Day 0 เมื่อฉันกลายเป็นอาชญากรข้ามพรมแดน...

บังเอิญลูกสาวได้เขียนรวบรวมประสบการณ์การไปเที่ยวญี่ปุ่น
ให้คนที่บ้านติดตามอ่านความเป็นไป เห็นว่าน่ารักดี
เลยเอามาฝากเพื่อนๆค่ะ //แม่กุ้ง ดอกไม้

* *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  * *  *


Day 0 เมื่อฉันกลายเป็นอาชญากรข้ามพรมแดน...

December 6, 2013 at 9:52pm

เรื่องนี้เรียกได้ว่าเขียนเสร็จ คุณพ่อคุณแม่พี่ป้าน้าอามาอ่านปุ๊บคงด่าเละ แต่ไม่เป็นไร บันทึกไว้ดีกว่า
อย่างน้อยครั้งหนึ่ง เราก็เคยผ่านมันมาแล้วนะ เค้าล้อเล่น
---------------------------------------------

Day 0

การเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นการเดินทางออกนอกประเทศคนเดียวเป็นครั้งแรกของกิ๊กกี้เลยก็ว่าได้ แถมโจทย์ยังโหดหิน เพราะไม่ใช่แค่ขึ้นเครื่อง นั่งดอง แล้วลง มีคนมารับฮาเฮเท่านั้น นี่ต้องไป Transit ที่ปักกิ่ง ประเทศจีนด้วย แต่ฟังครั้งแรกกิ๊กก็ว่าเฉยๆนะ ระดับกิ๊กกี้ละ คนอื่นทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ฟระ ก็เดินตามๆ เค้าไป เดี๋ยวก็ต้องถึงจนได้สิน่า

เนื่องจากความขึ้นชื่อเรื่องป้ำๆเป๋อๆ สติไม่มั่นคง โก๊ะโป๊ะทึ่ง ก็โดน “สามสาวบิ๊กทรีแห่งบ้านยายนิด”
เรียกไปกำชับกันคนละทีเรื่องการเช็คอิน transit ยัน immigration คนละรอบสองรอบ ตั้งแต่แม่กุ้ง ป้าหมู ยันยายนิด
จัดกระเป๋าเสร็จถูกแม่มาจัดเข้าจัดออกใหม่อีกไม่รู้กี่รอบ
และยังมีการให้คำแนะนำแก่ลูกผู้ไม่มีเซ้นส์ในการแต่งตัวสำเหนียกขึ้นมานิดนึงว่าเสื้อสีไหนควรใส่กับกางเกงตัวไหนตัวไหน
เสื้อทรงไหนควรคู่กับอะไร เราก็อืมๆ รับคำทุกคนอย่างเรียบร้อย ไม่มีปัญหา
ผ่านการ Orientation ครบถ้วนจากคนทั้งบ้าน \(*0*\)



ได้เวลาออกเดินทางจริง กิ๊กกี้ก็ฉลุยค่ะ เดินไปเดินมาขึ้นเครื่องสำเร็จ (เย่!) หมดเวรหมดกรรมไปครึ่งทาง
นั่งข้างลุงฝรั่งแก่ๆคนหนึ่งไปจนถึงปักกิ่ง อุตส่าห์โชคดีได้นั่งข้างหน้าต่างเพื่อจะได้สำรวจวิวทิวทัศน์รอบนอก
แต่เปล่าเลย... หลับตลอดทาง เยี่ยมจริงๆ แต่ไม่เป็นไรน่า เดี๋ยวมีอีกลำให้เราได้สอดส่องนี่หว่า

พอถึงปักกิ่ง ลูกกิ๊กก็ต้องเดินตามทางไป International Transit เนียนไปกับฝูงชน จนมาถึงป้ายๆหนึ่ง
จู่ๆทุกคนที่เดินมา ก็นั่งพักกันโซนนั้นกันหมด มีบางคนเดินเข้าไปโซน Immigration ประเทศจีน
ซึ่งเราไม่ได้จะเข้านี่หว่า ก็ตามน้ำ คนอื่นนั่งรอตรงนั้น เราก็นั่งรอไปละกัน
ปรับเวลาตามปักกิ่งเรียบร้อยแล้ว ขึ้นเครื่อง 8.05 เหลืออีกตั้ง 2 ชั่วโมง
นึกในใจว่าคนเค้าคงรอเวลา Transit มั้ง ถึงมานั่งกันตรงนี้ นั่งซักพัก ซักครู่... กิ๊กก็ผล็อยหลับไป

