เมื่อวานบังเอิญไปเจอกระทู้นี้ของคุณ foren 161 เข้า
http://ppantip.com/topic/30692204
สรุปสั้นๆ ว่าเกี่ยวกับผู้ชายน่ารักๆคนหนึ่ง ที่เลือกจะเติมความหวานให้ชีวิตคู่ ด้วยการมอบดอกกุหลาบให้คู่ชีวิต
(พิมพ์สรุปมาแบบนี้แลดูธรรมดาไปเลย แต่หากใครไม่เคยอ่าน ลองอ่านดูนะคะ น่ารัก น่าประทับใจมากค่ะ)
อ่านแล้วกลายเป็นแรงบันดาลใจของเหตุการณ์ในวันนี้เลยค่ะ
กระทู้นั้นทำให้ฉันเริ่มย้อนกลับมามองตัวเอง
อืม... พักนี้เรากับแฟนต่างคนก็ต่างยุ่งๆกันทั้งคู่เนอะ ถึงทำงานที่เดียวกันแต่ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลย
จากปกติกินข้าวด้วยกันแทบทุกมื้อในวันที่ไปทำงาน พักนี้ก็ต่างคนต่างกินเสียส่วนใหญ่
จากที่เคยโทรคุยกัน แชทกัน บ่อยๆ เวลาไม่ได้เจอกัน ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้ทำ
จากที่เคยไปกินข้าวข้างนอก ไปดูหนัง ไปเที่ยว ฟังเพลง ร้องเกะด้วยกัน เดี๋ยวนี้ก็แทบไม่ได้ไป
บางที่ก็เห็นเขาเครียดๆ ไม่ค่อยร่าเริงเหมือนปกติเลย
นี่ก็ปลอบใคร/พูดหวานๆอะไรไม่เก่งด้วยนะ (ตามประสาคู่กวน คู่กัด)
เอ... แล้วจะทำยังไงดีล่ะ ที่จะให้กำลังใจกัน ให้รู้ว่าเขายังมีฉัน เรายังมีกัน
ยิ่งรวมกับพักนี้ได้เสพแต่กระทู้ประเภทชีวิตคู่มีปัญหา ผู้ชายไปมีคนใหม่
ขณะที่เดชะบุญ คุณแฟนเราไม่เคยทำตัวมีปัญหาอะไรแบบนั้น แล้วรู้สึกซึ้งใจ
อยากขอบคุณเขาด้วยที่ดูแลอย่างดี อยู่เคียงข้างกันตลอดมา แต่ปกติไม่เคยพูดตรงๆ เพราะเขินอยู่
ถึงจะกวนกันบ่อย กัดกันบ้าง แต่ก็รับรู้ได้ว่าเขาห่วงเรามาก
ยิ่ง 2 บรรทัดสุดท้ายของกระทู้นั้น เขียนไว้ว่า
"...ต่างคนต่างก็เขินอาย เพราะอายุที่มากขึ้น ....
ถ้า เราไม่เริ่มก่อน ..อีกฝ่ายก็ไม่รู้จะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่..."
นี่ความคิดเจิด เกิดแรงฮึดเลยค่ะ
อยากได้กุหลาบสักดอก มาให้คุณแฟนบ้างจัง น่าจะเป็นกำลังใจที่ดี
และน่าจะเป็นสิ่งที่แทนคำพูด แทนความรู้สึกดีๆได้มากมาย
ว่าแต่... จะไปให้ตอนไหนล่ะ
อย่างกับพ่อเจ้าประคุณจะรู้เห็นเป็นใจ เมื่อเช้าโทรมาแต่เช้า ชวนไปกินข้าว
นี่ก็เอาเลยนะ ถึงที่ทำงานปุ๊บ เดินดุ่มๆ ไปหาซื้อดอกไม้เลยค่ะ
ทั้งที่ไม่ใช่วันเกิดของฉันหรือเขา ไม่ใช่วันครบรอบอะไรของเราเลย
'จะบ้าหรอ ดอกไม้จะไปเข้ากับผู้ชายได้ยังไง'
ความคิดเจ้ากรรม มาโผล่อะไรเอาตอนนี้
สาวเท้าต่อไป อย่านะ อย่าให้ความคิดเราชักใบให้เรือเสีย
เอ... แต่ก็น่าคิดเนอะ ดอกไม้? ให้ผู้ชายเนี่ยนะ?
