ในความคิดเห็นของผม รายการThe voice คือรายการที่แสดงให้เห็นถึงการคัดเลือก ศิลปิน เข้าสู่ค่ายเพลงต่างๆ
โค๊ชแต่ละคนก็เปรียบเสมือน 1 ค่ายเพลง ที่ต้องทำเพลง ผลิตการแสดงเพื่อที่จะเรียกเงินจากประชาชน
ที่การมีโค๊ช 4 คน ก็เปรียบเหมือนค่ายเพลงยักใหญ่ทั้ง 4 คือ
Universal Music group, Sony Music Entertainment, Warner Music Group และ EMI
ในรอบแรก / Blind audition
ก็เปรียบเหมือนผู้สมัคร อัดเสียงตัวเองไปให้แต่ละค่ายเลือก ว่ามีใครสนใจเสียงของเราหรือไม่
ถ้ามีค่ายไหนสนใจ นักร้องก็มีอำนาจที่จะเลือกค่ายที่ตัวเองถูกใจมากที่สุดก่อน
ในรอบสองและสาม / Battle และ Knock out
ก็เปรียบเหมือนการคัดคนของแต่ล่ะค่าย ซึ่งแต่ละค่ายก็จะมองหาคนที่มีโอกาสสร้างชื่อเสียง สร้างเม็ดเงินได้มากที่สุด
บางค่ายดูที่เสียง บางค่ายดูที่การแสดงออกและการentertainคนดู ของผู้แข่งขันแต่ละท่าน
กฎการ Steal ที่เพิ่มมาก็คือ เมื่อค่ายไม่ต่อสัญญากับศิลปินแล้ว ศิลปินก็มีสิทธิ์ที่จะไปสมัครที่อื่น
ถ้ายังมีค่ายอื่นที่ให้ความสนใจเราก็ยังมีโอกาสที่จะร้องเพลงให้กับค่ายยักใหญ่
ในรอบสุดท้าย / รอบ live
ก็คือการที่ค่ายเพลงต่างๆ ต้องนำศิลปินมาออกเทป จัดการแสดง จัดคอนเสริต์
หรือเรียกง่ายๆว่าหาเงินนั่นแหละ ตอนนี้ผู้ชมก็จะมามีส่วนเกี่ยวแล้วเพราะผลโหวต
ก็คือผลของผู้ที่จะยอมจ่ายเงินเพื่อศิลปินที่ตนเองชื่นชอบ
ผลการตัดสินว่าใครได้โหวตมากกว่ากัน ก็คือใครขายเพลงได้มากกว่ากัน
เพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่าคนที่ได้ที่1 อาจจะไม่ใช่คนที่แสดงได้ดีสุด ร้องเพลงได้ดีที่สุด
แต่ที่1 คือคนที่มีคนซื้อเพลงของเขามากที่สุด
คิดเล่นๆเกี่ยวกับ วิธีคิดของรายการThe voice
โค๊ชแต่ละคนก็เปรียบเสมือน 1 ค่ายเพลง ที่ต้องทำเพลง ผลิตการแสดงเพื่อที่จะเรียกเงินจากประชาชน
ที่การมีโค๊ช 4 คน ก็เปรียบเหมือนค่ายเพลงยักใหญ่ทั้ง 4 คือ
Universal Music group, Sony Music Entertainment, Warner Music Group และ EMI
ในรอบแรก / Blind audition
ก็เปรียบเหมือนผู้สมัคร อัดเสียงตัวเองไปให้แต่ละค่ายเลือก ว่ามีใครสนใจเสียงของเราหรือไม่
ถ้ามีค่ายไหนสนใจ นักร้องก็มีอำนาจที่จะเลือกค่ายที่ตัวเองถูกใจมากที่สุดก่อน
ในรอบสองและสาม / Battle และ Knock out
ก็เปรียบเหมือนการคัดคนของแต่ล่ะค่าย ซึ่งแต่ละค่ายก็จะมองหาคนที่มีโอกาสสร้างชื่อเสียง สร้างเม็ดเงินได้มากที่สุด
บางค่ายดูที่เสียง บางค่ายดูที่การแสดงออกและการentertainคนดู ของผู้แข่งขันแต่ละท่าน
กฎการ Steal ที่เพิ่มมาก็คือ เมื่อค่ายไม่ต่อสัญญากับศิลปินแล้ว ศิลปินก็มีสิทธิ์ที่จะไปสมัครที่อื่น
ถ้ายังมีค่ายอื่นที่ให้ความสนใจเราก็ยังมีโอกาสที่จะร้องเพลงให้กับค่ายยักใหญ่
ในรอบสุดท้าย / รอบ live
ก็คือการที่ค่ายเพลงต่างๆ ต้องนำศิลปินมาออกเทป จัดการแสดง จัดคอนเสริต์
หรือเรียกง่ายๆว่าหาเงินนั่นแหละ ตอนนี้ผู้ชมก็จะมามีส่วนเกี่ยวแล้วเพราะผลโหวต
ก็คือผลของผู้ที่จะยอมจ่ายเงินเพื่อศิลปินที่ตนเองชื่นชอบ
ผลการตัดสินว่าใครได้โหวตมากกว่ากัน ก็คือใครขายเพลงได้มากกว่ากัน
เพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่าคนที่ได้ที่1 อาจจะไม่ใช่คนที่แสดงได้ดีสุด ร้องเพลงได้ดีที่สุด
แต่ที่1 คือคนที่มีคนซื้อเพลงของเขามากที่สุด