YARIS 1.2 Eco เจ๋งจริง ความเร็ว 0-100 ใกล้เคียง สมัยเครื่อง 1500 feel CVT มันหลอกกันชัดๆ ว่าอืด

กระทู้สนทนา
ต้องขออนุญาตินำข้อมูลมาจากเว็บต้องห้ามนะครับ ที่เจ้าของเค้าเคยมีเรื่องมีราวกันมาก่อน
และต้องขออนุญาติเจ้าของข้อมูลริวิว Yaris Eco คุณ Skyforce
ส่วนตัวผมไม่มีเวลาว่างที่จะไปเทสต์รถรุ่นใดๆ เลย และที่สำคัญที่จริงก็อาย เพราะไม่มีตังไปซื้อ
แต่ไปขอเค้าลอง เอาไว้รวยๆ เมื่อไหร่ จะไปขอคันโน้นคันนี้เทสต์บ้าง

by Skyforce

เนื่องจาก อัลติสหน้าหมูผมต้องมีการเข้าอู่ครับ มีความจำเป็นต้องใช้รถเลยได้นำรถของที่ทำงานมาใช้ชั่วคราวก่อนหนึ่งอาทิตย์ เป็น New Yaris J auto เลยถือโอกาสจับมารีวิวซะเลยเป็นยังไงเชิญรับชมครับ



Yaris ใหม่ มีตัวถังยาว 4,115 มิลลิเมตร กว้าง 1,700 มิลลิเมตร สูง 1,475 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ 2,550 มิลลิเมตร (อ้างอิงข้อมูลจาก พี่ jimmy ) จากมิติดังกล่าวผมว่ามันใหญ่สุดใน Eco car hatchback ส่งผลให้มันนั่งสบาย ดูคันใหญ่ไม่ก้องแก้ง เหมือน eco car ยี่ห้ออื่น แน่ละ ก็เล่นเอา B-segment มาเปลี่ยนเครื่องยนต์นิ

[comment ของมิสเตอร์คอมมิค : นี่เป็นจุดที่ทำให้คนตัดสินใจว่าเอาหรือไม่เอา eco car รุ่น 5 ประตูที่ตั้งราคามาแพงกว่าค่ายอื่นเหมือนกันนะครับ]

มุมด้านหน้า ตัวนี้เป็น J Auto ราคา 519,000 กระจังหน้าเป็นสีดำ (ผมว่าดูดุแบบดิบๆ ไปอีกแบบ ) ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์
ไม่มีไฟตัดหมอกให้ทุกรุ่น
[ซึ่งปกติ มันอยู่ในงบที่เซลส์จะแถมไฟตัดหมอกให้ได้อยู่แล้วทุกรุ่น ไม่น่าจะเป็นจุดที่ถึงกับโดนสาดเสียเทเสียเหมือนในบางคอมเม้นต์
ที่ไม่ติดมาให้ ก็คงเพราะเป็นเหตุผลส่วนตัวของพี่โต เช่น เอาเงินส่วนนั้นไปใส่เป็นกันโคลงแทน (มั้ง) และไม่อยากให้มันดูเท่าเทียม
Vios จนเกินไป (แต่ Vios ก็โคตรงก ที่ให้ไฟตัดหมอกมาในรุ่นท๊อป 7 แสน 3 เท่านั้น)]




ไฟหลังเป็นแบบ LED พร้อมก้านปัดน้ำฝนพร้อมที่ฉีดล้างกระจก พี่โต แถมสปอรย์เลอร์หลังเหนือหลังคามาทุกรุ่น ตัว J จะมีแถบพลาสติกสีดำคาดไว้ ส่วน E G จะเป็นแถบสีเงิน และข่าวดี มันไม่มีไฟตัดหมอกหลัง เหมือน vios โฉมเดิมที่สว่างนรกแตก จนคนขับตามหลังด่าถึงบุพการี คนขับได้อีกแล้ว มีเพียงทับทิมสะท้อนแสงเท่านั้น

[ไม่มีค่ายไหนให้ไฟท้าย LED มาก่อน แม้กระทั่งใน B segment ก็ยังไม่มีในหลายๆ รุ่น เป็นจุดที่ Toyota ชอบให้มา แต่คนไม่ค่อยพูดถึง
เพราะคงไม่ชอบ Toyota เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (แต่ชอบ Honda Mazda) ทำอะไรก็ไม่ดีในสายตา 555 สำหรับ March Minor Change ก็
ใส่ไฟท้าย LED มาให้ ทำให้กลายเป็น Eco car เพียงสองรุ่นที่ให้ไฟท้าย LED ที่ดูดีๆ ในรถรุ่นถูกๆ ออกมา]