ปกติมีแต่ผู้ชายให้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ นี่หล่อนเป็นผู้หญิงนะ!!!
เอาน่า... ไหนๆก็ตั้งใจแล้ว ลองดูสักตั้ง จัดไปอย่าให้เสีย
ณ ร้านดอกไม้
คนขายบอกว่า 5 ดอก 20.-
ฉันถามไปว่า ดอกเดียวได้ไหมคะ
คนขายว่าได้ ช่วยเลือกอีกแหนะ
แล้วก็ได้มา 1 ดอกสมใจ ดอกที่มองแวบแรกแล้วสะดุดตาเราที่สุด คิดว่าสวยที่สุดในร้านนั่นล่ะ
(ทั้งที่แต่ละดอกก็ไม่ค่อยต่างกันหรอกนะ มโนไปเองว่า "สวยสุด" ว่างั้น)
พอจะจ่ายตัง คนขายบอกว่านิดเดียวเอง เอาไปเถอะ! (สรุปว่าฟรีค่าาาาา กราบงามๆไป 1 ที)
ตอนเดินไปซื้อน่ะไฟต์ ตอนเดินกลับตึกนี่สิ กลัวไปหมด
กลัวจะมีคนรู้จักมาเห็น กลัวใครจะมาแซว
แล้วไคลแมกซ์ของเรื่องก็มาถึง
พ่อเจ้าประคุณมายืนรอหน้าตึก (โชคดีอยู่ตึกเล็ก ยังเช้า ยิ่งไม่มีคนมารู้ มาเห็น มาแซว)
นี่ก็รีบซ่อนดอกไม้ไว้ข้างหลังเลย ก่อนจะเดินไปหา
อ้อ... ที่ต้องซ่อนเพราะ
1. กลัวไม่เซอร์ไพรซ์
2. ฮีขี้หึงและหวงมากกกกก กลัวฮีอารมณ์บูด เพราะเข้าใจว่าชายอื่นให้มา เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ="=
สภาพที่เห็นตอนเดินไปหาคือ ฮียืนรอ ตากแดด ทำหน้านิ่งๆ ปนยู่ๆ (เพราะร้อน) หน่อยๆ แล้วพูดมาคำว่า "ช้า"
อ้าว... ฉากแรกก็ไม่สวยแล้วอะ ปกติเวลาเจอกันฮีจะยิ้มให้ก่อนนะ
นี่ก็ใจเต้น ตึ๊กๆๆๆๆ เหมือนตอนสบตาเขาตอนเพิ่งรู้จักกันใหม่ๆ เกิดมาเคยให้ดอกไม้ผู้ชายที่ไหนเล่า
(ถ้าไม่นับเอาพวงมาลัยไปไหว้พ่อในวันพ่อ)
(เออ... ผู้หญิงคนอื่นเขาก็คงไม่เคยให้ดอกไม้ผู้ชายเหมือนกันนะหล่อน)
เขินอะ ไม่กล้าให้ ชวนคุยนู่นนี่ แก้เก้อไปเรื่อย
และแล้วในที่สุดก็รวบรวมความกล้า กลั้นใจ ยื่นให้
ชี: "อ้ะ! ให้! วันนี้ทำตัวน่ารัก ไม่ต้องให้เค้าโทรปลุก"
ฮี: "อะไร เด็ดมาจากข้างทางที่ไหนเนี่ย" (หน้าอึ้งๆ งงๆ ก้มหน้างุดๆ)
ชี: "บ้าหรอ คนเค้าอุตส่าห์ไปเดินหามาถึงร้าน...โน่นนนน"
(เริ่มใจแป้ว ก้มหน้าทำไมอะ หาว่าดอกไม้เราเด็ดมาจากข้างทางด้วย ไม่ชอบหรอ ทำไงดีอะ)
ชี: "เอาไว้ดูต่างหน้าละกัน เดี๋ยวเค้าก็จะไม่อยู่ ไม่ได้ไปเชียร์ตัวแข่ง"
(หน้าเริ่มเสีย เริ่มไปไม่เป็นแล้ว น้ำตาจะซึมแล้วนะ คนเค้าตั้งใจหามาให้อะ แต่ก็ฝืนพูดต่อ
เรื่องของเรื่องคือเขากำลังจะมีแข่งกีฬาด้วย ช่วงนี้เลยซ้อมหนักหน่อย
