เราไม่เคยเขียนกระทู้ในที่ใดมาก่อน เราเป็นคนที่รักสัตว์ค่อนข้างมาก สุนัขแมวก็ช่วยเหลือตลอด มีเคสเมื่อตอนวันหยุดที่ผ่านมา เราหยุดงานวันพฤหัส ที่ 5 ธ.ค. จึงได้คิดว่าน่าจะเอาน้องหมาของเราเองไปทำหมัน ตัวนึงเพศผู้ อีกสองเพศเมียแม่กับลูก เพราะตัวผู้ก็มีที่ท่าว่าจะไปไข่เรี่ยราด เพิ่มจำนวนประชากรจรจัดอีก และน้องอีกสองตัวนั้นก็ฉีดยาคุมมาสักระยะหนึ่งแล้ว เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งอย่างยิ่ง ก็ได้หาข้อมูลว่าน่าจะเป็นที่ที่เราสามารถฝากเลี้ยงดูหลังจากทำหมันจนกระทั่งตัดไหม เพราะที่ที่น้องอยู่เป็นพื้นดิน อาจจะไม่สะอาด น้องอาจจะติดเชื้อได้ ตัดสินใจที่คลินิกหนึ่ง ในระยอง ซึ่งจริงๆ เรามีคลินิกประจำ แต่เค้าไม่รับฝากหลังทำหมัน เลยกลับไปที่คลินิกหนึ่งเป็นคลินิกใหญ่แห่งหนึ่งในระยอง ใกล้กับโรงหนังเก่า ที่นั่นรับฝากน้องหมาแมว เราเข้าไปคุยกับหมอ ถามราคารวมค่าฝากจนถึงตัดไหมตัวเมียตัวละสองพันห้าร้อยบาท ตัวผู้ตัวละสองพันบาท เราต่อรองราคาตัวเมียเพราะเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาคิดแค่สองพันสามร้อยบาท หมอเค้าบอกว่าเค้ามีค่าจ้างเด็กหลายคนทำความสะอาด ดูแลกรงหมา ราคาปกติตัวละสามพันแล้ว เราตัดสินใจพาเด็กๆ มาทันที เค้าต้องค้างคืนหนึ่งคืนและทำหมันในวันถัดไป ผ่านไปคืนแรก จนถึงทำหมันเรียบร้อยทั้งสามตัว เราโทรถามอาการเป็นระยะ หมอบอกปลอดภัยดี แต่น้องสามตัวกระโดด ปีนกรงเก่งมาก เราเลยกำชับว่าให้ปิดกรงให้ดีนะ เพราะเด็กๆ เค้าไม่เคยโดนขัง คอกที่ขังก็เป็นพื้นปูนซีเมนต์กว้างพอให้น้องแต่ละตัวอยู่อย่างไม่อึดอัด แต่ด้านบนมีกรงครอบบ้างไม่มีบ้าง
จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 9 ธ.ค. ทางหมอโทรมาอีกครั้งว่า มีตัวเมียตัวนึงกระโจนตกลงมาจากคอกกั้น หายใจเหนื่อยหอบ เราร้อนใจถามกลับไปว่า หมอดูรึยังว่ามีเลือดออกตรงไหนบ้าง เลือดตกในหรือปล่าว ช่วยตรวจดีๆ เลยนะ หมอบอกครับๆ จะดูแลให้ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ให้ยาอยู่ เราก็เบาใจ จนกระทั่งวันอังคารที่
10 ธ.ค. แฟนเราบอกว่าน่าจะไปรับกลับได้แล้ว จึงโทรไปอีกครั้ง หมอคนเดิมบอกว่าครับๆ มารับกลับพรุ่งนี้ได้
