เรียนที่สิงคโปร์ ดีหรือไม่ ทำไมถึงควรเรียนในโรงเรียนรัฐ ค่าใช้จ่ายการเรียนที่สิงคโปร์ เท่าไหร่

หลังจากที่ได้เขียนกระทู้เกี่ยวกับชิวิตของตัวเองในฐานะที่เคยได้มีโอกาสไปเรียนที่โรงเรียนรัฐที่ประเทศสิงคโปร์มา 8 ปี
(http://ppantip.com/topic/31380039) ก็มีคำถามมาจากหลายฝ่ายว่า โรงเรียนรัฐฯต่างจากโรงเรียนเอกชนหรือไม่ จะสอบเข้าโรงเรียนรัฐได้อย่างไร ค่าเทอมเท่าไหร่ ก็เลยอนุญาตเปิดกระทู้นี้เพื่อที่จะอธิบายเพิ่มเติมนะคะ เพื่อการอ่านของบางท่านที่ไม่มีโอกาสได้ติดตามกระทู้อันก่อนๆ เนตรขอเอากระทู้ก่อนๆมาผสมสานในกระทู้นี้ด้วยนะคะ

ระบบการศึกษาของสิงคโปร์นั้นมีมาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับ ข้อสอบระดับมัธยมต้นรวมไปถ้ามัธยมปลายนั้น เป็นข้อสอบตามหลักสูตรของอังกฤษที่มีชื่อว่า General Cambridge Examination Ordinary / Advance Level (GCE 'O/'A' Level) หลังจากที่นักเรียนสอบเสร็จข้อสอบจะบินตรงไปตรวจที่อังกฤษ (หลังจากที่หมดเวลาสอบ จะมีนักเรียนหลายคนออกมาบ่นเงียบๆ แอบขอให้เครื่งบินที่ไปส่งข้อสอบ ตกหลุมอากาศ เสียหาย เพื่อให้การสอบครั้งแรกเป็นโมฆะแล้วจะได้มีสิทธิทำข้อสอบใหม่อีกครั้งค่ะ)  จะไม่มีผอ.ของโรงเรียนท่านใดของสิงคโปร์ที่จะสามารถออกคำสั่งให้ครูแอบแก้ข้อสอบของนักเรียนได้ ด้วยเหตุนี้นักเรียนทุกคนจะต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการเตรียมตัวไปสอบ

ทางกระทรวงศึกษาธิการประจำประเทศสิงคโปร์ได้ออกกฏหมายไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ระบุให้เด็กสิงคโปร์ทุกคนเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาล ครอบครัวไหนที่ไม่อยากเอาลูกเข้าโรงเรียนรัฐ จะต้องแจ้งไปทางกระทรวง ยื่นขอข้อยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ มิฉะนั้นจะถือว่ามีความผิดทางกฏหมาย เพราะการที่ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศเล็ก  เค้าจึงใส่ใจในทรัพยากรบุคลากรเป็นที่สุด รัฐบาลเห็นว่านักเรียนสิงคโปร์ทุกคนมีค่ามากเพราะเป็นอนาคตของชาติเค้า ดังนั้นเค้าจึงให้ความสำคัญและทุ่มเททางด้านการศึกอย่างเต็มที่ คณะครุศาสตร์ของสิงคโปร์เป็นองกรณ์ที่ปลีกตัวแยกออกมาจากมหาลัย อาจารย์ที่สอนอยู่ตามโรงเรียนทุกโรงเรียนของรัฐบาลจบมาจากที่เดียวกัน คุณภาพเท่าเทียมกัน  อาจารย์ทุกคนได้จบมาด้วยอุดมการณ์เดียวกันที่จะมอบความ รู้และการศึกษาให้แก่นักเรียนทุกคนอย่างสุดความสามารถ