วันแข่งเราก็ติดงาน ไปเชียร์ไม่ได้ แต่ก็อยากให้กำลังใจเขา)
ฮี: "หู้ยยยยยย ต่างหน้าไรล่ะ อีกตั้งหลายวัน ป่านนั้นทิ้งไปละ" (ระหว่างนั้นฮีก็เผลอหันหน้ามาหา)
ดู๊... ดูฮีพูด (บอกแล้วววว ว่าเป็นคู่กวน คู่กัด)
แต่... ใบหน้ายิ้มนะเจ้าคะ
นั่น! นั่น! เห็นนะ หน้าแบบนั้น ยิ้มแบบนั้น ไม่ได้เห็นมานานแล้ววววว
ฮี "เขิน" เจ้าค่าาาาาาา!!!
(นี่ก็ปลื้มที่เขาประทับใจ)
เป็นอันว่า mission complete ค่าาาาาา
และ complete แบบเหนือความคาดหมายมากๆด้วย
ตอนแรกนึกว่าอย่างมากฮีก็แค่ยิ้ม แต่นี่ "เขิน" ชนิด "ไม่สามารถปิดบังได้" เลยค่ะ
หาดูชมได้ยากนะนี่ ชีวิตนี้เคยเห็นแค่ไม่กี่ครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ทำงานอย่างมีความสุข อารมณ์ดีทั้งวัน (เพิ่งสัมภาษณ์มา หุๆ)
ส่วนตัวฉันเองก็จำใบหน้าเขินๆของเขาเมื่อเช้านี้ได้ติดตา นึกถึงทีไรก็ยิ้มได้ทุกที ก็มีความสุขอารมณ์ดีตามไปอีกคน
คือที่เล่ามาทั้งหมดนี้ก็แค่...
อยากขอบคุณต้นเรื่อง ต้นไอเดีย
ขอบคุณคุณ foren 161 มากๆค่ะ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้
ขอบคุณที่เรื่องราวของคุณเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้วันธรรมดาๆของเรา กลายเป็นวันพิเศษอีกวัน
และอยากแชร์ให้เป็นตัวอย่างกับคู่อื่นๆ
บางทีแต่ละคู่ก็มีโมเม้นท์นี้เนอะ แบบต่างฝ่ายต่างยุ่งๆ อาจมีช่วงที่เฉยๆ เงียบๆ ห่างๆกันไปบ้าง
แต่ถามว่ายังรักกันไหม ก็รัก ยังรู้สึกดีต่อกันไหม ก็ใช่ แต่ก็ยังปล่อยให้ทุกๆวันดำเนินไปตามปกติของมัน
คือไม่อยากให้ใครต้อง "ชิน" กับความห่าง ความเฉย ความยุ่งวุ่นวายของชีวิต ที่ดูน่าจะเป็นเรื่องปกติ
เพราะถ้าเราชินกับสิ่งแบบนี้ไปนานๆ ความหวานอาจจะน้อยลง แล้วจะทำให้เรา(รู้สึกเหมือนว่า)รักกันน้อยลง
เพราะความเคยชินกับระยะห่างที่เกิดขึ้น แล้วสุดท้ายก็จะเบื่อกันไปเอง ทั้งที่จริงๆแล้ว รักเราไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
คุณอาจจะคิดว่า ไม่เห็นเป็นไรนี่ คู่เราเข้าใจกัน รักกันดี ไม่ว่าอะไรกันอยู่แล้ว
แล้วคุณรู้ได้ไงว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร เข้าใจบนความเหงาที่อีกฝ่ายไม่มีเวลาให้หรือเปล่า?
