สิงคโปร์ ตอนที่ 1 ภาคข้อมูล
http://ppantip.com/topic/31344947
สิงคโปร์ ตอนที่ 2 เข้าเมือง สิงคโปร์
http://ppantip.com/topic/31351737
หายหน้าหายตาไปนาน ต้องขอโทษ Fan Page พงพาเพลิน
https://www.facebook.com/pages/Pongpaplearn-Thai-Backpacker/190423861061180 และ เพื่อนๆ ที่ตามมาให้กำลังใจในห้อง บูล นะครับ ต้องขอโทษจริงๆ งานเพียบไม่มีเวลาเลยแต่วันนี้เราจะมาเดินทางไปสิงคโปร์ต่อกัน ตอนนี้จะเป็นการเดินเที่ยวในเมืองสิงคโปร์ พร้อมเดินเล่นชมเมืองชิวๆ กันไปครับ เอาละมาเริ่มกันดีกว่า
Route ประจำวันที่ 2 มีดังนี้ China Town ซื้อตั๋ว Sea Wheel > Little India เที่ยว วัดแขก (Sri Khishnan Temple) และ วัดเจ้าแม่กวนอิม (The Kwan Im Thong Hood Cho Temple) > Clarke Quay > Raffles Place > Marina Bay Sands > Garden by The Bay > Clarke Quay >China Town
เอาละมาซื้อตั๋ว Sea Wheel กันดีกว่า (Sea Wheel คือสถานที่ขายตั๋วราคาถูกสำหรับเครื่องเล่นทั้งหมดในสิงคโปร์มีทุกอย่าง) การมา Sea Wheel ก็ง่ายๆ นั่งรถไฟฟ้าลง China Town (สำหรับคนที่ไม่ได้พัก China Town) ออกประตูนี้ NE4 (ผมถ่ายมาแต่ไม่ได้ไปถ่ายประตูทางออกขอโทษท่านผู้อ่านครับ) ตามรูป
ขึ้นมาเจอตึกชื่อ People's Park Centre อยู่ติดกับห้อง OG เลยอย่าสับสนไปตึกอื่นนะครับเพราะ มีตึกชื่อใกล้เคียงกันหลายตึกเลย ผมหลงมาแล้วตึกหน้าตาแบบนี้ครับ
หลังจากนั้นเดินไปที่ชั้น 3 เลยครับจะเห็นป้ายร้านเขียวๆ เหมือนรูปครับ
เดินเข้าไปเลยครับ คนขายตั๋วเครื่องเล่นร้านนี้ พูดไทยได้ และ ผมถึงกลับงง เพราะว่า ภาษาที่แปลมาเครื่องเล่นแต่ละอย่างไม่คุ้นเคย อ่านเอาเองนะครับท่านผู้อ่านพร้อมราคาเป็น ดอลล่าร์สิงคโปร์
หลังจากซื้อตั๋วที่ต้องการเสร็จแล้วผมก็เริ่มเดินทางจาก China Town ไป Little India เพื่อไปเที่ยววัดแขก และ วัดเจ้าแม่กวนอิมกัน เริ่มเดินทางด้วย รถไฟฟ้าเช่นเดิม แต่หลังจากนั้นจะต้องเดินประมาณ 600-700 เมตร เพื่อไปยังวัดดังกล่าว ซึ่งจะมีวิธีการเดินอย่างไรไม่ให้หลง มาดูกัน
ก่อนอื่นเลยขึ้นรถไฟฟ้าจาก China Town ไป Little India โดยนั่งรถไฟสาย สีม่วง ไป (กลับไปดูแผนที่ตอนที่ 1 และ 2 ได้ครับ) ขึ้นมาจากสถานีแล้วอย่าพึ่งออกนอกสถานีเช่นเดิม ดูแผนที่ครับจะได้ไม่หลง หรือ หลงน้อยที่สุด จากรูปวัด แขก และวัดเจ้าแม่กวนอิมจะอยู่ด้านล่าง
หลายๆคนอาจจะหาไม่เจอในภาพแรก ซึ่งผมต้องการให้เป็นแบบนั้นเพราะต้องการให้เปรียบเทียบภาพแรกกับภาพถัดไปนี้ครับ ตั้งใจจะให้มองเห็นถนนที่จะเดิน และจุดหมายปลายทางแรกของตอนนี้
