สัปดาห์นึงแล้ว ไม่มีใครตอบเหรอฮะ

ถ้าเท้าบวม กดแล้วบุ๋ม น่าจะเป็นอาการบวมน้ำหรือน้ำเหลือง ซึ่งมักไม่ค่อยพบในคนปกติที่มีสุขภาพดี เว้นแต่ จะมีสภาพกล้ามเนื้อขาไม่แข็งแรง การดันกลับของน้ำเลือดน้ำเหลืองและของเสียไม่ดี ทำให้เกิดการคั่งค้างที่เท้าอย่างชัดเจน อาจเป็นผลจากกิจกรรมที่ยืนต่อเนื่องนาน ๆ ติดต่อกัน 3 เดือน วันละ 10 ชม. ถ้าช่วงนั้น ไ่ม่ได้กลับบ้านไปออกกำลัง (โดยการพาดเท้าให้สูงกว่าระดับหัวใจแล้ว กระดกเท้าขึ้นลงเป็นจังหวะหลาย ๆ ครั้ง) ก็อาจเห็นมีเส้นเลือดขอดและเท้าบวม

ถ้าตัดปัญหาเรื่องเบาหวานและไตออกไป สรุปว่าเป็นจากกล้ามเนื้อไม่เฟิร์ม เราก็มาแก้ที่การออกกำลังฮะ พาดเท้าและกระดกเท้าขึ้นลง อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ทำอย่างน้อย วันละ 500 ครั้งขึ้นไป ท่านี้เป็นการไล่น้ำและของเสียกลับไปฟอกที่หัวใจ นอนดูทีวีก็ทำไปเรื่อย ๆ ท่าเพิ่มความแข็งแรง เท่าที่ทำได้ง่าย ๆ ก็มี ยืนหลังพิงกำแพงไว้ แล้วยืดตัวโดยเขย่งขึ้น ใส่รองเท้าผ้าใบขณะทำจะดีกว่า เพราะช่วยทำให้แนวข้อต่ออยู่ในตำแหน่งที่ไม่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บมากนัก แต่ถ้ารู้วิธีที่ปลอดภัยหรือทำจนชินแล้วจะไม่ใส่รองเท้าก็ได้ จะทำเท้าเดียว หรือสองเท้าพร้อมกันก็ได้ เท้าเดียวก็ให้แรงต้านกับกล้ามเนื้อมากหน่อย ยืดตัวแล้วค้างไว้สัก 5-6 วินาที ทำซ้ำ 7-10  ครั้ง ลดจำนวนตามความรู้สึก พอเมื่อยก็หยุด อย่าหักโหมในครั้งแรก ๆ และยังมีอีกหลายท่าที่ช่วยให้กล้ามเนื้อเฟิร์ม ลองหาจากกูเกิ้ล "calves strengthening" "ออกกำลังกล้ามเนื้อ น่อง" "lower leg exercise" บางไซต์ อธิบายดีไม่มีรูป บางไซต์มีแต่รูป และโฆษณาเยอะเกิน

หากเมื่อไหร่ต้องยืนนาน ๆ หรือเดินนาน ๆ ควรพันผ้ายืด หรือสวมถุงเท้า/ถุงน่อง ที่ช่วยในการรัดลดบวม กลับบ้านก็ต้องออกกำลังอย่างที่บอก สังเกตุดูได้ว่ากล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นหรือไม่ จากอาการบวม ถ้าใช้เวลานานกว่าจะบวม ก็แสดงว่าเห็นผลแล้ว ปกติ ออกกำลังต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์ ก็เริ่มเห็นผล ถ้าชอบว่า่ยน้ำ ก็เป็นกีฬาที่ช่วยให้น่องเฟิร์มเช่นกัน จริง ๆ แล้วดีทั้งตัว