รักกันบนความน้อยใจที่อีกฝ่ายไม่ค่อยได้สนใจหรือเปล่า?
อย่าให้คำว่า "ไม่เป็นไร" มาทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณรัก คุณแคร์เขาน้อยลง (ทั้งที่จริงๆ ต่างฝ่ายต่างก็รักและแคร์กันเท่าเดิม)
นี่เป็นเพียงอีกตัวอย่างเล็กๆ ที่แสดงให้เห็นว่า การแสดงออกว่ายังรัก ยังแคร์กัน ยังมีกันและกัน
ไม่ต้องใช้เงินทองมากมายอะไรมาแลกเลย (ในกรณีนี้ไม่ใช่แค่ "ใช้เงินไม่มาก" แต่ "ไม่ได้ใช้เงินเลย")
"เงิน" ไม่ใช่สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกดีๆที่แต่ละคู่มีให้กัน
มันเป็นเพียงแต่ สิ่งที่ใช้หา ใช้แลก สื่อกลางที่จะส่งผ่านความรู้สึกเหล่านั้น
แต่ความตั้งใจ ความจริงใจต่างหาก ที่จะสะท้อนความรู้สึกดีๆต่อกันได้ดีที่สุด
ในวันนี้ยังมีโอกาสที่จะทำให้กันอยู่ ทำเสียเถอะค่ะ อย่ารอว่าโอกาสพิเศษค่อยทำ
ไม่มีใครรู้หรอกว่ากว่าจะถึงโอกาสพิเศษคราวหน้า คุณจะยังมี "โอกาส" ได้ทำสิ่งที่ตั้งใจจะทำอยู่หรือเปล่า
ตราบที่ยังมีลมหายใจ ทำทุกวันให้เป็นวันพิเศษกันเถอะค่ะ
เป็นกำลังใจให้ทุกๆคน เริ่มต้น "วันพิเศษ" (ที่มีได้ทุกวัน) ของแต่ละคนกันนะคะ
ใครว่าผู้หญิงคู่กับดอกไม้ แล้วผู้ชายล่ะ คู่กับดอกไม้ได้หรือเปล่า?
