จังหวะดีๆ ไม่ได้มีกันบ่อยๆ กับ LTF&RMF
โบราณท่านว่า “อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา...” ปัจจุบันมา อยากขอเปลี่ยนเป็น “อย่าคอยข่าวดี อย่ามีความกลัว อย่ามัวรอเงินก้อน ยังไงก็ต้องช้อน LTF&RMF”
จนถึงเวลานี้ ไม่แปลกที่จะมีคนจำนวนมาก เกิดความกลัวและความลังเลในการลงทุน เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ดูจะครุกรุ่น และร้อนแรง สวนทางกับอุณหภูมิที่ลดลงเมื่อเข้าช่วงปลายปี
ลองย้อนกลับไปดูอดีตที่ผ่านมา จะเห็นว่า ในช่วง15-20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยผ่านเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง และแต่ละครั้ง สิ่งที่เหตุการณ์เหล่านั้นกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้ ก็เพียงแค่ “ระยะสั้น” เนื่องจาก ปัจจัยหลักที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้หุ้นของบริษัทจดทะเบียนเคลื่อนไหวในระยะยาว ไม่ใช่ เรื่องการเมือง ไม่ใช่เรื่องวงเงิน QE จากอเมริกา แต่เป็นอนาคตของบริษัทเอง ที่ต้องไปมองผ่านปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่ดี ซึ่งจะแสดงออกมาในรูปของกำไรสุทธินั้นเอง และเราก็เห็นตัวอย่างมาตลอดว่า หากเลือกลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพ ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ ระบบการจัดการที่ดีเยี่ยม และกลยุทธ์ที่รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทเหล่านี้ ก็สามารถรอดพ้นทุกๆวิกฤต รอดพ้นจากอารมณ์ของตลาดในระยะสั้น และราคาหุ้นก็สามารถปรับขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องในระยะยาว
อีก 3 ปี อีก 5 ปี ข้างหน้า ประเด็นการเมืองวันนี้คงจะหมดไปแล้ว และอาจจะมีประเด็นการเมืองประเด็นใหม่มาก็เป็นได้ แต่ในอดีตที่ผ่านมา ก็ยืนยันกับเราแล้วว่า หุ้นที่มีคุณภาพดี ไม่เคยมีที่กำไรสุทธิจะลดลง และนั้นคือ เหตุผล และหัวใจหลักของการลงทุนในระยะยาว
จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว
ในวิกฤต ย่อมมีโอกาส
ที่ที่อันตรายที่สุด คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด
ข้อคิดทั้ง 3 ข้อนี้ ชี้ให้เห็นชัดเจนขึ้นอีกว่า การจะเป็นผู้ชนะ การจะประสบความสำเร็จ คนเราต้องมองให้ต่าง และไม่เดินตามคนจำนวนมาก หากมาใช้กับการลงทุน เหตุการณ์บ้านเมืองในช่วงปลายปีเช่นตอนนี้ ก็คือ โอกาสในการลงทุนที่ได้บริษัทคุณภาพดี ในราคาที่ถูกลง หากแต่อารมณ์และความกลัวอาจจะเข้ามาทำให้นักลงทุนกังวลในระยะสั้น จนลืมภาพ และหลักการลงทุนในระยะยาว
และยิ่งพลาดเข้าไปใหญ่สำหรับมนุษย์เงินเดือน หรือเจ้าของกิจการที่มีรายได้และต้องเสียภาษีประจำทุกๆปี หากปล่อยให้ความกลัวครอบงำไป ไม่ลงทุน LTF/RMF โอกาสก็ต้องเสีย และที่เสียหนักกว่า ก็คือ “ภาษี”
สรุปนะครับ
เลือกลงทุนในกองทุนที่ดี มีคุณภาพ ผลตอบแทนย้อนหลังที่ผ่านมาดีสม่ำเสมอ
ในราคาที่ถูกกว่า เพราะว่าคนส่วนใหญ่ไปกังวลกับปัจจัยระยะสั้น
แถมเงินที่ลงทุนไปนั้น ได้ลดหย่อนภาษี
จังหวะแบบนี้ หาไม่ได้ง่ายๆนะครับ ว่าแล้ว จะรออะไรกันอีก ไปลงทุนใน LTF&RMF กันเลย!!
