คำถาม/คำตอบ ที่น่ารู้เกี่ยวกับการจัดไฟแนนซ์รถยนต์ ขอสินเชื่อรถยนต์
1. จัดไฟแนนซ์รถยนต์/ สินเชื่อรถยนต์ เช่าซื้อรถรถยนต์ คืออะไร ?
การที่มีการซื้อขายรถยนต์ โดยผู้ซื้ออาจมีเงินดาวน์บางส่วนให้แก่ผู้ขาย ส่วนที่เหลือทำเรื่องกู้
กับบริษัทจัดไฟแนนซ์ โดยผ่อนชำระเป็นงวดพร้อมดอกเบี้ยให้แก่บริษัทจัดไฟแนนซ์
จนกว่าจะผ่อนครบ แล้วกรรมสิทธิ์จึงจะตกเป็นของผู้ซื้อ
2. กรณีใดบ้างที่สามารถจัดไฟแนนซ์รถยนต์ได้ ?
•รถซื้อจากเต้นท์ จำหน่ายรถยนต์มือสอง
•รถซื้อขายกันเองกับเพื่อน, คนรู้จัก หรือ บุคคลอื่น
•รถที่ตนเองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่แล้วต้องการนำมากู้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง หรือ ต้องการนำเงินไปลงทุนธุรกิจ (รีไฟแนนซ์รถยนต์) ยอดกู้ได้ประมาณ 70% ของราคาซื้อขาย
•รถที่ผ่อนอยู่กับไฟแนนซ์อื่น แต่ยังไม่ครบกำหนดสัญญา ต้องการย้ายไฟแนนซ์เพื่อยืดระยะเวลาให้ผ่อนน้อยลง และยังมีเงินเหลือเพื่อเพิ่มสภาพคล่องตนเองได้ (รีไฟแนนซ์) ยอดกู้ได้ประมาณ 70% ของราคาซื้อขาย
3. รถประเภทใดบ้างที่บริษัทรับจัดไฟแนนซ์
•รถเก๋ง ส่วนบุคคล ที่จดทะเบียนตั้งแต่ปี 1999 - ปัจจุบัน
•รถกระบะ ส่วนบุคคล ที่จดทะเบียนตั้งแต่ปี 1999 - ปัจจุบัน
•รถตู้ ส่วนบุคคล ที่จดทะเบียนตั้งแต่ปี 1999 - ปัจจุบัน
บริษัทขอสงวนสิทธิในการจัดไฟแนนซ์/ไม่จัดไฟแนนซ์ เฉพาะบางยี่ห้อ/บางรุ่นกรุณาสอบถามรายละเอียดกับบริษัท รถยี่ห้อ TOYOTA , HONDA ,ISUZU จะจัดไฟแนนซ์ได้ประมาณ 80% ของราคาซื้อขาย
4. รถที่นำไปติดแก๊ซ สามารถจัดไฟแนนซ์รถยนต์/เช่าซื้อรถยนต์ได้หรือไม่ ?
ได้ค่ะ บริษัทรับจัดไฟแนนซ์รถที่นำไปติดแก๊ซที่ได้ทำเรื่องตรวจที่ขนส่ง และได้มีการลงรายการในเล่มทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
5. วิธีการคำนวณค่างวดไฟแนนซ์/ เช่าซื้อ
หากราคารถอยู่ที่ 300,000 บาท ผู้ซื้อมีเงินดาวน์ 20% คือ 60,000 บาท ที่เหลือกู้ไฟแนนซ์ 240,000 บาท
- ดอกเบี้ย 5 % ต่อปี
- จำนวน 48 เดือน
ค่างวดก่อนภาษีมูลค่าเพิ่มจะเท่ากับ ((240,000 X 5% X 4) + 240,000) / 48
ซึ่งจะเท่ากับ 6,000 บาท
รวมภาษี 7% 420 บาท
เป็นค่างวด 6,420 บาท
6. ขั้นตอนการจัดไฟแนนซ์รถยนต์/ขอสินเชื่อ เช่าซื้อรถยนต์
•ลูกค้าแจ้งยี่ห้อ รุ่น ปี รถที่ต้องการซื้อ/ต้องการนำมากู้ หรือส่ง Fax เล่มทะเบียนมาที่บริษัท เพื่อให้เจ้าหน้าที่สินเชื่อ ประเมินยอดจัดให้ไฟแนนซ์ ซึ่งโดยปรกติประมาณ 70-80% ของราคาซื้อขาย ซึ่งเมื่อลูกค้าตกลงที่จะจัด จะต้องเตรียมเอกสารของตนเองและคนค้ำประกันเพื่อทำสัญญาเช่าซื้อ
•นัดเซ็นต์สัญญา และส่งมอบเอกสาร ซึ่งลูกค้าสามารถเข้ามาทำสัญญาที่บริษัทหรือจะให้พนักงานไปเซ็นต์นอกสถานที่ ได้ หากไม่สะดวกในการเดินทางมาที่บริษัท ซึ่งเจ้าหน้าที่สินเชื่อจะขอถ่ายรูปรถ และลอกลายเลขเครื่อง เลขถัง เพื่อประกอบการทำสัญญาด้วย
