จากกรณีเฉาก๊วยที่จขกท. มีการสั่งซื้อที่ราคา 7 บาท แต่มาส่งเก็บตังค์ 8 บาท รวมเป็นจำนวน 120 บาทที่เกินมา
จขกท. มาโพสท์ถามหาเจ้าของเพื่อร้องเรียน
ในมุมมองของเรา เรารู้สึกว่าจขกท.อยากร้องเรียน เพราะรู้สึกว่าไม่ชอบใจที่มีการขึ้นราคาโดยไม่บอก
พอทักท้วงก็ได้แต่พูดว่าขอโทษเข้าใจผิด
คือตามความคิดเรา ถ้าเข้าใจผิดสื่อสารผิด พอรู้แล้วเซลล์ก็ควรโทรเจรจากับคนสั่งซื้อก่อนไม๊ ก่อนเก็บตังค์ลงของ ไม่ใช่รีบเก็บตังค์แล้วชิ่ง
กลับ อีกอย่างทางเซลล์ก็ยอมรับว่าเข้าใจจำนวนผิด ก็น่าจะควักเนื้อไปเองสิ จะได้จำไว้เป็นบทเรียน
แต่กลับโดนคนส่วนใหญ่บอกว่า
- เรื่องเยอะ จะอะไรกันนักกันหนา
- ทำไมไม่หยวนๆไป เงินแค่ 120 บาท แสดงว่ามันอยู่ที่จำนวนเงินเหรอ ถ้าต่างกัน 12 บาท เมิงจะบ้าเหรอมาร้องเรียน ถ้ากลายเป็นต่างกัน 1200 บาทล่ะ 12000 บาทล่ะ คดีจะพลิกไม๊ คนโดนด่าจะเป็นจขกท. หรือโรงงาน
- โอ๊ย ซื้อของไปทำบุญ มาโวยวายแบบนี้ก็ได้บาปล่ะ และอีกมากมาย
- แหม..สั่งของเค้าสั่งกันเป็นโหลๆ ใครเค้าสั่งกันเป็นถ้วย คือในเว็บไซต์หรือนามบัตรมันบอกไม๊ว่าสั่งของหน่วยเป็นโหลเท่านั้นรึเปล่า ไม่งั้นใครจะรู้
- โอ๊ย ซื้อของแค่ เก้าร้อยกว่าบาท เค้าไปส่งตจว.เค้าก็ขาดทุนจะแย่แล้ว เห็นใจเจ้าของกิจการ เค้าไม่คิดค่าส่งก็บุญแล้ว
คือจขกท.เค้าก็ไม่ได้บังคับให้มาส่ง แต่โรงงานส่งฟรีเพราะเข้าใจจำนวนผิดนิ จขกท.ผิดตรงไหน
เราว่าคนส่วนใหญ่คิดแบบนี้เพราะว่า คนไทยชอบมีนิสัย ช่างมันรึเปล่า หรือหยวนๆไปเหอะรึเปล่า หรือเพราะเคยชินที่โดนเอาเปรียบ เช่น ไปห้างยอดที่เราต้องจ่าย 1,979.75 บาท แล้วไม่ได้ทอนมา 25 สตางค์ก็เฉยๆ เพราะว่าชินไง ช่างมันแค่ยี่สิบห้าสตางค์เอง
หรือของติดป้ายว่าเซลล์ พอถึงเวลา ไม่เซลล์อ้างว่า เซลล์ 10 ชิ้นต่อวัน หมดแล้วค่ะ เราก็ต้องจ่ายราคาเต็มไปแบบงง ๆ อะไรประมาณนี้
เราลองมานึกว่า นี่คนส่วนใหญ่เค้าต้องช่างมันหรือนี่ เอ๊ะ! นี่เรามันพวกชนกลุ่มน้อย
หรือนี่คือ การบริการ การทำธุรกิจที่ถูกต้องแล้วใช่ไม๊ ทำไมเรารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง แสดงว่าเราเยอะ?
