย่างเดียวว่าต้องรีบๆๆๆ อย่างน้อยต้องถึง Kyoto ก่อนเที่ยง จากแผนเดิมที่วางไว้ 10 โมง เพราะเราวางโปรแกรมไว้ค่อนข้างแน่น
ตื่นมาก็สับส้นแตก ด้วยความเร่งรีบ
พอถึงสถานี Tanimachi เราก็กางแผนที่โรงแรมออกมา เค้าบอกว่าให้ออกประตู 8 และเดินเลี้ยวซ้ายประมาณ 5 นาที เราก็รีบจ้ำๆๆ เดินมาซัก 10 นาที แล้ว??? ไหนอะโรงแรม ยืนงงสักพัก กางแผนที่อีกรอบ นับบล็อค ดูชื่อถนน แล้วก็ยืนงงอีกพัก ดูนาฬิกา 11.30 น. ถอนหายใจ ตั้งสติ แล้วก็นึกได้ว่าเรามีของวิเศษอยู่ Google Map!!! เปิด Search มันก็ค่อยๆโหลด หมุนๆ สักพักเด้งออก!!! เหมือน Application มันซ้ำเติม เปิด Search อีกรอบ คราวนี้เจอที่หมาย แต่มันขึ้นว่าต้องเดินไปอีก 12 นาที เราก็งงๆ ไม่รู้จะเชื่อแผนที่ของโรงแรม หรือ Google Map ดี แต่มาตามแผนที่โรงแรมแล้วมันไม่เจอนิ่ เชื่ออากู๋ละกัน เราก็ออกเดินๆๆ ตามเส้นทางของ Google Map จนมาถึงที่หมายตามนั้น เราก็หยุดมอง ไหนอะ!!!??? มองซ้าย ขวา หน้า หลัง บน ล่าง ไม่มีวี่แววของโรงแรม แล้วเราก็เจอคนญี่ปุ่นจอดรถขนของอยู่ เอาวะคงจะรู้น่ะ เข้าไปหาและยื่นแผนที่โรงแรมให้ดู เค้าก็กลับหัวกลับหางตะแคงดูแผนที่ แล้วยื่นกลับมาให้เรา พร้อมกับพูดอะไรบางอย่าง แต่คงจะไม่รู้จัก ตายล่ะหว่า สุดท้ายต้องยอมที่พึ่งสุดท้าย Taxi ชั่วโมงนั้นต้องยอมละ ถึงแม้รู้ว่าค่าโดยสารจะโหดแค่ไหนก็ตาม ดิ่งตรงไปที่ Taxi ยื่นแผนที่ ปรากฏว่า Taxi งง???!!!! เค้าก็ดูสักพัก แล้วเปิดประตูลงจากรถ เปิดกระโปรงท้าย หยิบเอาหนังสือหนาๆ ประมาณสมุดหน้าเหลืองขึ้นมา เราก็ชะโงกหน้าไปดู มันคือแผนที่แต่ละหน้าละเอียดยิบ เปิดไปเปิดมาสักพัก ก็ Bingo!!! ท่าทางว่าจะเจอนะ ออกรถสตาร์ทที่ 660 Yen ขับเลี้ยวไปเลี้ยวมา จนเราสงสัยว่าพาอ้อมใช่มั้ย ขับมา 5 นาทีก็จอด แล้วหันมาบอกว่าถึงแล้ว
จากนั้นเราก็ขนกระเป๋าลงไปฝากที่โรงแรม พร้อมกับบ่นและด่าในใจว่า (((แผนที่โรงแรมคุณทำไมมั่วโคตรอย่างนี้อะ))) จัดการกับกระเป๋าเสร็จก็รีบวิ่งไปที่สถานี Tanimachi มาถึงทางลงสถานีก็สังเกตเห็นว่าเป็นทางออกประตู 8 อ้าวตอนแรกเราก็ออกประตู 8 ทำไมไม่ใช่อันนี้อะเลยกางแผนที่ดูจึงถึงบางอ้อว่า Tanimachi มันมีทั้งหมด 3 สถานี Tanimachi4-Chome, Tanimachi6-Chome, Tanimachi9-Chome แต่สถานีตามแผนที่ของโรงแรมคือ Tanimachi4-Chome แต่เราดันไปลงที่ Tanimachi6-Chome ก็หลงดิฮะ สรุปมันคือผลพวงของการตื่นสาย และสะเพร่าในการดูแผนที่
แผนที่โรงแรมบอกเดินจากสถานี 5 นาทีก็ถึง