•รอผลการตรวจสอบ ประมาณ 2-3 วันทำการ
•เจ้าหน้าที่สินเชื่อจะแจ้งผลการอนุมัติ เพื่อขอเล่มทะเบียนตัวจริงไปโอนที่ขนส่ง เมือโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์เป็นของบริษัทแล้ว บริษัทจะจ่ายเช็คให้ผู้ขายรถทันที
7. หากมีเงินก้อนมาปิดบัญชีก่อนกำหนดจะมีส่วนลดให้หรือไม่ ?
หากลูกค้าประสงค์จะปิดสัญญาเช่าซื้อ ก่อนกำหนดจะมีส่วนลดดอกเบี้ยให้ 50% ของค่างวดที่เหลือ ( ตาม ส.ค.บ) เช่น ผ่อนมาแล้ว 20 งวด จาก 48 งวด ลูกค้าจะได้ส่วนลดดอกเบี้ย 50% ของ 28 งวดที่เหลือ
การรีไฟแนนซ์คืออะไร
การรีไฟแนนซ์ คือ การที่ผู้เช่าซื้อรถได้ทำการกู้เงินก้อนใหม่เพื่อไปใช้คืนเงินกู้ก้อนเก่า โดยผู้เช่าซื้อรถอาจได้รับประโยชน์ที่ดีกว่าจากเงินกู้ก้อนใหม่ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง แต่การรีไฟแนนซ์ที่ดี ผู้เช่าซื้อรถจะต้องคำนึงด้วยว่า ส่วนต่างจากดอกเบี้ยที่ลดลง เช่น เมื่อนำค่างวดเก่ามาหักจากค่างวดใหม่ คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในการรีไฟแนนซ์หรือไม่
ทั้งนี้ หากพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่า การขอสินเชื่อครั้งใหม่หรือการรีไฟแนนซ์ อาจทำให้ผู้เช่าซื้อรถพบปัญหาเกี่ยวกับเงื่อนไขในการปิดบัญชีสินเชื่อรถยนต์ก่อนกำหนดที่ทำไว้กับสถาบันการเงินเดิม โดยมักระบุว่า ผู้เช่าซื้อรถยังคงต้องจ่ายดอกเบี้ยตามสัญญาเดิมต่อแม้จะกู้สินเชื่อในสถาบันการเงินใหม่ ซึ่งนั่นเท่ากับว่า ผู้เช่าซื้อรถจะต้องจ่ายดอกเบี้ยซ้ำซ้อน ทั้งดอกเบี้ยที่เกิดจากสัญญากู้ใหม่และดอกเบี้ยที่ยังค้างอยู่กับสัญญากู้เดิมนั่นเอง
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์
ก่อนที่จะปิดบัญชีสินเชื่อเดิมเพื่อนำรถไปทำการขอสินเชื่อใหม่หรือรีไฟแนนซ์ ผู้เช่าซื้อรถต้องคำนวณว่า ดอกเบี้ยคงเหลือตามสัญญากู้เดิม เมื่อนำมาหักส่วนต่างกับดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นจากการกู้ใหม่ ถือว่าคุ้มค่าหรือไม่ นอกจากนี้ บริษัทที่รับรีไฟแนนซ์บางแห่งยังหักเงินงวดแรก (เงินต้น+ดอกเบี้ย) ที่ลูกค้าต้องผ่อนชำระอีก 1 งวด ณ วันที่อนุมัติเงินกู้ ทำให้หลังรีไฟแนนซ์รถจะเหลือเงินสดรับจริง ๆ ในจำนวนไม่มากนัก แต่จะทำให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระเงินยาวนานขึ้น ดังนั้น หากผู้เช่าซื้อมีความพร้อมในการชำระหนี้ หรือมีความชำนาญในการบริหารเงิน ก็คงไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวมากนัก
ซึ่งหลังจากที่ผู้เช่าซื้อมั่นใจแล้วว่า สามารถวางแผงในการผ่อนชำระค่างวดได้จนครบตามสัญญา ผู้เช่าซื้อสามารถติดต่อบริษัทรับจัดไฟแนนซ์ หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้ด้วยวิธีเดียวกัน ทั้งนี้ ไม่ว่าผู้เช่าซื้อจะทำการรีไฟแนนซ์กับบริษัทเดิมที่เคยทำสัญญาสินเชื่อไว้ หรือจะเลือกสถาบันการเงินแห่งใหม่ ผู้เช่าซื้อก็สามารถเจรจาต่อรองเพื่อขออัตราดอกเบี้ยพิเศษ หรือเรียกร้องข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการรีไฟแนนซ์ครั้งนี้ได้
จากข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์ที่กล่าวมาในข้างต้น สามารถสรุป ข้อดี ข้อเสีย ของการรีไฟแนนซ์ในภาพรวมได้ว่า...
ข้อดี ผู้กู้สินเชื่ออาจได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า ได้ขยายเวลาในการผ่อนชำระเพิ่ม และอาจมีส่วนต่างของเงินที่จะนำไปหมุนเพื่อใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัว
ข้อเสีย ผู้กู้สินเชื่ออาจต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม เช่น กรณีการเสียเบี้ยปรับในการปิดสินเชื่อเก่าเพื่อมาขอสินเชื่อใหม่ หรือการชำระดอกเบี้ยของสินเชื่อเก่า ที่ยังคงค้างอยู่หลังมีการกำหนดตายตัวไว้แล้ว
คำถาม/คำตอบ ที่น่ารู้เกี่ยวกับไฟแนนซ์รถยนต์ และ ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์
1. จัดไฟแนนซ์รถยนต์/ สินเชื่อรถยนต์ เช่าซื้อรถรถยนต์ คืออะไร ?
การที่มีการซื้อขายรถยนต์ โดยผู้ซื้ออาจมีเงินดาวน์บางส่วนให้แก่ผู้ขาย ส่วนที่เหลือทำเรื่องกู้
กับบริษัทจัดไฟแนนซ์ โดยผ่อนชำระเป็นงวดพร้อมดอกเบี้ยให้แก่บริษัทจัดไฟแนนซ์
จนกว่าจะผ่อนครบ แล้วกรรมสิทธิ์จึงจะตกเป็นของผู้ซื้อ
2. กรณีใดบ้างที่สามารถจัดไฟแนนซ์รถยนต์ได้ ?
•รถซื้อจากเต้นท์ จำหน่ายรถยนต์มือสอง
•รถซื้อขายกันเองกับเพื่อน, คนรู้จัก หรือ บุคคลอื่น
•รถที่ตนเองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อยู่แล้วต้องการนำมากู้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง หรือ ต้องการนำเงินไปลงทุนธุรกิจ (รีไฟแนนซ์รถยนต์) ยอดกู้ได้ประมาณ 70% ของราคาซื้อขาย
•รถที่ผ่อนอยู่กับไฟแนนซ์อื่น แต่ยังไม่ครบกำหนดสัญญา ต้องการย้ายไฟแนนซ์เพื่อยืดระยะเวลาให้ผ่อนน้อยลง และยังมีเงินเหลือเพื่อเพิ่มสภาพคล่องตนเองได้ (รีไฟแนนซ์) ยอดกู้ได้ประมาณ 70% ของราคาซื้อขาย
3. รถประเภทใดบ้างที่บริษัทรับจัดไฟแนนซ์
•รถเก๋ง ส่วนบุคคล ที่จดทะเบียนตั้งแต่ปี 1999 - ปัจจุบัน
•รถกระบะ ส่วนบุคคล ที่จดทะเบียนตั้งแต่ปี 1999 - ปัจจุบัน
•รถตู้ ส่วนบุคคล ที่จดทะเบียนตั้งแต่ปี 1999 - ปัจจุบัน
บริษัทขอสงวนสิทธิในการจัดไฟแนนซ์/ไม่จัดไฟแนนซ์ เฉพาะบางยี่ห้อ/บางรุ่นกรุณาสอบถามรายละเอียดกับบริษัท รถยี่ห้อ TOYOTA , HONDA ,ISUZU จะจัดไฟแนนซ์ได้ประมาณ 80% ของราคาซื้อขาย
4. รถที่นำไปติดแก๊ซ สามารถจัดไฟแนนซ์รถยนต์/เช่าซื้อรถยนต์ได้หรือไม่ ?