เรามาเดินตามแผนที่กันดีกว่าว่าจะเจออะไรกันบ้าง ก่อนอื่นเลยจะเดินออกทางออก A หลังจากนั้นจะผ่านลาดจอดรถ เดินมาเรื่อยๆ จะผ่านโรงหนังแขก หน้าตาแบบนี้
ตอนเดินผ่านมีแขกรอซื้อตั๋วหนังกันเต็มเลย หลังจากนั้นจะมีถนน ข้ามมาก็จะเจอประตูหน้าตาแบบนี้ (หากเห็นประตูนี้แสดงว่าท่านมาถูกทางแล้ว)
หลังจากประตูนี้เราจะเดินเป็นเส้นตรงตลอดเลย มีถนนข้ามถนน มีไฟแดงผ่าไฟแดงกันไปเลยทีเดียว เดินต่อมาจะเจอ นาฬิกาพร้อมวงเวียนนี้
ต่อมาอีกหน่อยก็จะเจอตึกรูปร่างหน้าตาแบบนี้
เรายังต้องเดินตรงมาเรื่อยๆ เช่นเดิมไม่ต้องเลี้ยวไปทางไหนเลย เมื่อเราเดินมาถึงถนน รอสัญญาณไฟที่จะข้ามฝั่งและเห็นตึก OG อยู่ทางด้านซ้ายมือแสดงว่าใกล้ถึงแล้วนะครับ เพราะวัดแขก และวัดเจ้าแม่กวนอิมอยู่ทางด้านขวามือ หรืออยู่ในซอยด้านขวาถัดจากตึก OG นั้นเอง
เอาละเมื่อเดินผ่าน ตึก OG มาซักหน่อยก็จะมีซอยใหญ่ๆ ด้านขวามือก็จะเห็น วัดเจ้าแม่กวนอิม และ วัดถัดไปหน่อยเป็นวัดแขกครับ
วัดเจ้าแม่กวนอิม (The Kwan Im Thong Hood Cho Temple)
วัดแขก (Sri Khishnan Temple)
เดินง่ายๆ สบายๆ นะครับ หลังจากที่ผมเข้าไปสักการะ ทั้ง 2 วัดแล้วก็เป็นเวลาประมาณเที่ยงๆ พอดีจึงเดินกลับทางเก่าที่มาเมื่อกี้ แต่เดี๋ยวก่อนหิวซะแล้วกินบะหมี่หมูแดงกันซะหน่อย ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะอร่อยเพราะเห็นราคาไม่แพงและไม่อยากเดินไปไหนแล้ว แต่ปรากฏว่าเป็นมื้อที่อร่อยมากสำหรับการมาสิงคโปร์ครั้งนี้ครับ ใครผ่านไปอย่าลืมแวะทานนะ อร่อยจริงๆ ร้านนี้ครับ "Choo Chiang"
เมื่อเราเดินผ่านวัดเจ้าแม่กวนอิมออกมาได้ซักหน่อย และเลี้ยวซ้ายมือเพื่อจะกลับทางเดิม ร้านจะอยู่ทางด้านซ้ายมือครับ "Choo Chiang" แนะนำเมนูที่เป็นหมูแดงนะ หอมนุ่มลิ้นมาก 3.5$ เท่านั้นสำหรับจานนี้ (บะหมี่งั้นๆ แต่หมูอร่อยมาก)
แน่นอนหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วก็ตบท้ายด้วยของหวานกันซะหน่อย ไอติมวานิลา+บูลเบอร์ลี่ 1$ เท่านั้น
หลังจากนั้นพออิ่มแล้ว ผมก็เดินทางต่อด้วยรถไฟฟ้ากลับจาก Littel India ไปยัง Raffles Place ครับ โดยใช้บัตรโดยสาร Ez-link เช่นเดิมไปเที่ยว Raffles Place กันเถอะ ดูซิว่ามีอะไรที่จะต้องถ่ายรูปกลับบ้านบ้าง ถึงสถานี Raffles Place ออกทางออก H ตามป้าย Six battary Road ครับ
เอาละพอเดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอบันไดเลื่อนเพื่อออกไปสู่โลกกว้างกันแล้วครับ ขึ้นไปชมความงามของ Raffles Place กันเถอะ
