สวัสดีครับ วันนี้จะพาไปชิมอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอกินาวากันครับ ชื่อร้าน Okinawa Kinjo เป็นร้านเล็ก ๆ บรรยากาศน่ารักเป็นกันเอง อาหารอร่อย ราคาไม่แรงครับ

ร้านนี้จะอยู่ในซอยสุขุมวิท 69 ซอยนี้จะอยู่ตรงไฟแดงแยกพระโขนงพอดีครับ อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนพระราม 4 ปากซอยจะมีที่ทำการไปรษณีย์เป็นจุดสังเกตครับ เข้าซอยมาประมาณ 100 เมตรก็จะเจอร้านอยู่ทางขวามือครับ การเดินทางไม่แนะนำให้ขับรถมาครับ เพราะหาที่จอดรถยาก ต้องหาที่จอดริมถนนในซอยเอาเอง ซึ่งก็จอดได้ไม่กี่คัน และซอยก็แคบครับ หวาดเสียวต่อการถูกเฉี่ยวชน แนะนำให้มาโดย BTS จะสะดวกสุดครับ ลงที่สถานีพระโขนง ออกมาทางฝั่งรถวิ่งไปบางนา แล้วเดินไปหาไฟแดงแยกพระโขนงก็จะเจอซอยนี้ครับ


ร้านนี้เปิดทุกวันครับ เปิดสองช่วง 11.30-14.30 แล้วก็เปิดอีกที 17.00-23.00 ตามรายละเอียดในบัตรสมาชิกครับ (ได้มาตอนร้านเปิดใหม่ ๆ) ร้านนี้โต๊ะไม่เยอะครับ ดังนั้นถ้ามาช่วงเย็น ๆ หรือค่ำ ๆ อาจจะต้องรอคิวนิดนึง ยังไงก่อนไปก็โทรสอบถามทางร้านอีกทีตามเบอร์ในรูปเลยครับ


มาดูเมนูกันครับ นี่ปกเมนูครับ ส่งเบียร์มายั่วก่อนเลย แต่วันนี้ไม่ได้สั่งครับ มากับแม่เลยขอเป็นเด็กดีนิดนึง (ยังเด็กอยู่นะเออ)


วิสกี้ก็มีครับ เป็น Suntory Whiskey มีประวัติให้อ่านเพลิน ๆ ชวนให้เผลอสั่งมาลองจริง ๆ ครับ นอกจากเบียร์กับวิสกี้แล้ว ร้านนี้ยังมีเครื่องดื่มอย่างอื่นอีกเยอะเลยครับ เช่น เหล้าอาวาโมริซึ่งน่าจะเป็นเหล้าท้องถิ่นของโอกินาวา ค็อกเทลที่ทำจากเหล้าอาวาโมริ สาเกหลากหลายยี่ห้อ เหล้าบ๊วย แล้วก็อะไรอีกไม่รู้เต็มไปหมดเลยครับ ซึ่งจะอยู่ในเมนูเครื่องดื่มต่างหาก แต่ผมไม่ได้ถ่ายมาน่ะครับ ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างนี่ต้องรบกวนไปพิสูจน์กันเองครับ อิอิ


เมนูหน้าถัดมาก็จะเป็นอาหารชุดครับ


อันนี้เป็นชุดชาบูหมูคุโรบูตะครับ ชุดนี้กินสองคนกำลังอิ่มครับ หมูให้มาจานใหญ่ทีเดียว


อันนี้เสต็กเนื้อครับ เป็นเมนูประจำต้องสั่งทุกครั้ง (ยกเว้นไปกับแฟน เพราะแฟนไม่กินเนื้อ) เมื่อก่อนผมจะชอบไปเย็นวันอังคารหลังเลิกงาน เพราะมีโปรเบียร์ลดราคา สั่งเบียร์เหยือกนึง เสต็กเนื้อจานนึงกินกับข้าวสวยร้อน ๆ กลับบ้านหลับฝันดีแล้วครับ


อันนี้เป็นพวกเมนูโซบะครับ






เมนูอื่น ๆ ครับ


































ปกติเวลามาร้านนี้ผมจะมีสูตรการสั่งอยู่ครับ คือ ถ้ามากับแม่ ผมจะสั่งแบบเซ็ตมาเซ็ตนึงกับเสต็กเนื้อจานนึง ถ้ามากับแฟน ผมจะสั่งแบบเซ็ตมาเซ็ตนึงกับชาบูคุโรบูตะชุดนึง สองคนอิ่มกำลังดีครับ