ตื่นมาอีกที 7.50 น. คร่า!!! หันไปมองซ้ายขวา คนหายกันไปหมดเลย!! เมื่อกี๊ (2 ชั่วโมงที่แล้ว... - -”)
ยังนั่งกองกันเต็มไปหมด ในใจตอนนั้นสบถอย่างหยาบคายไปแล้วว่า ‘เ-ี้ย!!!!’ เวรละ อีก 15 นาทีต้องขึ้นเครื่อง
กิ๊กก็เลยลองเดินเข้าไปประตูที่ตอนแรกเห็นเค้าเดินเข้าไปโซน Immigration กันเนี่ยแหละ
กะจะเข้าไปถามพนักงาน แต่ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นข้างๆ อ่าวเวร มี International Transit อยู่หลืบไกลๆ
แล้วยิ้มไม่มีป้ายบอกอะไรเลยห๊ะ!! (แต่คนอื่นเค้ารู้กัน เราไม่รู้เองสินะ...)
แถมพอวิ่งไปถึงไม่มีคนนั่งทำหน้าที่อยู่ตรงนั้นด้วย เวรซ้ำกรรมซ้อน
ต้องเข้าไปเรียก information ให้วอเรียกคนมาทำงาน

เลยรู้ว่าไอ้ตรงที่เราไปนั่งหลับ มันคือที่สำหรับทัวร์หรือคนที่มากันกลุ่มใหญ่ๆ
เค้ามายืนรอคนกันให้ครบเพื่อพาเดิน Transit กันต่อไป... ยิ้มชีวิต... จะไม่คิดตามน้ำอีกแล้ว
(ป๊า คุณแม่ ป้าหมู ยายนิดมาอ่าน คงด่ากิ๊กกันอยู่ในใจ เค้าล้อเล่น)
แต่สุดท้ายก็รอดมาได้นะ วิ่งมาราธอนไปถึงเกททันพอดี
นึกว่าจะต้องมาติดอยู่จีนอีกเป็นเดือน เกือบร้องไห้แล้วนะเนี่ย T^T

ขึ้นไปนั่งเครื่องบินเสร็จ ได้นั่งข้างหน้าต่างอีกแล้ว ไชโย...
แต่ด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการออกกำลังกายสุดชีวิตเมื่อครู่ ก็หลับตลอดทาง ตามเคย -..-
นั่งดองเหงื่อไปอีกแป๊ป ก็มาถึงญี่ปุ่นซักที! แอร์ญี่ปุ่นช่างน่ารัก วิศวกรเครื่องบินในเครื่องแบบก็หล่อ
ขนาดคุณลุงช่วยขนกระเป๋ายังเท่ห์ อรั๊ยยย ช่างเจริญหูเจริญตาเสียจริง กิ๊กเดินอย่างอารมณ์ดี
คิดในใจว่าชั้นบรรลุจุดหมายปลายทางแล้วสินะ~ ฮุฮิ~



ท้องฟ้าช่างแสนสวยงาม~


แต่เปล่าเลย... ตอน Immigration กลับชีวิตเน่าหนอนอีกครั้ง เมื่อคุณลุงพนักงานไม่ปล่อยให้กิ๊กเข้าประเทศ
แถมโทรเรียกคนมาพาเราไปสอบสวนด้วย!
เห่ย เห็นเด็กน้อยคนนี้เป็นอาชญากรหลบหนีเข้าประเทศไปได้ยังไงกัน!