เพิ่งมาทราบภายหลังว่าถ้าอาจารย์ไม่มีจิตวิญญาญของครูที่แท้จริง จะเรียนไม่จบที่คณะครุฯของสิงคโปร์ค่ะ บุคลากรของประเทศเค้าวัดและทดสอบคุณภาพไม่ใช่แค่วัดกันด้วยคะแนนสอบอย่างเดียว ถ้าใครมีเวลาอยากจะให้ทุกคนได้ดูคลิ๊ปนี้ค่ะ เป็นการ promote คณะครุศาสตร์ของประเทศสิงคโปร์ที่ทางกระทรวงศึกษาธิการจัดทำขึ้น  http://youtu.be/to0GgHFR55w
มีอาจารย์ที่เค้าดูแลเด็กกันอย่างนี้จริงๆ เราก็เป็นหนึ่งในหลายหมื่นคนที่ได้รับการเอาใจใส่และดูแลแบบนี้จากอาจารย์ของประเทศเขา

ส่วนในด้านค่าใช้จ่ายของการเข้าโรงเรียนรัฐ ดูได้จากตารางนี้ค่ะ เป็นการชี้แจงค่าเทอมรายเดือน แต่ละระดับชั้นมีราคาที่แตกต่างกัน



ทางกระทรวงศึกษาที่สิงคโปร์มีนโยบายให้เด็กต่างชาติทุกคนที่อยากเข้าโรงเรียนรัฐที่นั่น จะต้องทำข้อสอบ Admission Examination for international students (AEIS) ซึ่งการสอบนี้ จะจัดขึ้นปีละ2ครั้ง ทางกระทรวงศึกษาธิการของสิงคโปร์จะเป็นฝ่ายประเมินผลการสอบ ถ้าสอบผ่านนักเรียนก็จะได้รับสิทธิให้ไปรายงานตัวตามโรงเรียนที่ทางกระทรวงระบุให้ นักเรียนจะไม่สามารถเลือกโรงเรียนได้เอง

การเตรียมสอบเข้าโรงเรียนรัฐ วิธีที่พ่อแม่มักจะเลือกให้ลูกคือการเตรียมผ่านโรงเรียนกวดวิชาเอกชนค่ะ แต่ละที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเตรียมน้องๆในการสอบเข้าโรงเรียนรัฐโดยเฉพาะค่ะ หลักสูตรประมาณ 6 เดือนเต็มๆค่ะ, เรียนทุกวัน จ.-ศ. วันละ 6 ชม. ในกรณีที่ผู้ปกครองไม่อยากปล่อยให้เด็กไปยาวเต็ม 6 เดือน ทางเนตรก็อยากจะแนะนำให้ส่งน้องไปเรียน สไตล์ summer แต่เน้นด้านคิวเข้มปรับพื้นฐานในช่วงปิดเทอม เป็น คอร์ส 8 สัปดาห์ค่ะ เพื่อให้น้องได้ปรับพื้นฐาน เข้าใจถึงระบบการเรียนของสิงคโปร์มากขึ้น แล้วก็กลับมาฝึกฝนและติวเพิ่มเองที่ประเทศไทยค่ะ

เนื่องด้วยมีผู้ปกครองหลายท่านที่ถามมาว่าข้อสอบ AEIS คืออะไร ยากไหม เนตรจะขอตอบว่าจริงๆแล้วไม่ได้ยากเกินความสามารถของเด็กเลยค่ะ ปัญหาหลักคือกความรู้ด้านภาษาอังกฤษค่ะ แต่ถ้าจะถามว่าเนตรว่าคิดว่าน้องจะทำได้ไหม คงไม่สามารถตอบได้ค่ะเพราะเด็กแต่ละคนมีพื้นฐานเรียนรู้แตกต่างกัน ถ้าอยากจะรู้จริงๆทางที่ดีที่สุดคือ ให้น้องลองเชิงทำข้อสอบก่อนค่ะระหว่างอยู่ในประเทศไทย สไตล์วัดระดับตามหลักสูตรที่ใช้สอบ AEIS ซึ่งจะเป็นการสอบทั้งภาษาอังกฤษและคณิตค่ะ การทดสอบนี้จะสามารถให้ข้อมูลแก่ผู้ปกครอง ให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบคร่าวๆว่าน้องจะปรับตัวทำข้อสอบจริงได้มากน้อยเพียงใด  ต้องพัฒนาทักษะด้านไหนบ้าง ก่อนที่จะลงสอบจริงกับทางสิงคโปร์