เราเริ่มกังวัลนิดหน่อย ถ้าเราต้องกลับไปอยู่เมืองไทยเราจะปรับตัวได้ไม๊ หรือเราจะเป็นพวกแกะดำ พวกน่ารำคาญป่าวเนี่ย
เราชอบรักษาสิทธิ์ตัวเอง แต่เราก็ไม่ชอบเอาเปรียบคนอื่น เช่นถ้าร้านทอนตังค์เกิน เราก็บอก แต่ถ้าทอนขาดเราก็ทวง
ยกตัวอย่าง เราเคยซื้อของในซุปเปอร์ ติดป้ายลดราคา ของหลายสิ่งหลายอย่างเต็มไปหมด หยิบชิ้นนึงแล้วถามพนักงานตรงนั้นว่าไอ้นี้ลดใช่ไม๊ พนักงานบอกลดค่ะ เราก็ไปจ่ายตังค์ กลับบ้านมาดูของ อ้าวโดนคิดราคาเต็ม เราก็กลับไปถามแคชเชียร์ว่าคิดตังค์ผิดอะเธอ
แคชเชียร์ดูแล้วบอกว่า ไม่ผิดนะ ที่ลดเป็นสีน้ำเงินเท่านั้น เราก็ว่าแต่พนักงานบอกชั้นว่าลดนิ แคชเชียร์ถามพนักงานว่าบอกจริงไหม๊
พนักงานบอกขอโทษทีเข้าใจผิด นึกว่าเธอหยิบสีน้ำเงินมาถาม เราก็หวังในใจว่าจะได้เงินคืน สองบาท(ดอลล์)
สุดท้าย เราได้เงินคืนเต็มจำนวน ของก็ให้มาด้วย พนักงานบอกว่าขอโทษนะที่เข้าใจผิด ทำให้เสียเวลา
ดูสิ!!! เหตุการณ์คล้ายกัน ทำไมผลลัพธ์มันต่างกันแบบนี้ล่ะ เพื่อนๆคิดเห็นว่ายังไงกันบ้าง
ปล. ขอแท็กก้นครัวเพราะเข้าทุกวันค่ะ อยากทราบความเห็นเพื่อนๆ
ขอแท็กไกลบ้าน เพราะจขกท.เองอยู่ตปท อยากรู้ว่าเพื่อนๆที่อยู่ตปท.คิดเห็นแตกต่างกันอย่างไร
ปล2. ไม่ได้เข้าข้างใครเคยหรือเคยรู้จักพูดคุยนะคะ เดี๋ยวหาว่าไม่เป็นกลาง งดมาม่า ทานข้าวเที่ยงแล้วจ๊ะ
จากกระทู้แนะนำ เฉาก๊วย ทำให้แปลกใจของความคิดเห็นคนส่วนใหญ่
จขกท. มาโพสท์ถามหาเจ้าของเพื่อร้องเรียน
ในมุมมองของเรา เรารู้สึกว่าจขกท.อยากร้องเรียน เพราะรู้สึกว่าไม่ชอบใจที่มีการขึ้นราคาโดยไม่บอก
พอทักท้วงก็ได้แต่พูดว่าขอโทษเข้าใจผิด
คือตามความคิดเรา ถ้าเข้าใจผิดสื่อสารผิด พอรู้แล้วเซลล์ก็ควรโทรเจรจากับคนสั่งซื้อก่อนไม๊ ก่อนเก็บตังค์ลงของ ไม่ใช่รีบเก็บตังค์แล้วชิ่ง
กลับ อีกอย่างทางเซลล์ก็ยอมรับว่าเข้าใจจำนวนผิด ก็น่าจะควักเนื้อไปเองสิ จะได้จำไว้เป็นบทเรียน
แต่กลับโดนคนส่วนใหญ่บอกว่า
- เรื่องเยอะ จะอะไรกันนักกันหนา
- ทำไมไม่หยวนๆไป เงินแค่ 120 บาท แสดงว่ามันอยู่ที่จำนวนเงินเหรอ ถ้าต่างกัน 12 บาท เมิงจะบ้าเหรอมาร้องเรียน ถ้ากลายเป็นต่างกัน 1200 บาทล่ะ 12000 บาทล่ะ คดีจะพลิกไม๊ คนโดนด่าจะเป็นจขกท. หรือโรงงาน
- โอ๊ย ซื้อของไปทำบุญ มาโวยวายแบบนี้ก็ได้บาปล่ะ และอีกมากมาย
- แหม..สั่งของเค้าสั่งกันเป็นโหลๆ ใครเค้าสั่งกันเป็นถ้วย คือในเว็บไซต์หรือนามบัตรมันบอกไม๊ว่าสั่งของหน่วยเป็นโหลเท่านั้นรึเปล่า ไม่งั้นใครจะรู้