พอขึ้นมาก็ให้เดินเลี้ยวขาวและเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับ แม่น้ำครับ ทางเดินเป็นแบบนี้นะ
ถึงแล้ว Raffles Place เดินข้ามแม่น้ำ วิวด้านขวา คือสะพาน Cavenagh Bridge
ด้านซ้ายถ้าเราเดินตรงไปเรื่อยๆ จะเป็น City Hall และ Cleark Quey ครับ
จากฝั่ง ที่เราขึ้นมาจากรถไฟฟ้า ถ้าหันหน้าให้แม่น้ำและเดินไปทางขวาตามทางแม่น้ำไปเรื่อยๆ ก็จะไปเจอกับ สิงค์พ่นน้ำ Landmark ของ สิงคโปร์กัน โดยต้องข้ามถนนไปทาง อ่าวสิงคโปร์ครับ จะมองเห็นฝั่งตรงกันข้ามเป็น Marina Bay Sands แต่ในทางกลับกันถ้าเราหันหน้าไปทางแม่น้ำและเดินไปทางด้านซ้าย ตามแม่น้ำไปเรื่อยๆ ก็จะไปเจอกับ City Hall และ Cleark Quey ง่ายๆ ใช่มะ เดินตามแม่น้ำไปไม่มีหลงครับ
มาดูกันดีกว่าว่า Raffles Place มีอะไรให้เราถ่ายรูปเล่นกันบ้าง เมื่อขึ้นมาจากรถไฟฟ้าประตู H เดินไปทางด้านขวา ก็จะเจอกับรูปปั้นนี้ครับ
ยังมีอันนี้อีกเดินตรงไปครับหาไม่ยาก
Cavenagh Bridge
ถัดจากสะพานก็จะเจอ รูปปั้นเด็ก เตรียมลงเล่นน้ำน่ารักมากๆ
และข้ามฝั่งไปเดินเลียบแม่น้ำไปทาง Clarke Quay ก็จะเจอกับรูปปั้นผู้ก่อตั้งสิงคโปร์ ท่าน Sir Raffles Stamford
ใกล้ๆ กันยังมีรูปปั้นพ่อค้าสิงคโปร์อยู่ด้วยครับ
หลังจากนั้นผมก็เดินจาก Raffles Place ไปยังอ่าวสิงคโปร์ ตามที่ได้บอกไว้คือเดินเลียบแม่น้ำไปทาง โรงแรม Fullerton Hotel ครับ เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอกับถนนให้ข้ามถนนไป พอข้ามถนนไปก็จะเจออ่าว สิงคโปร์ และ รูปปั้นสิงพ่นน้ำ (Merlion) ก็ทำหน้าที่อยู่ครับ
Merlion ตัวเล็กก็มีนะ
หลังจากที่ถ่ายรูปกับสิงตัวเล็กและสิงตัวใหญ่ ผมก็นั่งรอเพื่อจะขึ้นเรือ Singapore Cruise หน้าตาท่าเรือเป็นแบบนี้ครับ จะอยู่ติดกับสิงตัวใหญ่เลยนำตัวที่ซื้อที่ Sea Wheel ใช้งานทันทีครับ
เรือก็จะพาไปเราชม Marina Bay Sands , Garden by the bay , Singapore Flyer , และย้อนกลับมาที่ แม่น้ำ ผ่าน Raffles Place , ผ่าน City Hall , ผ่าน Cleark Quey ครับ มาดูบรรยากาศกันซะเล็กน้อย
เมื่อเรือแล่นไปถ่ายกลับมาก็จะเจอภาพบรรยากาศนี้
Singapore Flyer
Marina Bay Sands
หลังจากนั้นผมก็ลงเรือที่ Cleark Quey และเดินทางต่อโดยใช้รถไฟฟ้า ไป Marina Bay Sands โดยผมไปลงสถานี Promanade และเดินตามป้ายก็จะเข้าไปในห้าง Marina Bay Sands ครับ ยิ่งใหญ่อลังการ
เป็นเวลาเย็นๆ แล้วผมจึงรอเพื่อจะเดินไปถ่ายรูป Garden By The Bay ตอนกลางคืน เลยแวะถ่ายรูปเล่นด้านนอกครับ ร้าน Louis Vuitton เป็น Shop ที่ใหญ่มากครับ อยู่ด้านนอกห้าง ตั้งให้เห็นเพื่อยั่วเย้าสาวๆ ให้เดินเข้าไปครับ