การสอบจะแบ่งเป็น 2 วิชา คือวิชาภาษาอังกฤษกับวิชาคณิตศาสตร์ สามารถลองทะเบียบสอบ online ได้ด้วยตัวเอง ในช่วงที่ทางกระทรวงเปิดให้สมัครค่ะ และจะปิดรับสมัครเมื่อมีจำนวนนักเรียนมาลงทะเบียนสอบจนเต็ม Quota หรือปิดตามเวลาที่ทางกระทรวงระบุไว้ค่ะ

เอกสารหลักๆที่ต้องใช้ประกอบในการจองสอบมีดังต่อไปนี้
1.    สูจิบัตรของนักเรียน
2.    หน้า passport ของนักเรียน
3.    Student pass / dependent pass( ถ้ามี)
4.    หน้า passport ของผู้ปกครอง
5.    Singapore permit ( ถ้ามี)
เอกสารที่ยื่นทุกฉบับจะต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษก่อนนะคะ

ความยากง่ายของข้อสอบจะเป็นเกณต์ตามอายุและระดับชั้นที่น้องจะไปสมัครสอบค่ะ แต่จะเป็นไปตาม Structure นี้ค่ะ

สำหรับน้องๆ ป.2หรือป.3
สอบภาษาอังกฤษ 1 ชม. เป็น Multiple choice  34 ข้อ, และสอบคณิตศาสตร์ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 Part, Part 1 จำกัดเวลา 30 นาที สำหรับการตอบคำถาม 34ข้อ (Multiple choice) ส่วน Part 2 จะเป็น Short answers 34 ข้อ โดยมีเวลา 1ชม20นาที ในการทำข้อสอบ

สำหรับน้องๆ ป.4หรือป.5
สอบภาษาอังกฤษ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 Part โดยมีเวลาจำกัดรวม 2ชม ในการทำข้อสอบทั้ง2Part
English Test Part 1: การทดสอบทักษะด้านการเขียน นักเรียนจะต้องเขียนเรียงความจากหัวข้อที่ระบุในข้อสอบ ประมาณ100คำ
English Test Part 2: การทดสอบทักษะด้านการอ่านและไวยากรณ์ ตอบคำถาม 50ข้อ เป็น Multiple choice
Maths Test Part 1: 40 นาที ทำ Multiple choice 36 ข้อ
Maths Test Part 2: 1ชม.40นาที ทำข้อสอบคณิตแบบสั้น 16 ข้อ (เติมคำตอบโดยที่จะต้องแสดงวิธีทำ) และข้อสอบคณิตแบบยาว 12 ข้อ (เติมคำตอบโดยที่จะต้องแสดงวิธีทำอย่างละเอียด)
เป็น Multiple choice  34 ข้อ, และสอบเลขซึ่งแบ่งออกเป็น 2 Part, Part 1 จำกัดเวลา 30 นาที สำหรับการตอบคำถาม 34ข้อ (Multiple choice) ส่วน Part 2 จะเป็น Short answers 34 ข้อ โดยมีเวลา 1ชม.20นาทีในการทำข้อสอบ


สำหรับน้องๆ ม.1 ถึง ม.3
English test part 1: ทดสอบทักษะการเขียนเรียงความ ( Essay writing / composition)
น้องๆม.1 จะต้องเขียนเรียงความ  จำกัดความยาวที่ 200-300คำ,
น้องๆม.2 จะจำกัดความยาวที่ 250-300คำ,
น้องๆม.3 จะจำกัดความยาวที่ 300-400คำ
English test part 2: การสอบทักษะด้านการอ่านและหลักไวยากรณ์ ตอบคำถาม 50ข้อ เป็น Multiple choice