http://ppantip.com/topic/30692204
สรุปสั้นๆ ว่าเกี่ยวกับผู้ชายน่ารักๆคนหนึ่ง ที่เลือกจะเติมความหวานให้ชีวิตคู่ ด้วยการมอบดอกกุหลาบให้คู่ชีวิต
(พิมพ์สรุปมาแบบนี้แลดูธรรมดาไปเลย แต่หากใครไม่เคยอ่าน ลองอ่านดูนะคะ น่ารัก น่าประทับใจมากค่ะ)
อ่านแล้วกลายเป็นแรงบันดาลใจของเหตุการณ์ในวันนี้เลยค่ะ
กระทู้นั้นทำให้ฉันเริ่มย้อนกลับมามองตัวเอง
อืม... พักนี้เรากับแฟนต่างคนก็ต่างยุ่งๆกันทั้งคู่เนอะ ถึงทำงานที่เดียวกันแต่ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลย
จากปกติกินข้าวด้วยกันแทบทุกมื้อในวันที่ไปทำงาน พักนี้ก็ต่างคนต่างกินเสียส่วนใหญ่
จากที่เคยโทรคุยกัน แชทกัน บ่อยๆ เวลาไม่ได้เจอกัน ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้ทำ
จากที่เคยไปกินข้าวข้างนอก ไปดูหนัง ไปเที่ยว ฟังเพลง ร้องเกะด้วยกัน เดี๋ยวนี้ก็แทบไม่ได้ไป
บางที่ก็เห็นเขาเครียดๆ ไม่ค่อยร่าเริงเหมือนปกติเลย
นี่ก็ปลอบใคร/พูดหวานๆอะไรไม่เก่งด้วยนะ (ตามประสาคู่กวน คู่กัด)
เอ... แล้วจะทำยังไงดีล่ะ ที่จะให้กำลังใจกัน ให้รู้ว่าเขายังมีฉัน เรายังมีกัน
ยิ่งรวมกับพักนี้ได้เสพแต่กระทู้ประเภทชีวิตคู่มีปัญหา ผู้ชายไปมีคนใหม่
ขณะที่เดชะบุญ คุณแฟนเราไม่เคยทำตัวมีปัญหาอะไรแบบนั้น แล้วรู้สึกซึ้งใจ
อยากขอบคุณเขาด้วยที่ดูแลอย่างดี อยู่เคียงข้างกันตลอดมา แต่ปกติไม่เคยพูดตรงๆ เพราะเขินอยู่
ถึงจะกวนกันบ่อย กัดกันบ้าง แต่ก็รับรู้ได้ว่าเขาห่วงเรามาก
ยิ่ง 2 บรรทัดสุดท้ายของกระทู้นั้น เขียนไว้ว่า
"...ต่างคนต่างก็เขินอาย เพราะอายุที่มากขึ้น ....
ถ้า เราไม่เริ่มก่อน ..อีกฝ่ายก็ไม่รู้จะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่..."
นี่ความคิดเจิด เกิดแรงฮึดเลยค่ะ
อยากได้กุหลาบสักดอก มาให้คุณแฟนบ้างจัง น่าจะเป็นกำลังใจที่ดี
และน่าจะเป็นสิ่งที่แทนคำพูด แทนความรู้สึกดีๆได้มากมาย
ว่าแต่... จะไปให้ตอนไหนล่ะ
อย่างกับพ่อเจ้าประคุณจะรู้เห็นเป็นใจ เมื่อเช้าโทรมาแต่เช้า ชวนไปกินข้าว
นี่ก็เอาเลยนะ ถึงที่ทำงานปุ๊บ เดินดุ่มๆ ไปหาซื้อดอกไม้เลยค่ะ
ทั้งที่ไม่ใช่วันเกิดของฉันหรือเขา ไม่ใช่วันครบรอบอะไรของเราเลย
'จะบ้าหรอ ดอกไม้จะไปเข้ากับผู้ชายได้ยังไง'
ความคิดเจ้ากรรม มาโผล่อะไรเอาตอนนี้
สาวเท้าต่อไป อย่านะ อย่าให้ความคิดเราชักใบให้เรือเสีย
เอ... แต่ก็น่าคิดเนอะ ดอกไม้? ให้ผู้ชายเนี่ยนะ?
ปกติมีแต่ผู้ชายให้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ นี่หล่อนเป็นผู้หญิงนะ!!!