ค่ำแล้ว ผมจึงเดินผ่านห้าง Marina Bay Sands เพื่อไปชมความงามของ Garden By The Bay ยามค่ำคืน เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ ครับไม่หลงแน่นอน เมื่อใกล้ถึงแล้วจะเจอกับทางเดินแบบนี้ครับ
หากเห็นทางเดินดังรูปแสดงว่าท่านมาถูกแล้วครับ เดินต่อไปเรื่อยๆ เลยครับ จะมีบันไดเลื่อนพาท่านขึ้นไป Garden By The Bay ผมโชคร้ายหนิหน่อยที่ต้องรอเนื่องจากฝนตกครับ T T เมื่อขึ้นมาและเดินมาเรื่อยๆ ก็นะเจอกับ วิวนี้ครับ สวยงามคุ้มค่าการรอคอย
เดินต่อกันเลยครับจะมีสะพานให้ข้าวเพื่อเข้าไปสู่ Garden By The Bay ผมเลยได้ภาพนี้มาครับ
เข้าไปดูกันต่อครับ Garden By The Bay
หลังจากนั้นผมก็เดินจาก Garden By The Bay ไป Cleark Quey และนั่งรถไฟฟ้ากลับ China Town เนื่องจากตอนนี้ข้อมูลเยอะแล้วผมจะบอกวิธีการเดินในตอนต่อไปครับ ซึ่งผมเดินแบบนี้ 2 วันด้วยกันได้ชมเมืองและได้รูปสวยๆ เพียบเลยครับ เจอกันนะ
ตอนที่ 4 ตลุย Sentosa
http://ppantip.com/topic/31423479
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Page พงพาเพลิน [url]https://www.facebook.com/pages/Pongpaplearn
พงพาเพลิน เที่ยวสิงคโปร์ โตๆ มันๆ ตอนที่ 3 เที่ยวไปทั่วๆ เกาะ
สิงคโปร์ ตอนที่ 2 เข้าเมือง สิงคโปร์ http://ppantip.com/topic/31351737
หายหน้าหายตาไปนาน ต้องขอโทษ Fan Page พงพาเพลินhttps://www.facebook.com/pages/Pongpaplearn-Thai-Backpacker/190423861061180 และ เพื่อนๆ ที่ตามมาให้กำลังใจในห้อง บูล นะครับ ต้องขอโทษจริงๆ งานเพียบไม่มีเวลาเลยแต่วันนี้เราจะมาเดินทางไปสิงคโปร์ต่อกัน ตอนนี้จะเป็นการเดินเที่ยวในเมืองสิงคโปร์ พร้อมเดินเล่นชมเมืองชิวๆ กันไปครับ เอาละมาเริ่มกันดีกว่า
Route ประจำวันที่ 2 มีดังนี้ China Town ซื้อตั๋ว Sea Wheel > Little India เที่ยว วัดแขก (Sri Khishnan Temple) และ วัดเจ้าแม่กวนอิม (The Kwan Im Thong Hood Cho Temple) > Clarke Quay > Raffles Place > Marina Bay Sands > Garden by The Bay > Clarke Quay >China Town
เอาละมาซื้อตั๋ว Sea Wheel กันดีกว่า (Sea Wheel คือสถานที่ขายตั๋วราคาถูกสำหรับเครื่องเล่นทั้งหมดในสิงคโปร์มีทุกอย่าง) การมา Sea Wheel ก็ง่ายๆ นั่งรถไฟฟ้าลง China Town (สำหรับคนที่ไม่ได้พัก China Town) ออกประตูนี้ NE4 (ผมถ่ายมาแต่ไม่ได้ไปถ่ายประตูทางออกขอโทษท่านผู้อ่านครับ) ตามรูป