เนื่องจากวันนี้มากับแม่ ก็เลยสั่งเสต็กเนื้อหนึ่งจาน กับเซ็ตเบอร์ 4 ซึ่งมีโอกินาวาโซบะชามเล็ก 1 ชาม หมูทงคัตสึ 1 จาน ข้าวสวย 1 ถ้วย และก็เครื่องเคียงเป็นจิมามิโทฟุ 1 ชิ้น กับสลัดมักกะโรนีถ้วยเล็ก ๆ 1 ถ้วยครับ

เครื่องเคียงมาก่อนเลยครับ จิมามิโทฟุกับสลัดมักกะโรนี กินเล่นเรียกน้ำย่อยครับ เออ ที่นี่น้ำชาฟรีนะครับ


นี่ครับจิมามิโทฟุ เสิร์ฟเย็น ๆ ตัวเต้าหู้เด้ง ๆ เนื้อเนียน ๆ เหมือนกินโมจิเลยแฮะ แช่มาในซีอิ๊วรสชาติออกหวาน โปะวาซาบิมาหนึ่งจึ๋ง อร่อยดีครับ


สลัดมักกะโรนี เสิร์ฟเย็น ๆ เหมือนกัน รสมัน ๆ ผสมกับแตงกวากรอบ ๆ เย็น ๆ กินเพลิน ๆ ครับ


รอไม่นาน โอกินาวาโซบะในเซ็ตก็มาเสิร์ฟครับ โซบะที่นี่เส้นจะคล้าย ๆ อุด้ง แต่จะเหนียวหนึบกว่าอุด้ง กินอร่อยกว่าอุด้งครับ น้ำซุปดูใส ๆ แต่รสชาติเข้มข้น และก็หอมอร่อยทีเดียวครับ โปะมาด้วยหมูสามชั้นและก็ลูกชิ้นปลา และก็โรยด้วยขิงดองครับ


นี่ครับเส้นโซบะ เหนียวนุ่มอร่อยเหาะจริง ๆ ครับ แต่ต้องรีบกินหน่อย ถ้าทิ้งไว้นานแล้วเส้นจะอืด กินไม่อร่อยเหมือนตอนใหม่ ๆ ครับ รู้สึกเค้าจะมีเขียนวิธีกินโซบะในเมนูด้วยนะครับ ก็เป็นวิธีกินตามธรรมเนียมคนญี่ปุ่นแหละครับ ประมาณว่าต้องรีบกินก่อนที่เส้นจะอืด แล้วก็ต้องสูดเส้นแรง ๆ จะได้ได้กลิ่นหอมของน้ำซุป แล้วก็ต้องสูดเส้นให้เสียงดัง ๆ แล้วก็กินแบบออกแนวมูมมามนิดนึง เพื่อเป็นการแสดงให้พ่อครัวรู้ว่า โอ้โซบะนี่มันช่างอร่อยยิ่งนัก แทบจะหยุดไม่อยู่อยากจะกลืนกินเข้าไปทั้งชามเลย ถ้ากินแบบเงียบ ๆ ค่อย ๆ เรียงเส้นลงบนช้อน บรรจงส่งเส้นในช้อนเข้าปากแบบเงียบ ๆ พับเพียบเรียบร้อย เวลาเคี้ยวก็ต้องจีบปากนิดนึงกันดอกพิกุลร่วง พ่อครัวเค้าจะรู้สึกเสียเซลฟ์ ประมาณว่า เอ โซบะของฉันมันไม่อร่อยเหรอ ดูไม่มีพลังในการกินเอาซะเลย ผมเคยครั้งนึงมาคนเดียวที่ร้านนี้แหละ นั่งตรงเคาท์เตอร์ ข้าง ๆ เป็นคนญี่ปุ่น พอโซบะมาเสิร์ฟปุ๊บ เค้าก็คีบเส้นคำเบ้อเร่อเลยครับ แล้วก็โซ้ยพรวด ๆ สูดเส้นดังซู๊ดซ๊าด ๆ เข้าปากไปเคี้ยวรึเปล่าก็ไม่รู้ เห็นขยับปากเคี้ยวตุ้ยอยู่สองสามทีก็กลืนแล้ว (จ้องเค้าขนาดนั้น) เผลอแป๊บเดียวก็หมดชาม ดูเค้ากินแล้วมันก็ดูน่าอร่อยดีหรอกครับแต่ไม่กล้าทำตามจริง ๆ กลัวเส้นมันไม่ย่อยมากกว่าเส้นอืดน่ะครับ