ด้านข้าง เนื่องจากตัวรถยาวถึง 4115 มม. ทำให้ Yaris เป็น Eco car ทีมีขนาดใหญ่โตที่สุด ถ้าเทียบที่ฐานล้อแล้วมันเท่ากับ vios
และ City เลยทีเดียว คันนี้ให้ ล้อกระทะพร้อมฝาครอบมา

[นอกจากที่มัวแต่ด่าๆ กันจนมันปาก (บางคนไม่รู้ใช่เซลส์ปลอมตัวมารึเปล่า แต่ผมไม่ใช่นะ ผมเป็นคนวาดการ์ตูนคนนึง) เห็นมั๊ยว่า
Toyota ให้คิ้วกันกระแทกตัวเขื่องมาให้บนบานประตูทั้งสี่ และมันไม่ใช่ของถูกๆ แน่นอน เพราะต้องมีการทำโมลด์ มีการพ่นสี มีขั้นตอน
เพิ่มในการผลิต เท่ากับว่าตรงนี้ ยอมทุ่มทุนมาให้มากกว่าบนบานประตูของ Vios ซะอีก ถามว่ามีแล้วดีมั๊ย ก็ดีน่ะสิ เพราะเวลากระแทกเบาๆ ก็
ทำสีแค่ตรงพลาสติก ไม่ต้องทำสีใหม่ทั้งบานประตู พาลให้คนที่มาซื้อต่อในอนาคตคิด หรือจินตนาการไปเองว่า รถเราถูกชนหนักด้านข้างมา]



ด้านข้าง เนื่องจากตัวรถยาวถึง 4115 มม. ทำให้ Yaris เป็น Eco car ทีมีขนาดใหญ่โตที่สุด ถ้าเทียบที่ฐานล้อแล้วมันเท่ากับ
vios และ City เลยทีเดียว คันนี้ให้ ล้อกระทะพร้อมฝาครอบมา
[เรื่องนี้ ถือเป็นข้อเสียล่ะนะ]

บานประตูหลัง พระเอกของงานนี้ ใครที่เคยบอกนั่ง Vios แล้วหัวชนหลังคา ปัญหานี้จะหมดไปเมือคุณมานั่งใน Yaris ด้วยคุณสมบัติของรถ
Hatchback ที่ส่งผลให้หลังคาตอนหลังไม่ลาดเอียงลงเหมอืนรถ Sedan ประกอบกับซ่อง เอ้ย ช่องประตูขนาดใหญ่ที่สามารถยัดเอาคนหุ่น
ช่วงๆ หรือ หลินฮุ่ย เข้าไปนั่งได้อย่างไม่ยากเย็น ตรงนี้ได้ใจไปเลย





console ยกชุดมาจาก vios ภายในเน้นดำส้ม แต่ vios จะเป็นดำ น้ำเงิน
เริ่มจากกลาง console ไล่ลงมา
1. ประกอบด้วยชุดเครื่องเสียง บางคนอาจมองว่ามันแปลกๆ ที่เอาชุดเครื่องเสียงไปไว้เหนือช่องแอร์ แต่ถ้าคุณลองมาใช้จริงแล้ว
จะพบว่ามันเข้าท่าเลยทีเดียว เพราะมันทำให้คุณปรับวิทยุ เพิ่ม เบาเสียงได้สะดวกมาก แทบไม่ต้องละสายตามาเลย
2. ชุดแอร์ พร้อมไฟฉุกเฉิน และสวิตซ์แอร์แบบอัตโนมือ ที่ใช้ง่ายดายกว่าตัวท๊อปแอร์ออโต้มาก รายนั้นต้องมากดเปลี่ยนอุณหภูมิ
สลับกับแรงลมให้วุ่นวาย ล่างลงมาเป็นช่อง aux และช่องวางของที่มันวางของไม่ได้ เข้าโค้งทีเทกระจาดหมด
พี่โตทำให้มันลีกกว่านี้หน่อยได้มั้ยเนี่ย ตื้นเกิ๊น
3. คันเกียร์แบบ Gate type ตรงนี้ผมิอย่างแรงเนื่องจากคันเกียร์อยู่ต่ำเกินไป ลองนึกภาพคุณเคลื่อนตัวในสภาพจราจรติดขัด
ต้องเปลี่ยน N D N D คันเกียร์อยู่ในลักษณะที่ผู้ขับต้องเหยียดแขนซ้ายลงไปข้างล่าง ขับนานๆ มันเมื่อยอยู่นา
ขอขึ้นมาสูงกว่านี้นิดนึงจะดีมาก
4. พวงมาลัยยกชุดมาจาก vios ครับแต่มีแถบสีเงินติดให้ดูหรูขึ้นมา ชม Grip ตรงพวงมาลัยทำออกมาได้ดีมาก จับกระชับมือ
เครื่องเสียงครับไฟสีส้ม อ่าน Front ไทยได้
สวิตซ์ก้านปัดน้ำฝน ที่ขอชมพี่โต ที่ไม่กํกครับ ให้ก้านปัดน้ำฝนกระจกหลัง พร้อมระบบฉีดน้ำล้างทั้งหน้าและหลัง