ได้ค่ะ บริษัทรับจัดไฟแนนซ์รถที่นำไปติดแก๊ซที่ได้ทำเรื่องตรวจที่ขนส่ง และได้มีการลงรายการในเล่มทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
5. วิธีการคำนวณค่างวดไฟแนนซ์/ เช่าซื้อ
หากราคารถอยู่ที่ 300,000 บาท ผู้ซื้อมีเงินดาวน์ 20% คือ 60,000 บาท ที่เหลือกู้ไฟแนนซ์ 240,000 บาท
- ดอกเบี้ย 5 % ต่อปี
- จำนวน 48 เดือน
ค่างวดก่อนภาษีมูลค่าเพิ่มจะเท่ากับ ((240,000 X 5% X 4) + 240,000) / 48
ซึ่งจะเท่ากับ 6,000 บาท
รวมภาษี 7% 420 บาท
เป็นค่างวด 6,420 บาท
6. ขั้นตอนการจัดไฟแนนซ์รถยนต์/ขอสินเชื่อ เช่าซื้อรถยนต์
•ลูกค้าแจ้งยี่ห้อ รุ่น ปี รถที่ต้องการซื้อ/ต้องการนำมากู้ หรือส่ง Fax เล่มทะเบียนมาที่บริษัท เพื่อให้เจ้าหน้าที่สินเชื่อ ประเมินยอดจัดให้ไฟแนนซ์ ซึ่งโดยปรกติประมาณ 70-80% ของราคาซื้อขาย ซึ่งเมื่อลูกค้าตกลงที่จะจัด จะต้องเตรียมเอกสารของตนเองและคนค้ำประกันเพื่อทำสัญญาเช่าซื้อ
•นัดเซ็นต์สัญญา และส่งมอบเอกสาร ซึ่งลูกค้าสามารถเข้ามาทำสัญญาที่บริษัทหรือจะให้พนักงานไปเซ็นต์นอกสถานที่ ได้ หากไม่สะดวกในการเดินทางมาที่บริษัท ซึ่งเจ้าหน้าที่สินเชื่อจะขอถ่ายรูปรถ และลอกลายเลขเครื่อง เลขถัง เพื่อประกอบการทำสัญญาด้วย
•รอผลการตรวจสอบ ประมาณ 2-3 วันทำการ
•เจ้าหน้าที่สินเชื่อจะแจ้งผลการอนุมัติ เพื่อขอเล่มทะเบียนตัวจริงไปโอนที่ขนส่ง เมือโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์เป็นของบริษัทแล้ว บริษัทจะจ่ายเช็คให้ผู้ขายรถทันที
7. หากมีเงินก้อนมาปิดบัญชีก่อนกำหนดจะมีส่วนลดให้หรือไม่ ?
