สวัสดีค่ะ วันนี้ชะนิฝ่ารถติดเอากล้องไปซ่อมที่มาบุญครอง ซึ่งตั้งแต่เรียนจบเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ก็แทบจะไม่ได้ไปแถวนั้นอีกเลย ถ้าไม่มีธุระจริงๆ เพราะสมัยนี้รถเพิ่มขึ้นมากขึ้นกว่าสมัยก่อนมาก ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือมันเพิ่มขึ้นจริงๆ ไหนๆก็ฝ่ารถติดจากถนนชัยพฤกษ์ ย่านปากเกร็ดเพื่อเข้ากรุงฯมาแล้ววันนี้ ก็แวะไป “ห้องน้ำชา” หรือ “ร้านน้ำชา” ที่เพิ่งมาเปิดที่ชั้น G สยามพารากอนกันหน่อย นั่นคือ Harrods Tea Room ค่ะ เอารูปหมีอันหญ่ายๆๆๆ ไปดูก่อนนะคะ

ร้านนี้ตั้งอยู่หัวมุมแทนที่ร้าน LE NÔTRE เก่า ตรงข้ามกับร้าน  Mandarin Oriental และ Vanilla Brasserie ใครที่เป็นขาประจำพารากอนจะนึกออกทันทีค่ะ ใน “ย่าน” หรือ “ละแวก” นั้นจะมีน้องหมีสูงเท่าคน (น่าจะสูงกว่าด้วยซ้ำ) Mascot ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของห้าง Harrods นี้ สามารถถ่ายรูปกันได้ ตอนนี้น้องหมียังใหม่ ตัวนิ๊มนิ่ม 555 แต่ตอนถ่ายถ้าจะอิงแอบ ระวังน้องคว่ำนะคะ น้องหมียืนกระจายอยู่ตามเสาในละแวกนั้น มีอยู่ 3-4 ตัว (ไม่ได้นับ)

นอกจากในส่วนของ Tea Room 2 ชั้น ยังมีพื้นที่ขายของ Harrods ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโซนขายมาการอง เค้กและคัพเค้กเป็นของติดมือกลับบ้าน หรือตุ๊กตาหมีใส่ชุดทหารอังกฤษ กระเป๋าต่างๆ ฯลฯ ไปเดินเล่นเลือกชมกันได้ค่ะ

ชะนิมาถึงหน้าร้านประมาณบ่ายโมงครึ่งของวันอังคาร ขนาดวันธรรมดา เลยเวลาเที่ยงมาสักพักแล้ว คนยังแน่นร้าน มีลูกค้ายืนรอคิวก่อนหน้าชะนิ 1 คิวและมีลูกค้ามายืนต่อหลังชะนิอีก 1 คิว ระหว่างรอก็ดูเมนูไปพลางๆ เมนูของร้านนี้เป็นภาษาอังกฤษล้วน ไม่แน่ใจว่ามีฉบับที่เป็นภาษาไทยหรือไม่ (ลืมถาม) เมนูมีไม่กี่หน้า แต่ไม่รู้จะเลือกทานอันไหน หิว...ตาลาย... 555

ระหว่างที่ยืนรอ มีพนักงานใส่หมวกท่านหนึ่งเดินมาถามจำนวนลูกค้าของคิวแรก แล้วก็เดินหายไป (น่าจะไปเคลียร์โต๊ะ) หลังจากนั้นก็มีพนักงานอีกท่านเดินมาถามชะนิว่ามากี่ท่านและแจ้งให้รอหลังคิวท่านแรก ไม่ได้มีการแจกบัตรคิวหรือจดชื่อใดๆ ก็ยืนต่อแถวอยู่หน้าร้าน เอาเป็นว่ามาแล้ว...หนีไปหลั่นล้าไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าวันเสาร์อาทิตย์จะเป็นยังไง

การแต่งกายของพนักงานมีการใส่เสื้อกั๊กและใส่หมวก น่ารักมากๆ และมีพนักงานใส่สูทสีดำ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีตำแหน่งสูงหน่อย พนักงานหญิงแต่งหน้าทำผมเรียบร้อย ดูมีมาตรฐานและสบายตามากค่ะ การสื่อสารกับลูกค้ามีหางเสียงเกือบทุกคน ไม่ได้จิ๊จ๊ะหวานจ๋า แต่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานสบายหู บางท่านอาจไม่ได้ให้คะแนนเรื่องนี้ แต่ชะนิทำงานด้านบริการ เรื่องนี้จึงขาดไม่ได้เลยค่ะ