คันนี้ J auto ปรับกระจกแบบอัตโนมือ พับก็แบบอัตดนมือ  ความจริงควรให้ระบบไฟฟ้ามาได้แล้วไม่ต้องถึงกับพับไฟฟ้า
ขอแค่ปรับไฟฟ้าพอคนขับไม่ต้องเอื้อมตัวไปปรับเองแบบนี้เวลาไม่มีคนนั่งข้างๆ ลำบากเอาเรื่อง
[นี่คือเอกลักษณ์ของรุ่น J ของ Toyota เลย แต่เหมือนเคยเห็นว่ามีคนรับติดตั้งควบคุมกระจกข้างแบบไฟฟ้า ทั้งแบบปรับและพับได้
ในราคาที่รับได้ ส่วนใหญ่ Part ของ Toyota จะถูกเอามาติดตั้งข้างนอกโดยหลายร้านมาก แต่ละร้านก็เหมือนจะเป็นช่างวงในจาก
Toyota เองมั้ง (น่าจะมีนะ) และทำกันแพร่หลายเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนเลยทีเดียว โดยที่การดัดแปลงมีน้อย และปลอดภัยมาก
ประกอบกับติดกันเองข้างนอกเยอะ ทำให้ช่างมีความชำนาญ และค่อนข้างดูแน่นอน]

เลย

พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังครับ ผมว่านั่งสบายสุดใน eco car มีพื้นที่ทั้ง Headroom leg room เหลือเฟือ
[ส่วนตัว ขอเถียงนิดนึงว่า นั่งสบายจริง แต่ headroom น่าจะโดนบั่นทอนให้เตี้ยกว่า hatchback รุ่นอื่นๆ เพราะ Toyota ต้องการทำ
หลังคาให้เตี้ยดู sport มันไม่ได้ดูโปร่งสูง แต่ดูแบนกว้าง ถ้ามองภายนอกรถก็จะเห็นว่า หลังคาเตี้ย ตัวบอดี้หนา คล้ายๆ รถ concept car
ไม่เชื่อให้ลองไปดูพวกรถ concept car พื่นที่กระจกเหลือเล็กนิดเดียว เพราะปาดหลังคาทิ้งจนเตี้ยสุดๆ ทำให้ Yaris รุ่น 1500 เวลานั่งหน้า
ดูมีพื้นที่โปร่งเหนือหัวมากกว่าอย่างชัดเจน และถ้ารักความสวยงามภายนอก ต้องรุ่น 1200 เท่านั้น]



พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ผมว่าเพียงพอแล้วสำหรับชีวิตคนเมือง
เบาะหลังพับได้ ครับแม้มันจะไม่เรียบสนิทเหมือน jazz ก็ตาม โตโยต้าใจดีแถมไฟส่องสว่างห้องสัมภาระหลังมาด้วย





ว่ากันที่เครื่องยนต์เป็นแบบ  3NR-FE บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบเ 1,197 ซีซี หัวฉีด EFI มาพร้อม ระบบแปรผันวาล์ว ที่หัวแคมชาฟต์ทั้งฝั่ง
วาล์วไอดี และไอเสีย Dual VVT-i ให้กำลังสูงสุด 86 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร (11.0 กก.-ม.ที่  4,000 รอบ/นาที ใช้ เกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผัน CVT  