หากลูกค้าประสงค์จะปิดสัญญาเช่าซื้อ ก่อนกำหนดจะมีส่วนลดดอกเบี้ยให้ 50% ของค่างวดที่เหลือ ( ตาม ส.ค.บ) เช่น ผ่อนมาแล้ว 20 งวด จาก 48 งวด ลูกค้าจะได้ส่วนลดดอกเบี้ย 50% ของ 28 งวดที่เหลือ
การรีไฟแนนซ์คืออะไร
การรีไฟแนนซ์ คือ การที่ผู้เช่าซื้อรถได้ทำการกู้เงินก้อนใหม่เพื่อไปใช้คืนเงินกู้ก้อนเก่า โดยผู้เช่าซื้อรถอาจได้รับประโยชน์ที่ดีกว่าจากเงินกู้ก้อนใหม่ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง แต่การรีไฟแนนซ์ที่ดี ผู้เช่าซื้อรถจะต้องคำนึงด้วยว่า ส่วนต่างจากดอกเบี้ยที่ลดลง เช่น เมื่อนำค่างวดเก่ามาหักจากค่างวดใหม่ คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในการรีไฟแนนซ์หรือไม่
ทั้งนี้ หากพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่า การขอสินเชื่อครั้งใหม่หรือการรีไฟแนนซ์ อาจทำให้ผู้เช่าซื้อรถพบปัญหาเกี่ยวกับเงื่อนไขในการปิดบัญชีสินเชื่อรถยนต์ก่อนกำหนดที่ทำไว้กับสถาบันการเงินเดิม โดยมักระบุว่า ผู้เช่าซื้อรถยังคงต้องจ่ายดอกเบี้ยตามสัญญาเดิมต่อแม้จะกู้สินเชื่อในสถาบันการเงินใหม่ ซึ่งนั่นเท่ากับว่า ผู้เช่าซื้อรถจะต้องจ่ายดอกเบี้ยซ้ำซ้อน ทั้งดอกเบี้ยที่เกิดจากสัญญากู้ใหม่และดอกเบี้ยที่ยังค้างอยู่กับสัญญากู้เดิมนั่นเอง
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์
ก่อนที่จะปิดบัญชีสินเชื่อเดิมเพื่อนำรถไปทำการขอสินเชื่อใหม่หรือรีไฟแนนซ์ ผู้เช่าซื้อรถต้องคำนวณว่า ดอกเบี้ยคงเหลือตามสัญญากู้เดิม เมื่อนำมาหักส่วนต่างกับดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นจากการกู้ใหม่ ถือว่าคุ้มค่าหรือไม่ นอกจากนี้ บริษัทที่รับรีไฟแนนซ์บางแห่งยังหักเงินงวดแรก (เงินต้น+ดอกเบี้ย) ที่ลูกค้าต้องผ่อนชำระอีก 1 งวด ณ วันที่อนุมัติเงินกู้ ทำให้หลังรีไฟแนนซ์รถจะเหลือเงินสดรับจริง ๆ ในจำนวนไม่มากนัก แต่จะทำให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระเงินยาวนานขึ้น ดังนั้น หากผู้เช่าซื้อมีความพร้อมในการชำระหนี้ หรือมีความชำนาญในการบริหารเงิน ก็คงไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวมากนัก
ซึ่งหลังจากที่ผู้เช่าซื้อมั่นใจแล้วว่า สามารถวางแผงในการผ่อนชำระค่างวดได้จนครบตามสัญญา ผู้เช่าซื้อสามารถติดต่อบริษัทรับจัดไฟแนนซ์ หรือสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้ด้วยวิธีเดียวกัน ทั้งนี้ ไม่ว่าผู้เช่าซื้อจะทำการรีไฟแนนซ์กับบริษัทเดิมที่เคยทำสัญญาสินเชื่อไว้ หรือจะเลือกสถาบันการเงินแห่งใหม่ ผู้เช่าซื้อก็สามารถเจรจาต่อรองเพื่อขออัตราดอกเบี้ยพิเศษ หรือเรียกร้องข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการรีไฟแนนซ์ครั้งนี้ได้
จากข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์ที่กล่าวมาในข้างต้น สามารถสรุป ข้อดี ข้อเสีย ของการรีไฟแนนซ์ในภาพรวมได้ว่า...
ข้อดี ผู้กู้สินเชื่ออาจได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า ได้ขยายเวลาในการผ่อนชำระเพิ่ม และอาจมีส่วนต่างของเงินที่จะนำไปหมุนเพื่อใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัว
ข้อเสีย ผู้กู้สินเชื่ออาจต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม เช่น กรณีการเสียเบี้ยปรับในการปิดสินเชื่อเก่าเพื่อมาขอสินเชื่อใหม่ หรือการชำระดอกเบี้ยของสินเชื่อเก่า ที่ยังคงค้างอยู่หลังมีการกำหนดตายตัวไว้แล้ว