ชะนิยืนรอประมาณ 10 นาที เมื่อถึงคิวเข้าไปในร้าน พนักงานเดินมานำทางไปที่โต๊ะ แล้วนำเมนูสีเขียวมะกอกมาให้ บรรยากาศในร้านเป็นเพดานสูง (หากนั่งชั้นล่าง) ในร้านมี 2 ชั้น กระจกรอบร้านเป็นสไตล์ French Window ใครนึกไม่ออก ...กูเกิ้ลค่ะ คือแบบเป็นตารางๆ ...เอิ่มอธิบายยาก ...กูเกิ้ลค่ะ 555 ในร้านหอมน้ำชา พื้นหน้าร้านตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกเป็นรูป Harrods น่าเข้ามาก โต๊ะที่นั่งปูผ้าขาว เก้าอี้มีทั้งแบบไม้สีเข้มและหุ้มเบาะผ้าสีเขียว มีโต๊ะรอบๆนอกร้านด้วย หากในร้านเต็ม จานและชุดน้ำชาที่ใช้เสิร์ฟเป็นขอบเงินหรูหราดีค่ะ

อ้อ...ลืมบอกว่าพอชะนิไปถึงความหิวก็ครอบงำ ส่วนใหญ่จะลืมถามว่าอะไรเป็นอะไร หากมีอะไรผิดพลาดไป หรือมีใครที่ไปทานแล้วได้ข้อมูลเพิ่มเติม  ก็เข้ามาแจมได้เลยนะคะ ขอบคุณค่ะ

หลังจากอ่านเมนูสักพัก ก็มีพนักงานเดินมาถามว่าได้สั่งอาหารรึยัง ....รายการที่สั่งมีดังนี้ค่ะ

1. Heritage High Tea (เสิร์ฟทุกวันเวลา 10:00-17:30 น.) ชุด The Mayfair สำหรับ 2 ท่าน ราคาเซ็ตละ  990 บาทค่ะ ประกอบด้วยของว่างของหวานต่างๆ 3 ชั้นและน้ำชา 2 พ็อต เลือกต่างรสได้ ชาที่เลือกคือ Afternoon Special กลิ่นหอมกุหลาบอ่อนๆ (หรืออาจจะคิดไปเอง 555) แต่สามีเลือก 1849 Blend ซึ่งหอมกว่าของชะนิ สำหรับชะนิกับสามีสามารถทานแบบ Black Tea ได้เลย ไม่ต้องเติมอะไร ความเข้มกำลังดี แต่แอบได้ยินโต๊ะใกล้เคียงขอน้ำตาลและนมเพิ่ม ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนค่ะ

ประกอบด้วยของหวานของว่าง 3 ชั้น ชั้นบนเป็นของหวานขนาดพอดีคำหรือ Finger Savories จำพวก Harrods Tea Fancies หลากหลายรสชาติ 5 ชิ้น มีทั้งรสช็อคโกแล็ต เลม่อน เป็นเอแคลร์ก็มี และขนมใส่ถ้วยแก้วลักษณะคล้ายไทรเฟิลหรือพาร์เฟ่ต์ ไม่แน่ใจเพราะถ้วยนี้โดนสามีฉกไปกิน (งุงิ) แต่ที่เริ่ดสุดๆ...ถึงขนาดต้องสั่งมาเพิ่มคือมาการองรสแชมเปญ หลายคนที่ไม่ชอบมาการองเพราะความหวานแสบคอ ท้าให้ลองอันนี้เลยค่ะ ....ความหนึบและความหวานกำลังดี...จากคนที่เบือนหน้าหนีมาการอง ...ยังต้องสั่งเพิ่มอ่ะ คิดดู 555 ชั้นที่ 2 เป็นสโคน 4 ชิ้น มาพร้อมแยมราสพ์เบอรี่ สตรอเบอรี่ Clotted Cream และสิ่งที่หน้าตาเหมือนเลม่อนเคิร์ด

ชั้นสุดท้ายเป็นของว่างแบบคาวต่างๆ คือ 1. Roasted Beef Sandwich หรือ Ham and Piccalilli 2. Scottish Smoked Salmon & Cream Cheese 3. Tuna Mayonnaise Croissant  4. Egg and Water Cress Sandwich 5.Lobster Roll ค่ะ สำหรับของคาวชั้นล่างสุด โดยส่วนตัวไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ค่ะ คิดว่ารสชาติธรรมดา แต่ของแบบนี้ ต่างจิตต่างใจเนอะ