จังหวะดีๆ ไม่ได้มีกันบ่อยๆ กับ LTF&RMF
โบราณท่านว่า “อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา...” ปัจจุบันมา อยากขอเปลี่ยนเป็น “อย่าคอยข่าวดี อย่ามีความกลัว อย่ามัวรอเงินก้อน ยังไงก็ต้องช้อน LTF&RMF”
จนถึงเวลานี้ ไม่แปลกที่จะมีคนจำนวนมาก เกิดความกลัวและความลังเลในการลงทุน เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ดูจะครุกรุ่น และร้อนแรง สวนทางกับอุณหภูมิที่ลดลงเมื่อเข้าช่วงปลายปี
ลองย้อนกลับไปดูอดีตที่ผ่านมา จะเห็นว่า ในช่วง15-20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยผ่านเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง และแต่ละครั้ง สิ่งที่เหตุการณ์เหล่านั้นกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้ ก็เพียงแค่ “ระยะสั้น” เนื่องจาก ปัจจัยหลักที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้หุ้นของบริษัทจดทะเบียนเคลื่อนไหวในระยะยาว ไม่ใช่ เรื่องการเมือง ไม่ใช่เรื่องวงเงิน QE จากอเมริกา แต่เป็นอนาคตของบริษัทเอง ที่ต้องไปมองผ่านปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่ดี ซึ่งจะแสดงออกมาในรูปของกำไรสุทธินั้นเอง และเราก็เห็นตัวอย่างมาตลอดว่า หากเลือกลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพ ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ ระบบการจัดการที่ดีเยี่ยม และกลยุทธ์ที่รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทเหล่านี้ ก็สามารถรอดพ้นทุกๆวิกฤต รอดพ้นจากอารมณ์ของตลาดในระยะสั้น และราคาหุ้นก็สามารถปรับขึ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องในระยะยาว
อีก 3 ปี อีก 5 ปี ข้างหน้า ประเด็นการเมืองวันนี้คงจะหมดไปแล้ว และอาจจะมีประเด็นการเมืองประเด็นใหม่มาก็เป็นได้ แต่ในอดีตที่ผ่านมา ก็ยืนยันกับเราแล้วว่า หุ้นที่มีคุณภาพดี ไม่เคยมีที่กำไรสุทธิจะลดลง และนั้นคือ เหตุผล และหัวใจหลักของการลงทุนในระยะยาว
จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว
ในวิกฤต ย่อมมีโอกาส
ที่ที่อันตรายที่สุด คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด
ข้อคิดทั้ง 3 ข้อนี้ ชี้ให้เห็นชัดเจนขึ้นอีกว่า การจะเป็นผู้ชนะ การจะประสบความสำเร็จ คนเราต้องมองให้ต่าง และไม่เดินตามคนจำนวนมาก หากมาใช้กับการลงทุน เหตุการณ์บ้านเมืองในช่วงปลายปีเช่นตอนนี้ ก็คือ โอกาสในการลงทุนที่ได้บริษัทคุณภาพดี ในราคาที่ถูกลง หากแต่อารมณ์และความกลัวอาจจะเข้ามาทำให้นักลงทุนกังวลในระยะสั้น จนลืมภาพ และหลักการลงทุนในระยะยาว
และยิ่งพลาดเข้าไปใหญ่สำหรับมนุษย์เงินเดือน หรือเจ้าของกิจการที่มีรายได้และต้องเสียภาษีประจำทุกๆปี หากปล่อยให้ความกลัวครอบงำไป ไม่ลงทุน LTF/RMF โอกาสก็ต้องเสีย และที่เสียหนักกว่า ก็คือ “ภาษี”
สรุปนะครับ
เลือกลงทุนในกองทุนที่ดี มีคุณภาพ ผลตอบแทนย้อนหลังที่ผ่านมาดีสม่ำเสมอ
ในราคาที่ถูกกว่า เพราะว่าคนส่วนใหญ่ไปกังวลกับปัจจัยระยะสั้น
แถมเงินที่ลงทุนไปนั้น ได้ลดหย่อนภาษี
จังหวะแบบนี้ หาไม่ได้ง่ายๆนะครับ ว่าแล้ว จะรออะไรกันอีก ไปลงทุนใน LTF&RMF กันเลย!!