นักเรียนจะต้องทำทั้ง2part นี้ ภายใน 2 ชม 10นาที

ควรจะส่งน้องไปเรียนสิงคโปร์วัยไหน
ส่วนเรื่องที่คิดว่าน้องอาจจะเด็กเกินไปสำหรับการส่งไปเรียนที่สิงคโปร์ ขอตอบว่าชั้นประถมศึกษาจะเหมาะมากค่ะ เพราะเวลาสอบเทียบเข้าม.1(PSLE) เค้าใช้ผลสอบแค่ 4 วิชาค่ะ คือ อังกฤษ วิทย์ฯ คณิตฯ และ ภาษาที่ 2 (จีน/มาเล/อินเดีย ) ในกรณีเด็กที่ไม่มีพื้นฐานด้านภาษาที่2มาก่อน รัฐบาลจะอนุโลมให้น้องสอบแค่ 3 วิชาค่ะ
อยากจะเชียร์ให้ไปตั้งแต่ชั้นประถมค่ะ เด็กจะได้ปรับตัวทัน ถ้าไปเริ่มที่มัธยมเลยอาจจะปรับตัวลำบากค่ะ เพราะถึงแม้น้องจะเตรียมกวดวิชาเพื่อสอบเข้า แต่ก็แค่ 2 วิชาเท่านั้น แต่พอได้เข้าเรียนจริงๆ การเรียนตามหลักสูตรของที่นั่น เรียน 9 วิชา รวด  ถ้าภาษาอังกฤษไม่แน่นพอเด็กอาจจะเสียกำลังใจเรียนไปเลยก็ได้ค่ะ มีลูกศิษย์หลายคนที่เป็นเคสนี้ กว่าจะเปลี่ยนความคิดน้องๆได้ก็ใช้ความพยายามพอสวมควร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชั้นมัธยมจะสายเกินไปนะคะ  ไม่มีคำว่าสายเกินไปในด้านการเรียนหรอกค่ะ

ในด้านที่พักถ้าเป็นนักเรียนต่างชาติไปอยู่คนเดียวจะแนะนำเป็นอยู่ Homestay ค่ะ ราคา Homestay ก็จะแล้วแต่กรณี ว่าอยู่ห้องเดี่ยวหรือแชร์ อยู่ดีแบบคอนโดหรือไม่ mind ที่จะอยู่ตึกเก่าหน่อย การอยู่ Homestay คือการไปเช่าห้องอยู่กับเจ้าของบ้าน ซึ่งเค้าอาจจจะรับเป็น Guardian ให้น้อง หรือ เราต้องหาGuardian ให้น้องอีกทีค่ะ  

สำหรับคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองท่านไหนที่มีคำถามหรือข้อสงสัยว่าจะสนับสนุนให้น้องไปเรียนที่สิงคโปร์ดีมั๊ย หรือใครที่รู้จักน้องๆที่เรียนอยู่แล้วเหมือนจะมีปัญหาเพราะตามเพื่อนๆเด็กสิงคโปร์ไม่ทันในห้องเรียน กลัวว่าจะสอบได้ไม่ดี ท้อแท้และผิดหวังเรื่องเรียน ก็บอกมาได้นะคะ เนตรอาจจะพอพูดให้กำลังใจน้องๆได้ค่ะ  เพราะเราก็เคยเจอวิกฤตนั้นมาก่อน ความเครียดในช่วงนั้นเป็นอย่างไรเราได้ซึมซับสำผัสประทะกับมันมาแล้ว แต่มาถึงตอนนี้เราก็หันไปมองจุดนั้นพร้อมกับรอยยิ้มที่เราก็ผ่านจุดนั้นมาได้ หรือถ้าใครอยากพูดคุยทักทายเพิ่มเติมก็เมล์กันมาได้เลยนะคะ

email: unspoken060809@gmail.com ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่