จากหนุ่ย ติงต่าง สู่ มิยาซากิ ทสึโตมุ ฆาตกรรมต่อเนื่องที่ฆาตกรรมเด็กหญิงที่โด่งดังในญี่ปุ่น

นายหนุ่ยฆาตกรที่ฆาตกรรมน้องการ์ตูน น้องหญิง แต่อาจจะมีเหยื่อที่มากกว่านั้น ทำให้เราสนใจเรื่องของนายมิยาซากิ ทสึโตมุ  ฆาตกรต่อเนื่องที่ฆาตกรรมเด็กหญิงเช่นเดียวกัน  กระทู้นี้อาจจะยาวมากสักหน่อย แต่เราว่าน่าสนใจ และอาจจะทำให้เรารู้ว่าเหตุใดฆาตกรจึงมุ่งทำร้ายเด็ก....





มิยาซากิ ทสึโตมุ (1962-2008) The Otaku Murderer, The Little Girl Murderer, Dracula
(คดีฆาตกรรมเด็กหญิงต่อเนื่องที่โตเกียวกับไซตามะ หรือบ้างก็เรียกคดีมิยาซากิ, คดีมิยาซากิ ทสึโตมุ, คดี M คุง, คดี M)





มิยาซากิ ทสึโตมุ ในวัยเด็ก



มิยาซากิ ทสึโตมุ เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 1962 ในครอบครัวผู้มีฐานะปานกลางที่เมืองนิชิทามะ จังหวัดโตเกียว บิดาและมารดาทำงานกันทั้งคู่ ทสึโตมุในวัยเด็กจึงโตมากับปู่ซึ่งเป็นผู้อาวุโสที่คนในเมืองนับถือกับพี่ เลี้ยงซึ่งเป็นชายวัยกลางคนผู้มีความบกพร่องทางสติปัญญา ปู่เอ็นดูทสึโตมุเป็นอย่างมาก และตัวเขาเองซึ่งเป็นเด็กเก็บตัวก็เคารพเชื่อฟังปู่มากเช่นกัน

ทสึโตมุ เป็นโรคข้อเชื่อมกระดูกบกพร่องโดยกำเนิดซึ่งทำให้เขาไม่สามารถหงาย ฝ่ามือขึ้นด้านบนได้ และนี่เองที่กลายมาเป็นปมด้อยของเขาตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากเขาเป็นเด็กคนเดียวในชั้นอนุบาลที่ไม่สามารถทำท่า"ขอ"หรือเล่นเกม ได้เหมือนเด็กคนอื่นๆ สมัยประถม ทสึโตมุเป็นเด็กเรียนเก่งแต่ไม่ถนัดวิชาภาษาญี่ปุ่นกับวิชาสังคม เมื่อขึ้นชั้นมัธยมปลายก็ไปเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายเมย์ไดนากาโนะซึ่ง ต้องเดินทางจากบ้านด้วยรถไฟไปถึงสองชั่วโมง และเหตุผลก็มาจากปมด้อยเรื่องมือนั่นเอง

(หากพ่อแม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเจ้าตัวอยากจะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในอนาคต) แต่หลังจากที่เข้าเรียนในชั้นมัธยมปลาย ผลการเรียนของทสึโตมุก็แย่ลงเรื่อยๆ เพื่อนร่วมชั้นให้การในภายหลังว่าเขาเป็นคนเก็๋บตัวและไม่เด่นสะดุดตา ทสึโตมุตั้งความหวังว่าจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเมย์ได หากสุดท้ายความหวังของเขาก็ไม่เป็นจริงเพราะคะแนนไม่ถึง หลังจากสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมในปี 1981 เขาจึงเข้าเรียนในคณะอนุปริญญาเทคนิคการวาดภาพของมหาวิทยาลัยช่างศิลป์โตเกียวแทน แต่กระทั่งหลังจากเข้าเรียนที่นี่แล้ว ทสึโตมุก็ยังคงเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัวจนแทบไม่มีใครในชั้นเรียนที่จดจำเขาได้



มิยาซากิ ทสึโตมุ ในวัยเด็ก




ปี 1983 หลังจากที่จบอนุปริญญามาแล้ว ทสึโตมุได้รับการแนะนำจากปู่ให้เข้าทำงานในโรงพิมพ์ที่เมืองโคไดระโดยรับ หน้าที่เป็นผู้คุมเครื่องจักร เพื่อนร่วมงานให้การในภายหลังว่าเขาไม่ตั้งใจทำงานและเข้ากับคนรอบข้างไม่ ได้ จนเดือนมีนาคมปี 1986 ก็ออกจากงานที่โรงพิมพ์ไป ทสึโตมุเก็บตัวอยู่ในห้องเป็นเวลาหลายเดือน (อย่างที่เรียกกันว่าฮิกิโคโมริ) และในเดือนกันยายนปีเดียวกันก็ยอมออกมาช่วยงานเล็กๆน้อยๆของกิจการในครอบ ครัวเช่นการออกไปรับต้นฉบับใบปลิว ในช่วงนี้เองที่เขาหันมาออกโดจินชิของอนิเมชั่น หากก็ถูกพรรคพวกเกลียดจนออกหนังสือได้เพียงเล่มเดียว หลังจากนั้น เขาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของเซอร์เคิ่ลวีดีโอหลายกลุ่ม (หมายถึงกลุ่มแลกเปลี่ยนวีดีโอที่อัดมจากรายการต่างๆในทีวี) แต่ทสึโตมุชอบจู้จี้กับสมาชิกคนอื่นเรื่องวิธีการอัดวีดีโอ รวมทั้งไม่ยอมส่งวีดีโอที่ตัวเองต้องก็อปปี้มาแลกให้กับอีกฝ่าย เขาจึงเป็นที่เหม็นขี้หน้าในที่นี้เช่นกัน

ทสึโตมุ ไม่มีประสบการณ์ในการคบกับผู้หญิง ซึ่งสาเหตุสำคัญนั้นมาจากปมด้อยเรื่องมือที่ทำให้เขาไม่กล้าเข้าใกล้ผู้หญิง ที่เป็นผู้ใหญ่ เขาเคยถูกมารดาคะยั้นคะยอให้ไปดูตัวถึงสี่ครั้ง แต่หลังการดูตัวก็ถูกปฏิเสธโดยฝ่ายหญิงหมดทุกครั้ง (ภาพที่ใช้ในการดูตัวก็คือภาพข้างบนนี่เอง)

ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอะไรเป็นชนวนทำให้ทสึโตมุเริ่มก่อคดี แต่คดีแรกของเขานั้นเริ่มขึ้นสามเดือนหลังจากที่ผู้เป็นปู่เสียชีวิตไปใน เดือนพฤษภาคมปี 1988 นี่เอง (มีคำให้การว่าทสึโตมุกินเถ้ากระดูกของปู่ลงไปเพื่อแสดงถึงความเคารพอีกด้วย)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่