สำหรับ High Tea เซ็ตอื่นๆ ก็จะมี The Chelsea  390 บาท สำหรับ 1 ท่าน (น้ำชา 1 พ็อต) และThe Belgravia 750 บาทสำหรับ 2 ท่าน (น้ำชา 1 พ็อต) เท่าที่เห็นความแตกต่างของ 2 เซ็ตหลังคือจำนวน Scone  The Chelsea มี 2 ชิ้น ส่วน The Belgravia มี 4 ชิ้นค่ะ ราคาทั้งหมดยังไม่รวม Service Charge 10% และ VAT อีก 7% ค่ะ

2. อาหารคาวที่สั่งมาเพิ่มคือ Steak Frites เสิร์ฟพร้อมถั่ว 5-6 ท่อน แครอท 1 หัว(เล็ก)ถ้วน บร็อคโครี่ 1 ช่อ(เล็ก)ถ้วน  555 และเฟรนช์ฟรายท่อนสั้นๆ จุ๋มจิ๋ม เสิร์ฟพร้อม Ketchup ค่ะ เนื้อ...ชะนิสั่งเป็น Medium Rare ซึ่งก็ได้ความสุกตามที่สั่ง แต่ด้วยราคา 550 บาท ชะนิแอบฝันถึง Portion อาหารที่ไซส์ใหญ่กว่านี้นิดนึง รสชาติอร่อยนะคะ ติดแค่เรื่องขนาดอาหารที่โดยส่วนตัวแล้ว แอบไม่ค่อยสัมพันธ์กับราคาเท่าที่ควร ...แต่ก็ Harrods  อ่ะค่ะ ต้องยกให้เขา T^T

3. London Bistro Fish and Chips ราคา 390 บาท (มีให้เลือกเป็น Scallops หรือ Prawns and Chips ด้วยนะคะ ถ้าไม่อยากทานปลา ราคาเท่ากันค่ะ) เสิร์ฟพร้อมซอสต่างๆ 4 ชนิดและชิพส์ชิ้นพอดีคำ โดยส่วนตัว ก็เหมือนเดิมค่ะ...เล็กไปหน่อย ปลามาเป็นชิ้นเล็กๆ 3 ชิ้น จานนี้สามีทาน บอกว่าทาร์ทาร์ซอส อร่อยค่ะ

4. โค้ก 1 แก้ว ราคา 85 บาท (กรี๊ดดดด)

เพิ่มเติม: ส่วนใหญ่แล้วชากาเดี่ยวๆ จะอยู่ที่ประมาณ 230 บาทนะคะ

ค่าความฟินวันนี้อยู่ที่: 2 ท่าน 2,642.37 ค่ะ รวม Vat รวม Service Charge แล้ว (เจี๊ยกกกกก)

สำหรับประสบการณ์ในการมาทาน High Tea และอาหารคาวของ Harrods Tea Room วันนี้ ชะนิขอบอกว่า “ฟิน” มากค่ะ เพราะพนักงานบริการดี มีแค่ครั้งเดียวที่เรียกแล้วพนักงานเดินเร็วจนไม่ได้ยิน ซึ่งก็ไม่ว่ากันค่ะ ลูกค้าเยอะ อาจจะมีหลุดบ้าง เป็นธรรมดาของงานบริการ ขนมอร่อย น้ำชาอร่อย เมื่อเชฟตาน้ำข้าวว่าง ก็เดินออกมาทักทายลูกค้า คุยรู้เรื่องไม่รู้เรื่องก็คุย น่ารักจริงๆ ก่อนเสิร์ฟสเต็ก คุณพนักงานก็เอาผ้ากันเปื้อนมาปูที่ตักให้ พนักงานพูดจาดี มีหางเสียง ไม่เลือกปฏิบัติและให้ความรู้กับลูกค้าในสิ่งที่ลูกค้าไม่คุ้นเคย เอาเป็นว่า 2 ชั่วโมงกว่าที่อยู่ในร้าน แทบไม่มีจังหวะไหนที่ลูกค้ารู้สึกเงิบหรือหงุดหงิดเลย ตอนเดินออกร้านสบายใจกว่าเดินเข้าร้าน ลูกค้าส่วนใหญ่จะไปนั่งจิบชา ชิมขนม นั่งคุยกันเบาๆ ชิลล์ๆ เหมือนสำหรับการไป Recharge Energy ให้ตัวเองมากๆค่ะ

สำหรับในวันนี้ เอาเท่านี้ก่อนนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านนะคะ มีอะไรเพิ่มเติม แก้ไข เชิญเพื่อนๆพี่ๆน้องๆได้เลยนะคะ บ๊ายบายค่ะ