หลังจากเมื่อวานมีการประกาศผลการแข่งขัน The Voice Thailand คนที่สอง ทำให้สมาชิกหลากหลายท่านได้แสดงความคิดเห็นแตกต่างกันไป
แต่ที่ได้เห็นส่วนหนึ่งกล่าวทำนองว่าทำไมคุณแตงโมไม่ชนะ ทั้งที่ร้องดีกว่า แสดงดีกว่า อะไรก็ตามแต่
และทำไมคนจึงเลือกคุณสงกรานต์ ร้องก็อาจดีไม่เท่า เลือกเพราะเป็นผู้ชาย เป็นต้น
เหตุที่ทำให้ต้องนำการแข่งขัน The Voice รอบ Final มาเปรียบเทียบกับการเมืองไทยในปัจจุบันเพราะรายการ the voice เป็นการแข่งขันที่มีกฎ กติกากำหนดไว้ว่าใครได้คะแนนโหวตสูงสุดจากผู้ชมทางบ้านและห้องส่งมากที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะการแข่งขัน นั่นคือทุกคนชอบใครก็มีสิทธิ์โหวตให้กับคนที่ตนเองชอบ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
เมื่อเปรียบเทียบได้กับการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนแต่ละคนมีสิทธิโหวต แม้ว่าแต่ละคนจะมีเพียง 1 เสียง แต่คุณชอบใครก็โหวตได้เช่นกัน
ภายหลังจากการประกาศผลการแข่งขัน มีหลายคนถามในกระทู้ว่าทำไมคุณแตงโมจึงไม่ชนะ ทำไมคนไทยชอบโหวตให้แต่ผู้ชาย การแสดงออกเช่นนี้ทำให้เห็นว่าแม้กระทั่งการแข่งขันผ่านรายการโทรทัศน์ เราซึ่งเป็นผู้ชมยังไม่ยอมรับผลการตัดสินของคนทางบ้านที่ทุกคนได้ดูพร้อม ๆ กัน ยังคงต้องการให้คนที่ตนเองชื่นชอบชนะโดยไม่คำนึงว่าคนที่ชนะก็มีคนอื่นชื่นชอบเช่นเดียวกันและมีจำนวนมากกว่า ไม่ต่างอะไรจากการเมืองของไทยที่มีคนจำนวนหนึ่งต้องการให้พวกของตนเองชนะการเลือกตั้ง โดยไม่คำนึงว่าคนที่ชนะการเลือกตั้งมานั้น เค้าก็มีคนเลือกมาด้วยเช่นกัน
ขอแทนค่าต่าง ๆ ดังนี้
1. การโหวต = การเลือกตั้ง
2. คำกล่าวอ้างว่าคะแนนโหวตที่ให้คุณสงกรานต์มากกว่าเพราะเป็นผู้ชาย ผู้หญิงจึงโหวตให้เยอะ = คำกล่าวอ้างว่าคนที่ไปลงคะแนนเลือกตั้งไม่มีคุณภาพเพียงพอ ไม่ได้ยั้งคิดก่อนกากบาท
เพียงแต่สงสัยว่าทำไมเราทุกคนจึงไม่ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น ไม่ยอมรับว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน คุณไม่สามารถทำให้ทุกคนชอบเหมือนคุณได้ และคุณไม่ควรดูถูกความคิดคนอื่นด้วย
หลายปีก่อน ผู้ตั้งกระทู้เคยถูกถามว่า ความยุติธรรมมีจริงหรือไม่ ซึ่งก็ได้ตอบผู้ถามไปว่าคิดว่ามีจริง โดยตอนนนี้ก็จำไม่ได้ว่าเหตุใดจึงตอบเช่นนนั้น
แต่หากมีคนมาถามตอนนี้ว่าความยุติธรรมมีจริงหรือไม่ ก็จะยังคงตอบว่าความยุติธรรมมีจริง โดยหากเรามองด้วยใจเป็นกลางไม่มีอคติเราจะเห็นความยุติธรรมอย่างแน่นอน
ปล. ผู้ตั้งกระทู้ไม่ได้ชื่นชอบใครเป็นพิเศษใน 4 คนสุดท้าย เพราะคนที่ชอบทั้งคุณพละ คุณวี ต่างตกรอบไปหมดแล้ว ตอนที่คุณพละตกรอบก็เสียดายแต่ก็ไม่ได้ว่าคนอื่น
ส่วนทางการเมืองก็มีความเห็นว่านักการเมืองไทยแต่ละคนแต่ละพรรคไม่มีความแตกต่างกัน(ในด้านแย่ๆ) เลือกใครมาก็แย่ทั้งนั้น จึงยอมรับกับการออกเสียงของคนส่วนใหญ่ได้