ความรู้สึกในอัตราเร่ง
1.ตอนออกตัวมันอืดมาก แต่พอถึง 60 รถเริ่มลอยตัวถึงเริ่มมีแรงดึง
2. เวลาขึ้นเขา d แรงแทบไม่ค่อยมี แต่พอตบมาเกียร์ S เท่านั้นแหล่ะเหมือนรถคนละคันพุ่งเอาๆ เหมือนป้าแก่ๆ ในวงไพ่ที่ตอนแรกนั่งเล่นไพ่แบบ เนิบๆ ช้าๆ แต่พอเห็นตำรวจมาป้าแกสวมวิญญาณนั่งวิ่งทีมชาติซะงั้น
3. ถ้าค่อยเหยียบแบบครึ่งคันเร่งไปเรื่อยๆ มันจะไปได้แถว 90-100 ถ้าจะขึ้นไป 120 ใช้เวลานานมากต้องกดคันเร่งเพิ่ม
4. เกียร์ CVT smooth มากนิ่ม เงียบ ใช้รอบต่ำจริงๆ
5. อัตราเร่ง 0-100 ผมจับครั้งเดียวได้ 13.07 ลองดูคลิปที่ผมถ่ายมาตามนั้นเลย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
[นี่คือ highlight สำคัญเลย ก็ในเมื่อ Yaris ปี 2006 1500cc เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด สามารถทำความเร็ว 0-100 ได้ใน 12.57 วินาที
เท่ากับว่า Yaris Eco car เครื่อง 1200cc สามารถทำได้ที่ (13.07-12.57) ห่างจากเดิมเพียง 0.50 วินาที หรือครึ่งวินาที จริงอยู่ว่า
หน้าปัดความเร็วมันไม่เที่ยงจากการวัดด้วยมือ และจริงอยู่ที่มันดูไม่มีมาตรฐานในการวัดเท่าไหร่ทั้งจากทางฝั่งทีมงานในเว็บ H และฝั่ง
คนรีวิวเองก็ตาม แต่ค่าเบี่ยงเบนมันจะซักเท่าไหร่กัน คงไม่กี่% ล่ะมั้ง ทำให้พอเห็นภาพว่า ทำไม Toyota พยายามจะสื่อว่า Yaris รุ่นนี้
มีไว้แข่งกับ Jazz 2014 มากกว่าจะลงไปซัดกับเหล่า Eco car ทั้งหลายตรงๆ แต่แน่ล่ะ มีไว้แข่งในด้านยอดขาย แต่ในส่วนของคุณภาพตัว
รถก็คงเป็นไปตามราคา ซึ่ง Yaris รุ่นนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่กึ่งกลางของราคา Eco car ในตลาด และไปจบราคาปลายที่กึ่งกลางของ B car
1500cc ในท้องตลาด]

อัตราแร่งแซง 80-120 โดยเกียร์ D มัวแต่คุมรถ ลืมจับเวลาแหะๆ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
อัตราแร่งแซง 80-120 โดยเกียร์ S แต่พอดูคลิปทำไมเหมือน D มันเร็วกว่าหว่า 555

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ว่ากันด้วยช่วงล่าง เป็นแบบ ระบบกันสะเทือนหน้า เป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง
ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
1. ผมว่าคราวนี้ Toyota set ช่วงล่าง yaris  ออกมาได้ประเสริฐมากเวลาคลานในเมืองผ่านหลุมบ่อฝาท่อ มันเก็บเอาการได้ดีจริงๆ นุ่ม
แน่น แต่นิ่ม ได้ยินเสียงตึงตัง ขึ้นมาน้อยมาก ไม่เหมือน city ที่เคยขับรายนั้นสะท้อนขึ้นมาทุกเม็ด แถมเสียงช่วงล่างเวลาลงหลุมน่ากลัว
มาก กลัวมันหลุดออกมาทั้งยวง
2. ผมอยู่เชียงใหม่ ได้ลองเอาไปใส่โค้งที่ เชียงดาว พบว่าตัวรถเล่นกับโค้งได้มีมาก มันไม่มีโคลง จิกทุกโค้ง จนผมเฮ้ยยยยย
นี่มัน Eco car เหรอวะเนี่ย อะไรมันจะจิกโค้งและเข้าได้สนุกขนาดนี้ ดีกว่า B-seg c-seg บางคันอีก

อยากรู้ใช่มั้ยว่า yaris คันนี้มีดีที่ช่วงล่างจริงๆ พอดีวันนี้ผมเอาไปหาลูกค้ามา เจอทางแบบ cross country เลยอัดคลิปมาฝาก สังเกตความนิ่งและจังหวะการยุบตัวของรถครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
[ที่ช่วงล่างดูนิ่มและซับกว่า Swift ได้อย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะใช้ยาง 14 นิ้ว และ 15 นิ้วด้วย เมื่อเทียบกับ Swift 16 นิ้ว ก็จะดูนุ่มกว่า
อย่างชัดเจน]
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่