ขึ้นมาเจอตึกชื่อ People's Park Centre อยู่ติดกับห้อง OG เลยอย่าสับสนไปตึกอื่นนะครับเพราะ มีตึกชื่อใกล้เคียงกันหลายตึกเลย ผมหลงมาแล้วตึกหน้าตาแบบนี้ครับ
หลังจากนั้นเดินไปที่ชั้น 3 เลยครับจะเห็นป้ายร้านเขียวๆ เหมือนรูปครับ
เดินเข้าไปเลยครับ คนขายตั๋วเครื่องเล่นร้านนี้ พูดไทยได้ และ ผมถึงกลับงง เพราะว่า ภาษาที่แปลมาเครื่องเล่นแต่ละอย่างไม่คุ้นเคย อ่านเอาเองนะครับท่านผู้อ่านพร้อมราคาเป็น ดอลล่าร์สิงคโปร์
หลังจากซื้อตั๋วที่ต้องการเสร็จแล้วผมก็เริ่มเดินทางจาก China Town ไป Little India เพื่อไปเที่ยววัดแขก และ วัดเจ้าแม่กวนอิมกัน เริ่มเดินทางด้วย รถไฟฟ้าเช่นเดิม แต่หลังจากนั้นจะต้องเดินประมาณ 600-700 เมตร เพื่อไปยังวัดดังกล่าว ซึ่งจะมีวิธีการเดินอย่างไรไม่ให้หลง มาดูกัน
ก่อนอื่นเลยขึ้นรถไฟฟ้าจาก China Town ไป Little India โดยนั่งรถไฟสาย สีม่วง ไป (กลับไปดูแผนที่ตอนที่ 1 และ 2 ได้ครับ) ขึ้นมาจากสถานีแล้วอย่าพึ่งออกนอกสถานีเช่นเดิม ดูแผนที่ครับจะได้ไม่หลง หรือ หลงน้อยที่สุด จากรูปวัด แขก และวัดเจ้าแม่กวนอิมจะอยู่ด้านล่าง
หลายๆคนอาจจะหาไม่เจอในภาพแรก ซึ่งผมต้องการให้เป็นแบบนั้นเพราะต้องการให้เปรียบเทียบภาพแรกกับภาพถัดไปนี้ครับ ตั้งใจจะให้มองเห็นถนนที่จะเดิน และจุดหมายปลายทางแรกของตอนนี้
เรามาเดินตามแผนที่กันดีกว่าว่าจะเจออะไรกันบ้าง ก่อนอื่นเลยจะเดินออกทางออก A หลังจากนั้นจะผ่านลาดจอดรถ เดินมาเรื่อยๆ จะผ่านโรงหนังแขก หน้าตาแบบนี้
ตอนเดินผ่านมีแขกรอซื้อตั๋วหนังกันเต็มเลย หลังจากนั้นจะมีถนน ข้ามมาก็จะเจอประตูหน้าตาแบบนี้ (หากเห็นประตูนี้แสดงว่าท่านมาถูกทางแล้ว)
หลังจากประตูนี้เราจะเดินเป็นเส้นตรงตลอดเลย มีถนนข้ามถนน มีไฟแดงผ่าไฟแดงกันไปเลยทีเดียว เดินต่อมาจะเจอ นาฬิกาพร้อมวงเวียนนี้
ต่อมาอีกหน่อยก็จะเจอตึกรูปร่างหน้าตาแบบนี้
เรายังต้องเดินตรงมาเรื่อยๆ เช่นเดิมไม่ต้องเลี้ยวไปทางไหนเลย เมื่อเราเดินมาถึงถนน รอสัญญาณไฟที่จะข้ามฝั่งและเห็นตึก OG อยู่ทางด้านซ้ายมือแสดงว่าใกล้ถึงแล้วนะครับ เพราะวัดแขก และวัดเจ้าแม่กวนอิมอยู่ทางด้านขวามือ หรืออยู่ในซอยด้านขวาถัดจากตึก OG นั้นเอง
เอาละเมื่อเดินผ่าน ตึก OG มาซักหน่อยก็จะมีซอยใหญ่ๆ ด้านขวามือก็จะเห็น วัดเจ้าแม่กวนอิม และ วัดถัดไปหน่อยเป็นวัดแขกครับ
วัดเจ้าแม่กวนอิม (The Kwan Im Thong Hood Cho Temple)
วัดแขก (Sri Khishnan Temple)