พุธที่ 11 ธ.ค.แฟนเราไปรับเด็กๆ กลับบ้าน แต่ตัวที่ตกลงมาจากกรงขอดูอาการอีกคืน แฟนรีบเอาสองตัวที่รับกลับได้กลับบ้าน แต่ก่อนกลับแฟนเดินเข้าไปคุยกะน้อง บอกเค้าว่ารอพรุ่งนี้นา เดี๋ยวมารับกลับบ้าน พักผ่อนให้ยาไปก่อนนา เค้าก็กระดิกหางรับ แต่ไม่ร่าเริงเลย แฟนเราถามหมออีกทีว่า เค้าเป็นยังไงบ้างกินอะไรได้มั้ย หมอบอก ไม่เป็นไรครับ ทานได้ แต่แฟนเห็นอาหารกระป๋องพร่องนิดเดียว เย็นวันนั้นหลังจากที่เรากลับมาจากทำงาน ตอนทุ่มครึ่งว่าจะเข้าไปดูน้องที่อยู่ที่คลินิก หมอโทรมาว่าน้องไปแล้ว เราก็ทำอะไรไม่ถูก ช็อก ได้แต่พูดว่าไปได้ยังไง ไหนหมอว่าไม่เป็นอะไรไง หมอบอกว่าปอดเค้าฉีก ไอแล้วเสมหะไปอุด ระบบหายใจเลยล้มเหลว เราถามไปคำนึงว่า หมอจะรับผิดชอบยังไง หมอบอกว่าหมอคงไม่ได้รับผิดชอบตรงนี้หรอกนะครับ ช็อกครอบที่สอง เราตัดสินใจไปที่คลินิกตอนนั้นเลย พอดีพ่อแฟนเราไปด้วย เค้าโมโหใหญ่เลย แต่ก็ยังพูดกับเจ้าของคลินิกว่าผมไว้ใจพวกคุณให้คุณดูแลหมาของผม ที่ผมรักมาก รักเหมือนลูก พวกคุณดูแลกันยังไง มีคนตั้งหลายคนดูแล แล้วผมจะทำไง ผมเลี้ยงดูมาปีนึงหมดไปกี่หมื่น ทำไมคุณสะเพร่ากันอย่างนี้ ทีนี้เจ้าของคลินิกเค้าเรียกตัวหมอมา หมอบอกว่าอ๋อ ตัวนี้เค้าเป็นโรคไต มาอยู่แล้ว ไม่แข็งแรง เอ้า เรานึกในใจ หมอห่าอะไรวะ หมาเรานี่แข็งแรงมากนะ สุภาพ ฉลาด ขี้อ้อน เป็นอะไรนิดหน่อยเราก็เอายาให้กินให้ทา สักพัก หมอบอก ไม่ใช่ๆ ผิดตัว อ้าว งง เจ้าของคลินิกถามว่า ทำไมไม่ปิดกรงล่ะ หมอบอกอ๋อ มันปีนเก่งทุกตัวเลยครับ อ่อ แต่กรูบอกตั้งแต่วันแรกๆ แล้วนิว่ากำชับเรื่องปิดกรงด้วยนะ ก็ตาหมอนี่มันบอกเองว่าถ้าตกลงไปกรงพิตบูลข้างๆ ไม่เหลือ อ้าว ตูก็ย้ำแล้วนาว่าให้ดูแลดีๆ ตอนนั้นเราพูดอะไรไม่ออก คิดอย่างเดียวว่าแม่เอาลูกมาตายแท้ๆ รู้สึกผิดกะเค้ามากเลย เจ้าของคลินิก เค้าก็ต่อว่าหมอนะ แล้วคืนเงินเรามาให้ แต่มันก็แลกไม่ได้กับชีวิต ที่น่ารักๆ ชีวิตนึง ไม่เคยแม้จะทำให้เราเสียใจ เค้าเป็นหมาเจียมเนื้อเจียมตัวมาก กินก็ให้ลูกกินก่อน เวลาเข้ามาหาเรา เค้าจะเข้ามาทีหลังเพื่อนแล้วนั่งอยู่กับเรานานสุด นั่งเงียบๆ ฟังเราคุย อย่างน่ารักอ่ะ เสียดายเค้ามากเลย
เราแค่อยากมาแชร์ว่าก่อนที่เราจะเอาเค้าไปทำหมัน เราต้องดูเรื่องสถานที่ความสะอาดและความปลอดภัยให้ดี ไม่งั้นต้องมานั่งเสียใจทีหลังและเหตุที่เกิดนี้บางครั้งเราอาจจะคาดไม่ถึง เพราะเราไว้ใจและวางใจคำว่าหมอมากไป เรามานั่งคิดอีกทีว่าทำไมนะทำไมเค้าถึงไม่ตรวจดูให้ละเอียด บอกอาการเราให้ชัดเจน เราอาจจะหาวิธีแก้ไขได้ดีกว่านี้แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว ขอให้ดวงวิญญาณของลูกไปสู่สุคตินะจ้ะ แม่จะหมั่นทำบุญไปให้หนูอยู่ในภพภูมิที่ดีขึ้นๆ นะ