Tanimachi สถานีเจ้ากรรมดันมีซะ 3 สถานี
มาเดินทางกันต่อ นั่งรถจาก Tanimachi4-Chome มาลงที่ Umeda และเดินต่อนิดหน่อยขึ้นรถที่สถานี Osaka ตอนนี้บอกตรงๆ เลยท้องร้องเพราะไม่มีเวลากินข้าวเช้า มองดูนาฬิกาก็เที่ยงแล้ว เลยต้องแบกท้องไปกินที่เกียวโต จัดแจงซื้อตั๋วรถสาย Hankyu ไปลงที่สถานี Omiya ใน Kyoto เพื่อจะ Check in ที่โรงแรม Toyoko inn Shijo-Omiya และเอาสัมภาระไปเก็บก่อน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
สถานี Osaka คนเริ่มพลุกพล่าน
ซื้อตั๋ววิ่งขึ้นรถไฟได้ อยากจะตะโกนว่า "ออกได้เลยพี่"
อีกแปบเดียวถึง รอหน่อยนะจ้ะ Kyoto
และแล้วเราก็มาถึงจนได้ ภูมิใจนะเนี่ยเดินทางมา Kyoto เอง
มาถึงสถานี Omiya ก็รีบเดินหาโรงแรม แต่รอบนี้ง่ายเพราะอยู่ไม่ไกลจากสถานีนัก Check in เก็บของเสร็จแล้วก็เดินกลับมาที่สถานี Omiya เพื่อจะมาซื้อตั๋ว Kyoto City Bus 1 Day Pass และเริ่มท่องเกียวโตกันเลย (ตอนนี้จะบ่ายสองแล้วT_T) Next Station Ginkaku-ji
ตู้ขายตั๋วหน้าสถานี Omiya หน้าตาเก่าและซีดมาก
Kyoto City Bus 1 Day Pass สนนราคาที่หัวละ 500 Yen ใช้ได้ไม่จำกัดเที่ยว
นี่ๆ สายนี้เลย ที่จะไปวัดเงิน Ginkaku-ji
นั่งรถเมล์เที่ยวได้อารมณ์และชอบมากมาย
เหลือบไปเห็นเครื่องอ่านตั๋ว ในใจคิดเอาล่ะสิแล้วมันใช้ยังไงเนี่ย เสียบตรงไหน ละมันจะไหลคืนมารูไหน
ว่าแล้วก็ถอยให้ฝรั่งที่มันถือตั๋วแบบเดียวกับเรามันลงก่อน แล้วเราค่อยทำตามมัน อิ อิ
สรุปคือใส่ตั๋วไปในช่องเขียวๆ ละรอรับด้านบนจ้ะ
ระหว่างทางเราก็เริ่มเห็นใบไม้แดง ความรู้สึกแว๊บแรกคือทำไมมันสวยจังอะ
ใช้เวลาเกือบ 20 นาที (รถค่อนข้างติด) ก็มาถึงป้าย Ginkaku-ji ลงมาหันซ้ายหันขวา ไหนอะวัด ไม่รู้ต้องเดินไปทางไหน แต่ก็ใช้วิธีสากลคือเดินตามคนเยอะๆ ไปเดี๋ยวดีเอง ระหว่างทางเข้าวัดก็บรรยากาศทั่วไปคือร้านค้าที่เรียงรายตามสองข้างทางที่คอยดักทรัพย์ของเรา ก่อนที่จะเข้าถึงตัววัด
ทางเข้าวัดหาไม่ยาก เดินตามผู้คน และสังเกตสองข้างทางไว้ มีร้านเยอะๆ นั่นแหละใช่
ค่าเข้าชมคนละ 500 Yen
ตัววิหารหลัก
เอาลูกน้องเข้ามาเดินเล่นด้วย
แต่เมื่อมองจากมุมบนแล้วอีก 3-4 วันน่าจะแดงและสวยกว่านี้กว่า
ใช้เวลาที่ Ginkaku-ji อยู่เกือบๆ ชั่วโมงก็ได้เวลาอาหารมื้อแรก แถวๆ หน้าวัด และเป็นร้านแรกที่เรามีโอกาสหากินได้เองตามใจ เดินมาเจออยู่ร้านนึงหน้าตาน่ากิน แต่ก็ผิดหวังคือไม่อร่อยเลย งั้นเราไม่ต้องพูดถึงนักข้ามๆ ไปเลยละกานนนน
(เด๋วมารีวิวต่อน๊า ปั่งานแปบ)