- โอ๊ย ซื้อของแค่ เก้าร้อยกว่าบาท เค้าไปส่งตจว.เค้าก็ขาดทุนจะแย่แล้ว เห็นใจเจ้าของกิจการ เค้าไม่คิดค่าส่งก็บุญแล้ว
คือจขกท.เค้าก็ไม่ได้บังคับให้มาส่ง แต่โรงงานส่งฟรีเพราะเข้าใจจำนวนผิดนิ จขกท.ผิดตรงไหน
เราว่าคนส่วนใหญ่คิดแบบนี้เพราะว่า คนไทยชอบมีนิสัย ช่างมันรึเปล่า หรือหยวนๆไปเหอะรึเปล่า หรือเพราะเคยชินที่โดนเอาเปรียบ เช่น ไปห้างยอดที่เราต้องจ่าย 1,979.75 บาท แล้วไม่ได้ทอนมา 25 สตางค์ก็เฉยๆ เพราะว่าชินไง ช่างมันแค่ยี่สิบห้าสตางค์เอง
หรือของติดป้ายว่าเซลล์ พอถึงเวลา ไม่เซลล์อ้างว่า เซลล์ 10 ชิ้นต่อวัน หมดแล้วค่ะ เราก็ต้องจ่ายราคาเต็มไปแบบงง ๆ อะไรประมาณนี้
เราลองมานึกว่า นี่คนส่วนใหญ่เค้าต้องช่างมันหรือนี่ เอ๊ะ! นี่เรามันพวกชนกลุ่มน้อย
หรือนี่คือ การบริการ การทำธุรกิจที่ถูกต้องแล้วใช่ไม๊ ทำไมเรารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง แสดงว่าเราเยอะ?
เราเริ่มกังวัลนิดหน่อย ถ้าเราต้องกลับไปอยู่เมืองไทยเราจะปรับตัวได้ไม๊ หรือเราจะเป็นพวกแกะดำ พวกน่ารำคาญป่าวเนี่ย
เราชอบรักษาสิทธิ์ตัวเอง แต่เราก็ไม่ชอบเอาเปรียบคนอื่น เช่นถ้าร้านทอนตังค์เกิน เราก็บอก แต่ถ้าทอนขาดเราก็ทวง
ยกตัวอย่าง เราเคยซื้อของในซุปเปอร์ ติดป้ายลดราคา ของหลายสิ่งหลายอย่างเต็มไปหมด หยิบชิ้นนึงแล้วถามพนักงานตรงนั้นว่าไอ้นี้ลดใช่ไม๊ พนักงานบอกลดค่ะ เราก็ไปจ่ายตังค์ กลับบ้านมาดูของ อ้าวโดนคิดราคาเต็ม เราก็กลับไปถามแคชเชียร์ว่าคิดตังค์ผิดอะเธอ
แคชเชียร์ดูแล้วบอกว่า ไม่ผิดนะ ที่ลดเป็นสีน้ำเงินเท่านั้น เราก็ว่าแต่พนักงานบอกชั้นว่าลดนิ แคชเชียร์ถามพนักงานว่าบอกจริงไหม๊
พนักงานบอกขอโทษทีเข้าใจผิด นึกว่าเธอหยิบสีน้ำเงินมาถาม เราก็หวังในใจว่าจะได้เงินคืน สองบาท(ดอลล์)
สุดท้าย เราได้เงินคืนเต็มจำนวน ของก็ให้มาด้วย พนักงานบอกว่าขอโทษนะที่เข้าใจผิด ทำให้เสียเวลา
ดูสิ!!! เหตุการณ์คล้ายกัน ทำไมผลลัพธ์มันต่างกันแบบนี้ล่ะ เพื่อนๆคิดเห็นว่ายังไงกันบ้าง
ปล. ขอแท็กก้นครัวเพราะเข้าทุกวันค่ะ อยากทราบความเห็นเพื่อนๆ
ขอแท็กไกลบ้าน เพราะจขกท.เองอยู่ตปท อยากรู้ว่าเพื่อนๆที่อยู่ตปท.คิดเห็นแตกต่างกันอย่างไร
ปล2. ไม่ได้เข้าข้างใครเคยหรือเคยรู้จักพูดคุยนะคะ เดี๋ยวหาว่าไม่เป็นกลาง งดมาม่า ทานข้าวเที่ยงแล้วจ๊ะ