นี่ครับหมูสามชั้นในโซบะ ถือว่าเป็นไฮไลท์ของร้านนี้เลยครับ โดยเฉพาะตรงมัน เข้าปากไปนี่ละลายกลิ่นหอมฟุ้งทั่วปากเลยครับ อร่อยมาก ๆ




ขวดนี้ถ้าจำไม่ผิดมันคือเหล้าอาวาโมริหมักกับพริกครับ ไว้เหยาะใส่น้ำซุปโซบะครับ จะได้กลิ่นหอมไปอีกแบบ แต่อย่าใส่เยอะนะครับ เพราะว่าค่อนข้างฉุนและเผ็ดทีเดียว ตอนไปกินครั้งแรกลองเหยาะใส่ช้อนชิมเปล่า ๆ ดู สำลักไม่ทันเลยล่ะครับ 555


นี่ครับจานโปรดของผม เสต็กเนื้อครับ มาในกระทะร้อน เสียงยังซู่ซ่า ๆ อยู่เลยครับ


ทำมาสุกกำลังดีเลยครับ เนื้อนุ่มไม่เหนียว ติดมันมาหน่อย หอมเนื้อมากครับ เกรวี่ที่ราดมาก็รสจัดดี กินกับเนื้อแล้วเข้ากันพอดีครับ


ซัดกับข้าวที่มากับเซ็ตครับ ข้าวร้อน ๆ เนื้อหอม ๆ เกรวี่รสจัด ๆ ถ้าเป็นในการ์ตูนนี่พอเข้าปากปุ๊บก็เหาะได้เลยครับ ข้าวนี่ไม่แน่ใจว่าเป็นข้าวญี่ปุ่นรึเปล่า แต่ข้าวก็นุ่มเหนียวดีครับ


อันนี้หมูทงคัตสึครับ มากับในเซ็ต


อันนี้ทั่วไปครับ ไม่ได้ถึงกับยอดเยี่ยมแต่ก็โอเคครับ ติดว่าหมูชิ้นบางไปหน่อย คงเป็นเพราะว่ามากับเซ็ตมั้งครับ


จัดการของคาวเรียบร้อยแล้ว ทางร้านก็มีขนมให้ครับ เป็นคล้าย ๆ แป้งเค้กเนื้อแน่น ๆ เอาไปทอด แล้วผิวข้างนอกมันจะกรอบ ๆ กินร้อน ๆ อร่อยแม่เจ้าครับ อันนี้เค้าให้ฟรีเลยคนละ 1 ก้อน แต่ถ้าติดใจอยากเบิ้ลหรือแฮททริค ตอนนี้น่าจะสั่งเพิ่มได้นะครับเพราะเห็นว่ามีในเมนูแล้ว ลูกละ 10 บาท เมื่อก่อนนี่ถึงอยากจะเบิ้ลใจจะขาดแค่ไหนก็สั่งเพิ่มไม่ได้นะครับ คิดว่าทางร้านคงเก็บไว้ให้พอแจกลูกค้าทุกคน เลยเป็นแรงกระตุ้นให้ต้องมากินบ่อย ๆ 555


นี่ครับเนื้อข้างใน อร่อยจริง ๆ นะเอ้อ


ค่าเสียหายครับ ได้อานิสงส์บัตรสมาชิกลดไป 10% เออ ร้านนี้รับบัตรเครดิตที่ 500 บาทขึ้นไปนะครับ (เหมือนคำนวณไว้แล้ว 555)
ปล.ขึ้เกียจเบลอเลขบัตรน่ะครับ ก็เลยพับเอาซะเลย


สรุปนะครับ ร้านนี้ก็เป็นอีกร้านนึงที่อาหารอร่อย ราคาไม่แรง กินได้สบายใจ บรรยากาศร้านก็อบอุ่นเป็นกันเองครับ ร้านเล็ก ๆ น่ารัก เหมาะทั้งสำหรับมาทานอาหารเฉย ๆ หรือจะมากินดื่มสังสรรค์ก็ได้เช่นกัน

ขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับ สวัสดีครับ