เดินง่ายๆ สบายๆ นะครับ หลังจากที่ผมเข้าไปสักการะ ทั้ง 2 วัดแล้วก็เป็นเวลาประมาณเที่ยงๆ พอดีจึงเดินกลับทางเก่าที่มาเมื่อกี้ แต่เดี๋ยวก่อนหิวซะแล้วกินบะหมี่หมูแดงกันซะหน่อย ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะอร่อยเพราะเห็นราคาไม่แพงและไม่อยากเดินไปไหนแล้ว แต่ปรากฏว่าเป็นมื้อที่อร่อยมากสำหรับการมาสิงคโปร์ครั้งนี้ครับ ใครผ่านไปอย่าลืมแวะทานนะ อร่อยจริงๆ ร้านนี้ครับ "Choo Chiang"
เมื่อเราเดินผ่านวัดเจ้าแม่กวนอิมออกมาได้ซักหน่อย และเลี้ยวซ้ายมือเพื่อจะกลับทางเดิม ร้านจะอยู่ทางด้านซ้ายมือครับ "Choo Chiang" แนะนำเมนูที่เป็นหมูแดงนะ หอมนุ่มลิ้นมาก 3.5$ เท่านั้นสำหรับจานนี้ (บะหมี่งั้นๆ แต่หมูอร่อยมาก)
แน่นอนหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วก็ตบท้ายด้วยของหวานกันซะหน่อย ไอติมวานิลา+บูลเบอร์ลี่ 1$ เท่านั้น
หลังจากนั้นพออิ่มแล้ว ผมก็เดินทางต่อด้วยรถไฟฟ้ากลับจาก Littel India ไปยัง Raffles Place ครับ โดยใช้บัตรโดยสาร Ez-link เช่นเดิมไปเที่ยว Raffles Place กันเถอะ ดูซิว่ามีอะไรที่จะต้องถ่ายรูปกลับบ้านบ้าง ถึงสถานี Raffles Place ออกทางออก H ตามป้าย Six battary Road ครับ
เอาละพอเดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอบันไดเลื่อนเพื่อออกไปสู่โลกกว้างกันแล้วครับ ขึ้นไปชมความงามของ Raffles Place กันเถอะ
พอขึ้นมาก็ให้เดินเลี้ยวขาวและเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับ แม่น้ำครับ ทางเดินเป็นแบบนี้นะ
ถึงแล้ว Raffles Place เดินข้ามแม่น้ำ วิวด้านขวา คือสะพาน Cavenagh Bridge
ด้านซ้ายถ้าเราเดินตรงไปเรื่อยๆ จะเป็น City Hall และ Cleark Quey ครับ
จากฝั่ง ที่เราขึ้นมาจากรถไฟฟ้า ถ้าหันหน้าให้แม่น้ำและเดินไปทางขวาตามทางแม่น้ำไปเรื่อยๆ ก็จะไปเจอกับ สิงค์พ่นน้ำ Landmark ของ สิงคโปร์กัน โดยต้องข้ามถนนไปทาง อ่าวสิงคโปร์ครับ จะมองเห็นฝั่งตรงกันข้ามเป็น Marina Bay Sands แต่ในทางกลับกันถ้าเราหันหน้าไปทางแม่น้ำและเดินไปทางด้านซ้าย ตามแม่น้ำไปเรื่อยๆ ก็จะไปเจอกับ City Hall และ Cleark Quey ง่ายๆ ใช่มะ เดินตามแม่น้ำไปไม่มีหลงครับ
มาดูกันดีกว่าว่า Raffles Place มีอะไรให้เราถ่ายรูปเล่นกันบ้าง เมื่อขึ้นมาจากรถไฟฟ้าประตู H เดินไปทางด้านขวา ก็จะเจอกับรูปปั้นนี้ครับ
ยังมีอันนี้อีกเดินตรงไปครับหาไม่ยาก
Cavenagh Bridge
ถัดจากสะพานก็จะเจอ รูปปั้นเด็ก เตรียมลงเล่นน้ำน่ารักมากๆ
และข้ามฝั่งไปเดินเลียบแม่น้ำไปทาง Clarke Quay ก็จะเจอกับรูปปั้นผู้ก่อตั้งสิงคโปร์ ท่าน Sir Raffles Stamford
ใกล้ๆ กันยังมีรูปปั้นพ่อค้าสิงคโปร์อยู่ด้วยครับ