จาก The Voice ถึงการเมืองไทย
แต่ที่ได้เห็นส่วนหนึ่งกล่าวทำนองว่าทำไมคุณแตงโมไม่ชนะ ทั้งที่ร้องดีกว่า แสดงดีกว่า อะไรก็ตามแต่
และทำไมคนจึงเลือกคุณสงกรานต์ ร้องก็อาจดีไม่เท่า เลือกเพราะเป็นผู้ชาย เป็นต้น
เหตุที่ทำให้ต้องนำการแข่งขัน The Voice รอบ Final มาเปรียบเทียบกับการเมืองไทยในปัจจุบันเพราะรายการ the voice เป็นการแข่งขันที่มีกฎ กติกากำหนดไว้ว่าใครได้คะแนนโหวตสูงสุดจากผู้ชมทางบ้านและห้องส่งมากที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะการแข่งขัน นั่นคือทุกคนชอบใครก็มีสิทธิ์โหวตให้กับคนที่ตนเองชอบ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
เมื่อเปรียบเทียบได้กับการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนแต่ละคนมีสิทธิโหวต แม้ว่าแต่ละคนจะมีเพียง 1 เสียง แต่คุณชอบใครก็โหวตได้เช่นกัน
ภายหลังจากการประกาศผลการแข่งขัน มีหลายคนถามในกระทู้ว่าทำไมคุณแตงโมจึงไม่ชนะ ทำไมคนไทยชอบโหวตให้แต่ผู้ชาย การแสดงออกเช่นนี้ทำให้เห็นว่าแม้กระทั่งการแข่งขันผ่านรายการโทรทัศน์ เราซึ่งเป็นผู้ชมยังไม่ยอมรับผลการตัดสินของคนทางบ้านที่ทุกคนได้ดูพร้อม ๆ กัน ยังคงต้องการให้คนที่ตนเองชื่นชอบชนะโดยไม่คำนึงว่าคนที่ชนะก็มีคนอื่นชื่นชอบเช่นเดียวกันและมีจำนวนมากกว่า ไม่ต่างอะไรจากการเมืองของไทยที่มีคนจำนวนหนึ่งต้องการให้พวกของตนเองชนะการเลือกตั้ง โดยไม่คำนึงว่าคนที่ชนะการเลือกตั้งมานั้น เค้าก็มีคนเลือกมาด้วยเช่นกัน
ขอแทนค่าต่าง ๆ ดังนี้
1. การโหวต = การเลือกตั้ง
2. คำกล่าวอ้างว่าคะแนนโหวตที่ให้คุณสงกรานต์มากกว่าเพราะเป็นผู้ชาย ผู้หญิงจึงโหวตให้เยอะ = คำกล่าวอ้างว่าคนที่ไปลงคะแนนเลือกตั้งไม่มีคุณภาพเพียงพอ ไม่ได้ยั้งคิดก่อนกากบาท
เพียงแต่สงสัยว่าทำไมเราทุกคนจึงไม่ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น ไม่ยอมรับว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน คุณไม่สามารถทำให้ทุกคนชอบเหมือนคุณได้ และคุณไม่ควรดูถูกความคิดคนอื่นด้วย
หลายปีก่อน ผู้ตั้งกระทู้เคยถูกถามว่า ความยุติธรรมมีจริงหรือไม่ ซึ่งก็ได้ตอบผู้ถามไปว่าคิดว่ามีจริง โดยตอนนนี้ก็จำไม่ได้ว่าเหตุใดจึงตอบเช่นนนั้น
แต่หากมีคนมาถามตอนนี้ว่าความยุติธรรมมีจริงหรือไม่ ก็จะยังคงตอบว่าความยุติธรรมมีจริง โดยหากเรามองด้วยใจเป็นกลางไม่มีอคติเราจะเห็นความยุติธรรมอย่างแน่นอน
ปล. ผู้ตั้งกระทู้ไม่ได้ชื่นชอบใครเป็นพิเศษใน 4 คนสุดท้าย เพราะคนที่ชอบทั้งคุณพละ คุณวี ต่างตกรอบไปหมดแล้ว ตอนที่คุณพละตกรอบก็เสียดายแต่ก็ไม่ได้ว่าคนอื่น
ส่วนทางการเมืองก็มีความเห็นว่านักการเมืองไทยแต่ละคนแต่ละพรรคไม่มีความแตกต่างกัน(ในด้านแย่ๆ) เลือกใครมาก็แย่ทั้งนั้น จึงยอมรับกับการออกเสียงของคนส่วนใหญ่ได้