[CR] ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 3 หลง งง สุดท้าย Fin ที่ Kyoto
ตื่นมาก็สับส้นแตก ด้วยความเร่งรีบ
พอถึงสถานี Tanimachi เราก็กางแผนที่โรงแรมออกมา เค้าบอกว่าให้ออกประตู 8 และเดินเลี้ยวซ้ายประมาณ 5 นาที เราก็รีบจ้ำๆๆ เดินมาซัก 10 นาที แล้ว??? ไหนอะโรงแรม ยืนงงสักพัก กางแผนที่อีกรอบ นับบล็อค ดูชื่อถนน แล้วก็ยืนงงอีกพัก ดูนาฬิกา 11.30 น. ถอนหายใจ ตั้งสติ แล้วก็นึกได้ว่าเรามีของวิเศษอยู่ Google Map!!! เปิด Search มันก็ค่อยๆโหลด หมุนๆ สักพักเด้งออก!!! เหมือน Application มันซ้ำเติม เปิด Search อีกรอบ คราวนี้เจอที่หมาย แต่มันขึ้นว่าต้องเดินไปอีก 12 นาที เราก็งงๆ ไม่รู้จะเชื่อแผนที่ของโรงแรม หรือ Google Map ดี แต่มาตามแผนที่โรงแรมแล้วมันไม่เจอนิ่ เชื่ออากู๋ละกัน เราก็ออกเดินๆๆ ตามเส้นทางของ Google Map จนมาถึงที่หมายตามนั้น เราก็หยุดมอง ไหนอะ!!!??? มองซ้าย ขวา หน้า หลัง บน ล่าง ไม่มีวี่แววของโรงแรม แล้วเราก็เจอคนญี่ปุ่นจอดรถขนของอยู่ เอาวะคงจะรู้น่ะ เข้าไปหาและยื่นแผนที่โรงแรมให้ดู เค้าก็กลับหัวกลับหางตะแคงดูแผนที่ แล้วยื่นกลับมาให้เรา พร้อมกับพูดอะไรบางอย่าง แต่คงจะไม่รู้จัก ตายล่ะหว่า สุดท้ายต้องยอมที่พึ่งสุดท้าย Taxi ชั่วโมงนั้นต้องยอมละ ถึงแม้รู้ว่าค่าโดยสารจะโหดแค่ไหนก็ตาม ดิ่งตรงไปที่ Taxi ยื่นแผนที่ ปรากฏว่า Taxi งง???!!!! เค้าก็ดูสักพัก แล้วเปิดประตูลงจากรถ เปิดกระโปรงท้าย หยิบเอาหนังสือหนาๆ ประมาณสมุดหน้าเหลืองขึ้นมา เราก็ชะโงกหน้าไปดู มันคือแผนที่แต่ละหน้าละเอียดยิบ เปิดไปเปิดมาสักพัก ก็ Bingo!!! ท่าทางว่าจะเจอนะ ออกรถสตาร์ทที่ 660 Yen ขับเลี้ยวไปเลี้ยวมา จนเราสงสัยว่าพาอ้อมใช่มั้ย ขับมา 5 นาทีก็จอด แล้วหันมาบอกว่าถึงแล้ว
จากนั้นเราก็ขนกระเป๋าลงไปฝากที่โรงแรม พร้อมกับบ่นและด่าในใจว่า (((แผนที่โรงแรมคุณทำไมมั่วโคตรอย่างนี้อะ))) จัดการกับกระเป๋าเสร็จก็รีบวิ่งไปที่สถานี Tanimachi มาถึงทางลงสถานีก็สังเกตเห็นว่าเป็นทางออกประตู 8 อ้าวตอนแรกเราก็ออกประตู 8 ทำไมไม่ใช่อันนี้อะเลยกางแผนที่ดูจึงถึงบางอ้อว่า Tanimachi มันมีทั้งหมด 3 สถานี Tanimachi4-Chome, Tanimachi6-Chome, Tanimachi9-Chome แต่สถานีตามแผนที่ของโรงแรมคือ Tanimachi4-Chome แต่เราดันไปลงที่ Tanimachi6-Chome ก็หลงดิฮะ สรุปมันคือผลพวงของการตื่นสาย และสะเพร่าในการดูแผนที่
แผนที่โรงแรมบอกเดินจากสถานี 5 นาทีก็ถึง
Tanimachi สถานีเจ้ากรรมดันมีซะ 3 สถานี