ตอนนี้ยังเสียใจไม่หาย ต้องมาดูแลลูกเค้าที่ยังเหลืออีกตัว แต่เค้าโตแล้วล่ะ ไม่น่าห่วงมากเท่าไหร่ แรกๆ มีเข้ามาซบ มามองหน้าเรา ถามหาแม่ เดินหาแม่ หงอยๆ อยู่มากเลย แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว เราสัญญากับเค้าว่าไม่ต้องห่วงจะดูแลลูกเค้าให้ดีที่สุด แฟนเราเพิ่งมาบอกว่าคืนที่น้องหมาตายเค้าฝันว่าได้ยินเสียงร้องไห้เสียงดังมาก แฟนเค้าก็เดินหา ในฝันนะ เห็นน้องหมาเค้าไปนั่งข้างๆ ลูกเค้าแล้วบอกกับแฟนเราว่า ดูแลลูกให้ด้วยนะ แฟนเราเลยบอกว่าไม่ต้องห่วงๆ จะดูแลให้ อาจจะเป็นแค่ฝันนะ แต่มาคิดอีกทีแฟนเราคือคนที่เป็นคนสุดท้ายที่เจอเค้าที่คลินิก เค้า
เลยมาบอกกับแฟนเราป่าววะ ทีนี้ ก็เลยรู้สึกแย่ลงไปอีก เฮ้อ แต่เวลาผ่านไปๆ ก็พอช่วยได้บ้างนะ ---ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะจ้ะ
คลินิกรักษาสัตว์ ระยอง สุดชุ่ย ฝากน้องหมาทำหมัน ดูแลไม่ดีกระโจนจากกรงตกลงมาตาย
จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 9 ธ.ค. ทางหมอโทรมาอีกครั้งว่า มีตัวเมียตัวนึงกระโจนตกลงมาจากคอกกั้น หายใจเหนื่อยหอบ เราร้อนใจถามกลับไปว่า หมอดูรึยังว่ามีเลือดออกตรงไหนบ้าง เลือดตกในหรือปล่าว ช่วยตรวจดีๆ เลยนะ หมอบอกครับๆ จะดูแลให้ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้ให้ยาอยู่ เราก็เบาใจ จนกระทั่งวันอังคารที่
10 ธ.ค. แฟนเราบอกว่าน่าจะไปรับกลับได้แล้ว จึงโทรไปอีกครั้ง หมอคนเดิมบอกว่าครับๆ มารับกลับพรุ่งนี้ได้
พุธที่ 11 ธ.ค.แฟนเราไปรับเด็กๆ กลับบ้าน แต่ตัวที่ตกลงมาจากกรงขอดูอาการอีกคืน แฟนรีบเอาสองตัวที่รับกลับได้กลับบ้าน แต่ก่อนกลับแฟนเดินเข้าไปคุยกะน้อง บอกเค้าว่ารอพรุ่งนี้นา เดี๋ยวมารับกลับบ้าน พักผ่อนให้ยาไปก่อนนา เค้าก็กระดิกหางรับ แต่ไม่ร่าเริงเลย แฟนเราถามหมออีกทีว่า เค้าเป็นยังไงบ้างกินอะไรได้มั้ย หมอบอก ไม่เป็นไรครับ ทานได้ แต่แฟนเห็นอาหารกระป๋องพร่องนิดเดียว เย็นวันนั้นหลังจากที่เรากลับมาจากทำงาน ตอนทุ่มครึ่งว่าจะเข้าไปดูน้องที่อยู่ที่คลินิก หมอโทรมาว่าน้องไปแล้ว เราก็ทำอะไรไม่ถูก ช็อก ได้แต่พูดว่าไปได้ยังไง ไหนหมอว่าไม่เป็นอะไรไง หมอบอกว่าปอดเค้าฉีก ไอแล้วเสมหะไปอุด ระบบหายใจเลยล้มเหลว เราถามไปคำนึงว่า หมอจะรับผิดชอบยังไง หมอบอกว่าหมอคงไม่ได้รับผิดชอบตรงนี้หรอกนะครับ ช็อกครอบที่สอง เราตัดสินใจไปที่คลินิกตอนนั้นเลย พอดีพ่อแฟนเราไปด้วย เค้าโมโหใหญ่เลย แต่ก็ยังพูดกับเจ้าของคลินิกว่าผมไว้ใจพวกคุณให้คุณดูแลหมาของผม ที่ผมรักมาก รักเหมือนลูก พวกคุณดูแลกันยังไง มีคนตั้งหลายคนดูแล