ประเด็นเริ่มมาจาก คุณลุงพนักงานถามกิ๊กว่า ที่อยู่ของคนอ้างอิงในใบ Immigration นี่มันที่อยู่ของใคร?
กิ๊กจำได้ดีว่าแม่บอกไว้ตอน Orientation ที่บ้านว่า ถ้าเค้าถามให้ตอบไปว่า “โอก้าซัง โนะ โทโมดาจิ (เพื่อนแม่)”
เราก็ฟาดเลยภาษาญี่ปุ่นก็ญี่ปุ่นเถอะ โชว์เสียหน่อย อาคุงลุงพอเห็นพูดญี่ปุ่นได้ปุ๊บ
ลุงแกซัดภาษาญี่ปุ่นมาเป็นแถบ แรกๆเราก็พอจับความได้ อ่อ เพื่อนแม่เป็นคนญี่ปุ่นค่ะ
แม่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นค่ะ มาคนเดียวค่ะ แม่อยู่ไทยค่ะ ซักพักพอซัดมาเยอะๆ ก็ฟังไม่รู้เรื่อง
พยายามขอให้ลุงแกพูดอังกฤษ ลุงแกก็พูดภาษาบ้านแม่อยู่นั่นแหละ เราก็เริ่มเบลอไปไม่ถูก
เห็นคนอื่นเค้าแค่เปิดสมุดปั๊มๆ แสกนนิ้ว ถ่ายรูปแล้วออก
นี่ชั้นต้องมาทอล์คโชว์ไรก็ไม่รู้

จู่ๆกิ๊กก็นึกขึ้นได้ว่าแม่บอกไว้ว่า (เสียงสะท้อน รีเวิร์บเยอะๆ เหมือนผุดขึ้นในความทรงจำ)
‘จำไว้นะลูก ถ้าเค้าถามอะไรเยอะๆ ให้ยื่นจดหมายแผ่นนี้ให้เค้าดู’
กิ๊กก็ลงมือคว้าจดหมายรับรองจากเพื่อนแม่ราวกับโดเรม่อนควักของวิเศษออกมาพลัน!
คุณลุงดูกระดาษกิ๊กไปมาอยู่แป๊ปนึง ก็โทรศัพท์หาใครซักคนน้ำเสียงเคร่งเครียด แล้วจู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง
เดินมาพากิ๊กไปห้องสอบสวน! O_o!!?!

เวรละ... นี่เมื่อไหร่ชั้นจะบรรลุภารกิจถึงญี่ปุ่นเนี่ย แต่พอเจอลุงคนนี้สอบสวน
กิ๊กก็สงบปากสงบคำเลิกพูดภาษาญี่ปุ่นซักคำเดียวที่รู้จัก พี่แกจะได้ไม่ตอกภาษายุ่นกลับมารัวๆเหมือนลุงคนนั้น
และก็ค่อยยังชั่ว... พนักงานคนนี้พูดอังกฤษดีเลยนี่หว่า ได้ความจากลุงว่า เราบอกว่ามาคนเดียว
แต่ในกระดาษใบเนี้ยะ มันเขียนว่ามาสองคน อีกคนเนี่ย ชื่อคุณแม่ อ่อ... เราก็เก็ท
รู้ละว่าจะต้องตอบอะไร ชื่อคุณแม่ นี่แม่หนู เดี๋ยวแม่หนูตามมาทีหลังค่ะ
หนูมาเที่ยวเองก่อน พี่แกก็จิ้มคอมนู่นนี่แปป แล้วก็หันมาพยักหน้าโอเคให้

คาดว่าลุงคนที่แล้วเค้าคงสงสัยเรื่องแม่ เพราะแม่กิ๊กกับกิ๊กคนละนามสกุลกันมั้ง แบบ... เนี่ยแม่จริงหรอ
ไม่ใช่ให้ใครพาเข้าประเทศมาแล้วไปขายแรงงานต่างด้าวนะ แต่เค้าก็ไม่ได้ถามขนาดนั้นนะ เราลองเดาๆดูเอง
เพราะได้ข่าวว่าตั้งแต่เปิดให้ไม่ต้องขอวีซ่า ก็มีแรงงานไทยหายเข้าไปในประเทศเค้าเป็นพันๆคนแล้ว
ซึ่งอีกไม่นานเค้าก็คงยกเลิกการยกเว้นวีซ่าของพวกเราละล่ะ...