มาเดินทางกันต่อ นั่งรถจาก Tanimachi4-Chome มาลงที่ Umeda และเดินต่อนิดหน่อยขึ้นรถที่สถานี Osaka ตอนนี้บอกตรงๆ เลยท้องร้องเพราะไม่มีเวลากินข้าวเช้า มองดูนาฬิกาก็เที่ยงแล้ว เลยต้องแบกท้องไปกินที่เกียวโต จัดแจงซื้อตั๋วรถสาย Hankyu ไปลงที่สถานี Omiya ใน Kyoto เพื่อจะ Check in ที่โรงแรม Toyoko inn Shijo-Omiya และเอาสัมภาระไปเก็บก่อน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
สถานี Osaka คนเริ่มพลุกพล่าน
ซื้อตั๋ววิ่งขึ้นรถไฟได้ อยากจะตะโกนว่า "ออกได้เลยพี่"
อีกแปบเดียวถึง รอหน่อยนะจ้ะ Kyoto
และแล้วเราก็มาถึงจนได้ ภูมิใจนะเนี่ยเดินทางมา Kyoto เอง
มาถึงสถานี Omiya ก็รีบเดินหาโรงแรม แต่รอบนี้ง่ายเพราะอยู่ไม่ไกลจากสถานีนัก Check in เก็บของเสร็จแล้วก็เดินกลับมาที่สถานี Omiya เพื่อจะมาซื้อตั๋ว Kyoto City Bus 1 Day Pass และเริ่มท่องเกียวโตกันเลย (ตอนนี้จะบ่ายสองแล้วT_T) Next Station Ginkaku-ji
ตู้ขายตั๋วหน้าสถานี Omiya หน้าตาเก่าและซีดมาก
Kyoto City Bus 1 Day Pass สนนราคาที่หัวละ 500 Yen ใช้ได้ไม่จำกัดเที่ยว
นี่ๆ สายนี้เลย ที่จะไปวัดเงิน Ginkaku-ji
นั่งรถเมล์เที่ยวได้อารมณ์และชอบมากมาย
เหลือบไปเห็นเครื่องอ่านตั๋ว ในใจคิดเอาล่ะสิแล้วมันใช้ยังไงเนี่ย เสียบตรงไหน ละมันจะไหลคืนมารูไหน
ว่าแล้วก็ถอยให้ฝรั่งที่มันถือตั๋วแบบเดียวกับเรามันลงก่อน แล้วเราค่อยทำตามมัน อิ อิ
สรุปคือใส่ตั๋วไปในช่องเขียวๆ ละรอรับด้านบนจ้ะ
ระหว่างทางเราก็เริ่มเห็นใบไม้แดง ความรู้สึกแว๊บแรกคือทำไมมันสวยจังอะ
ใช้เวลาเกือบ 20 นาที (รถค่อนข้างติด) ก็มาถึงป้าย Ginkaku-ji ลงมาหันซ้ายหันขวา ไหนอะวัด ไม่รู้ต้องเดินไปทางไหน แต่ก็ใช้วิธีสากลคือเดินตามคนเยอะๆ ไปเดี๋ยวดีเอง ระหว่างทางเข้าวัดก็บรรยากาศทั่วไปคือร้านค้าที่เรียงรายตามสองข้างทางที่คอยดักทรัพย์ของเรา ก่อนที่จะเข้าถึงตัววัด
ทางเข้าวัดหาไม่ยาก เดินตามผู้คน และสังเกตสองข้างทางไว้ มีร้านเยอะๆ นั่นแหละใช่
ค่าเข้าชมคนละ 500 Yen
ตัววิหารหลัก
และก็ใบไม้แด๊งแดง
เอาลูกน้องเข้ามาเดินเล่นด้วย
แต่เมื่อมองจากมุมบนแล้วอีก 3-4 วันน่าจะแดงและสวยกว่านี้กว่า
ใช้เวลาที่ Ginkaku-ji อยู่เกือบๆ ชั่วโมงก็ได้เวลาอาหารมื้อแรก แถวๆ หน้าวัด และเป็นร้านแรกที่เรามีโอกาสหากินได้เองตามใจ เดินมาเจออยู่ร้านนึงหน้าตาน่ากิน แต่ก็ผิดหวังคือไม่อร่อยเลย งั้นเราไม่ต้องพูดถึงนักข้ามๆ ไปเลยละกานนนน
(เด๋วมารีวิวต่อน๊า ปั่งานแปบ)