หลังจากนั้นผมก็เดินจาก Raffles Place ไปยังอ่าวสิงคโปร์ ตามที่ได้บอกไว้คือเดินเลียบแม่น้ำไปทาง โรงแรม Fullerton Hotel ครับ เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอกับถนนให้ข้ามถนนไป พอข้ามถนนไปก็จะเจออ่าว สิงคโปร์ และ รูปปั้นสิงพ่นน้ำ (Merlion) ก็ทำหน้าที่อยู่ครับ
Merlion ตัวเล็กก็มีนะ
หลังจากที่ถ่ายรูปกับสิงตัวเล็กและสิงตัวใหญ่ ผมก็นั่งรอเพื่อจะขึ้นเรือ Singapore Cruise หน้าตาท่าเรือเป็นแบบนี้ครับ จะอยู่ติดกับสิงตัวใหญ่เลยนำตัวที่ซื้อที่ Sea Wheel ใช้งานทันทีครับ
เรือก็จะพาไปเราชม Marina Bay Sands , Garden by the bay , Singapore Flyer , และย้อนกลับมาที่ แม่น้ำ ผ่าน Raffles Place , ผ่าน City Hall , ผ่าน Cleark Quey ครับ มาดูบรรยากาศกันซะเล็กน้อย
เมื่อเรือแล่นไปถ่ายกลับมาก็จะเจอภาพบรรยากาศนี้
Singapore Flyer
Marina Bay Sands
หลังจากนั้นผมก็ลงเรือที่ Cleark Quey และเดินทางต่อโดยใช้รถไฟฟ้า ไป Marina Bay Sands โดยผมไปลงสถานี Promanade และเดินตามป้ายก็จะเข้าไปในห้าง Marina Bay Sands ครับ ยิ่งใหญ่อลังการ
เป็นเวลาเย็นๆ แล้วผมจึงรอเพื่อจะเดินไปถ่ายรูป Garden By The Bay ตอนกลางคืน เลยแวะถ่ายรูปเล่นด้านนอกครับ ร้าน Louis Vuitton เป็น Shop ที่ใหญ่มากครับ อยู่ด้านนอกห้าง ตั้งให้เห็นเพื่อยั่วเย้าสาวๆ ให้เดินเข้าไปครับ
ค่ำแล้ว ผมจึงเดินผ่านห้าง Marina Bay Sands เพื่อไปชมความงามของ Garden By The Bay ยามค่ำคืน เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ ครับไม่หลงแน่นอน เมื่อใกล้ถึงแล้วจะเจอกับทางเดินแบบนี้ครับ
หากเห็นทางเดินดังรูปแสดงว่าท่านมาถูกแล้วครับ เดินต่อไปเรื่อยๆ เลยครับ จะมีบันไดเลื่อนพาท่านขึ้นไป Garden By The Bay ผมโชคร้ายหนิหน่อยที่ต้องรอเนื่องจากฝนตกครับ T T เมื่อขึ้นมาและเดินมาเรื่อยๆ ก็นะเจอกับ วิวนี้ครับ สวยงามคุ้มค่าการรอคอย
เดินต่อกันเลยครับจะมีสะพานให้ข้าวเพื่อเข้าไปสู่ Garden By The Bay ผมเลยได้ภาพนี้มาครับ
เข้าไปดูกันต่อครับ Garden By The Bay
หลังจากนั้นผมก็เดินจาก Garden By The Bay ไป Cleark Quey และนั่งรถไฟฟ้ากลับ China Town เนื่องจากตอนนี้ข้อมูลเยอะแล้วผมจะบอกวิธีการเดินในตอนต่อไปครับ ซึ่งผมเดินแบบนี้ 2 วันด้วยกันได้ชมเมืองและได้รูปสวยๆ เพียบเลยครับ เจอกันนะ
ตอนที่ 4 ตลุย Sentosa http://ppantip.com/topic/31423479
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Page พงพาเพลิน [url]https://www.facebook.com/pages/Pongpaplearn