แล้วผมจะทำไง ผมเลี้ยงดูมาปีนึงหมดไปกี่หมื่น ทำไมคุณสะเพร่ากันอย่างนี้ ทีนี้เจ้าของคลินิกเค้าเรียกตัวหมอมา หมอบอกว่าอ๋อ ตัวนี้เค้าเป็นโรคไต มาอยู่แล้ว ไม่แข็งแรง เอ้า เรานึกในใจ หมอห่าอะไรวะ หมาเรานี่แข็งแรงมากนะ สุภาพ ฉลาด ขี้อ้อน เป็นอะไรนิดหน่อยเราก็เอายาให้กินให้ทา สักพัก หมอบอก ไม่ใช่ๆ ผิดตัว อ้าว งง เจ้าของคลินิกถามว่า ทำไมไม่ปิดกรงล่ะ หมอบอกอ๋อ มันปีนเก่งทุกตัวเลยครับ อ่อ แต่กรูบอกตั้งแต่วันแรกๆ แล้วนิว่ากำชับเรื่องปิดกรงด้วยนะ ก็ตาหมอนี่มันบอกเองว่าถ้าตกลงไปกรงพิตบูลข้างๆ ไม่เหลือ อ้าว ตูก็ย้ำแล้วนาว่าให้ดูแลดีๆ ตอนนั้นเราพูดอะไรไม่ออก คิดอย่างเดียวว่าแม่เอาลูกมาตายแท้ๆ รู้สึกผิดกะเค้ามากเลย เจ้าของคลินิก เค้าก็ต่อว่าหมอนะ แล้วคืนเงินเรามาให้ แต่มันก็แลกไม่ได้กับชีวิต ที่น่ารักๆ ชีวิตนึง ไม่เคยแม้จะทำให้เราเสียใจ เค้าเป็นหมาเจียมเนื้อเจียมตัวมาก กินก็ให้ลูกกินก่อน เวลาเข้ามาหาเรา เค้าจะเข้ามาทีหลังเพื่อนแล้วนั่งอยู่กับเรานานสุด นั่งเงียบๆ ฟังเราคุย อย่างน่ารักอ่ะ เสียดายเค้ามากเลย
เราแค่อยากมาแชร์ว่าก่อนที่เราจะเอาเค้าไปทำหมัน เราต้องดูเรื่องสถานที่ความสะอาดและความปลอดภัยให้ดี ไม่งั้นต้องมานั่งเสียใจทีหลังและเหตุที่เกิดนี้บางครั้งเราอาจจะคาดไม่ถึง เพราะเราไว้ใจและวางใจคำว่าหมอมากไป เรามานั่งคิดอีกทีว่าทำไมนะทำไมเค้าถึงไม่ตรวจดูให้ละเอียด บอกอาการเราให้ชัดเจน เราอาจจะหาวิธีแก้ไขได้ดีกว่านี้แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว ขอให้ดวงวิญญาณของลูกไปสู่สุคตินะจ้ะ แม่จะหมั่นทำบุญไปให้หนูอยู่ในภพภูมิที่ดีขึ้นๆ นะ
ตอนนี้ยังเสียใจไม่หาย ต้องมาดูแลลูกเค้าที่ยังเหลืออีกตัว แต่เค้าโตแล้วล่ะ ไม่น่าห่วงมากเท่าไหร่ แรกๆ มีเข้ามาซบ มามองหน้าเรา ถามหาแม่ เดินหาแม่ หงอยๆ อยู่มากเลย แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว เราสัญญากับเค้าว่าไม่ต้องห่วงจะดูแลลูกเค้าให้ดีที่สุด แฟนเราเพิ่งมาบอกว่าคืนที่น้องหมาตายเค้าฝันว่าได้ยินเสียงร้องไห้เสียงดังมาก แฟนเค้าก็เดินหา ในฝันนะ เห็นน้องหมาเค้าไปนั่งข้างๆ ลูกเค้าแล้วบอกกับแฟนเราว่า ดูแลลูกให้ด้วยนะ แฟนเราเลยบอกว่าไม่ต้องห่วงๆ จะดูแลให้ อาจจะเป็นแค่ฝันนะ แต่มาคิดอีกทีแฟนเราคือคนที่เป็นคนสุดท้ายที่เจอเค้าที่คลินิก เค้า
เลยมาบอกกับแฟนเราป่าววะ ทีนี้ ก็เลยรู้สึกแย่ลงไปอีก เฮ้อ แต่เวลาผ่านไปๆ ก็พอช่วยได้บ้างนะ ---ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะจ้ะ