กิ๊กนั่งมึนๆ เก็บภาพความทรงจำของห้องสอบสวนไปมา
ซักพักพนักงานผู้ใจดีก็ปล่อยตัวให้เราเข้าไปประเทศเค้าซะที... TT^TT

ไขโยยยยยยยยย !!!!
Mission Complete!!!!!
\(*0*)/

ถึงญี่ปุ่นอย่างปลอดภัยละค่าาาาาาา~~~~

ป้าจุงโกะ (เพื่อนแม่...) มายืนรอรับพบปะกันอย่างชื่นบาน
แต่กว่าจะเสร็จภารกิจก็บ่ายสามตามเวลาญี่ปุ่น
วันนี้เลยไม่ได้ทำอะไรนอกจากแวะกินเค้ก แวะมหาลัยป้าจุงโกะ แล้วก็กลับบ้านป้าจุง


แวะกินเค้ก :3



มหาลัยสตรีที่ป้าจุงทำงาน



บ้านป้าจุง น้องๆ หนูๆ เต็มครัว *0*


หลังจากผ่านมหกรรมระทึก ก็ถือซะว่าขอผ่อนคลายซักนิดละกันนะ งุงิ

ก่อนนอนก็กินไม่มากหรอก แค่ Noodle ข้าวห่อ ข้าวปั้น ชอคโกแลต ผลไม้ โกโก้ร้อน
กับ ไวน์ขาว 2-3 จิบ แค่นั้นเอง :3



Noodle ฮ้อนๆ หลังฝ่าความหนาวเหน็บ >w<


เฮ้อ~~ บันทึกเสร็จซะที เตรียมนอน -0-!
zZZZZzZZZZzzzZZZZZZ

ในที่สุดการผจญภัยของเราก็จะเริ่มอย่างจริงจังแล้วสินะ!
พรุ่งนี้ Mission แรกที่ต้องทำในญี่ปุ่น ก็คือ

ไปช่วยญาติจัดห้อง...

แถมภาพที่ซุกหัวนอนเล็กน้อย



สะอาดไร้ที่ติ!


...
ก่อนไปช่วยเค้าจัด จัดการตัวเองก่อนดีไหมกิ๊กกี้!? TwT!?

ติดตามตอนต่อไปได้เจ้าค่ะ
Day 0 เมื่อฉันกลายเป็นอาชญากรข้ามพรมแดน...     http://ppantip.com/topic/31388877
Day 1 ทรัพย์สมบัติ ซูชิ พละกำลัง !!   http://ppantip.com/topic/31389109
Day 2 ชา ลา ลา~   http://ppantip.com/topic/31389233
Day 3 ฅ. ดล 3   http://ppantip.com/topic/31389940
Day 4 วันที่ฉันป่วย  http://ppantip.com/topic/31390333
Day 5&6 Cookie in Kanazawa   http://ppantip.com/topic/31390347
Day 7 & 8 ส.ว. on tour  http://ppantip.com/topic/31390359
Day 9 แดนหมีดำ http://ppantip.com/topic/31390371
Day 10と11 BeppuとYufuin   http://ppantip.com/topic/31399474
Day แถม ONEPIECE @ Huis ten bosch ฟินมว๊ากกกกก~~~~ !!!!! >0< !!!!!!  http://ppantip.com/topic/31408111
Day 12 ศึกลูฟี่หมวกฟาง ปะทะ กิ๊กกี้หัวฟู ONEPIECE @ Huis ten bosch  http://ppantip.com/topic/31409608
Day 13~15 Kicky King of Sushi  http://ppantip.com/topic/31417630
Day 16 ฟูจิ โมจิ เปอร์เซียจิ  http://ppantip.com/topic/31421929
Day 17 เปอร์ เต็ม ชั้น     http://ppantip.com/topic/31461915
Day 19 มือที่สอง   http://ppantip.com/topic/31461997
Day 20と21 โซ้ยแหลก @ Nikko  http://ppantip.com/topic/31462342
Day 23->22 ใจแตก @บาร์เกย์  http://ppantip.com/topic/31462536
Day 25.9~26.1 Special Day - Because it's New Year!  http://ppantip.com/topic/31466295
Day 26~27 feat. Ai Dokdak ปวดเกี๊ยะ ที่เกียวโต  http://ppantip.com/topic/31466446
Day 29 ตอนที่ 1 เสพติดศิลปะ ที่ Naoshima feat. Ai Dokdak http://ppantip.com/topic/31482396
Day 29 ตอนที่ 2 เสพติดศิลปะ ที่ Naoshima feat. Ai Dokdak http://ppantip.com/topic/31482430
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่