เอาน่า... ไหนๆก็ตั้งใจแล้ว ลองดูสักตั้ง จัดไปอย่าให้เสีย
ณ ร้านดอกไม้
คนขายบอกว่า 5 ดอก 20.-
ฉันถามไปว่า ดอกเดียวได้ไหมคะ
คนขายว่าได้ ช่วยเลือกอีกแหนะ
แล้วก็ได้มา 1 ดอกสมใจ ดอกที่มองแวบแรกแล้วสะดุดตาเราที่สุด คิดว่าสวยที่สุดในร้านนั่นล่ะ
(ทั้งที่แต่ละดอกก็ไม่ค่อยต่างกันหรอกนะ มโนไปเองว่า "สวยสุด" ว่างั้น)
พอจะจ่ายตัง คนขายบอกว่านิดเดียวเอง เอาไปเถอะ! (สรุปว่าฟรีค่าาาาา กราบงามๆไป 1 ที)
ตอนเดินไปซื้อน่ะไฟต์ ตอนเดินกลับตึกนี่สิ กลัวไปหมด
กลัวจะมีคนรู้จักมาเห็น กลัวใครจะมาแซว
แล้วไคลแมกซ์ของเรื่องก็มาถึง
พ่อเจ้าประคุณมายืนรอหน้าตึก (โชคดีอยู่ตึกเล็ก ยังเช้า ยิ่งไม่มีคนมารู้ มาเห็น มาแซว)
นี่ก็รีบซ่อนดอกไม้ไว้ข้างหลังเลย ก่อนจะเดินไปหา
อ้อ... ที่ต้องซ่อนเพราะ
1. กลัวไม่เซอร์ไพรซ์
2. ฮีขี้หึงและหวงมากกกกก กลัวฮีอารมณ์บูด เพราะเข้าใจว่าชายอื่นให้มา เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ="=
สภาพที่เห็นตอนเดินไปหาคือ ฮียืนรอ ตากแดด ทำหน้านิ่งๆ ปนยู่ๆ (เพราะร้อน) หน่อยๆ แล้วพูดมาคำว่า "ช้า"
อ้าว... ฉากแรกก็ไม่สวยแล้วอะ ปกติเวลาเจอกันฮีจะยิ้มให้ก่อนนะ
นี่ก็ใจเต้น ตึ๊กๆๆๆๆ เหมือนตอนสบตาเขาตอนเพิ่งรู้จักกันใหม่ๆ เกิดมาเคยให้ดอกไม้ผู้ชายที่ไหนเล่า
(ถ้าไม่นับเอาพวงมาลัยไปไหว้พ่อในวันพ่อ)
(เออ... ผู้หญิงคนอื่นเขาก็คงไม่เคยให้ดอกไม้ผู้ชายเหมือนกันนะหล่อน)
เขินอะ ไม่กล้าให้ ชวนคุยนู่นนี่ แก้เก้อไปเรื่อย
และแล้วในที่สุดก็รวบรวมความกล้า กลั้นใจ ยื่นให้
ชี: "อ้ะ! ให้! วันนี้ทำตัวน่ารัก ไม่ต้องให้เค้าโทรปลุก"
ฮี: "อะไร เด็ดมาจากข้างทางที่ไหนเนี่ย" (หน้าอึ้งๆ งงๆ ก้มหน้างุดๆ)
ชี: "บ้าหรอ คนเค้าอุตส่าห์ไปเดินหามาถึงร้าน...โน่นนนน"
(เริ่มใจแป้ว ก้มหน้าทำไมอะ หาว่าดอกไม้เราเด็ดมาจากข้างทางด้วย ไม่ชอบหรอ ทำไงดีอะ)
ชี: "เอาไว้ดูต่างหน้าละกัน เดี๋ยวเค้าก็จะไม่อยู่ ไม่ได้ไปเชียร์ตัวแข่ง"
(หน้าเริ่มเสีย เริ่มไปไม่เป็นแล้ว น้ำตาจะซึมแล้วนะ คนเค้าตั้งใจหามาให้อะ แต่ก็ฝืนพูดต่อ
เรื่องของเรื่องคือเขากำลังจะมีแข่งกีฬาด้วย ช่วงนี้เลยซ้อมหนักหน่อย
วันแข่งเราก็ติดงาน ไปเชียร์ไม่ได้ แต่ก็อยากให้กำลังใจเขา)
ฮี: "หู้ยยยยยย ต่างหน้าไรล่ะ อีกตั้งหลายวัน ป่านนั้นทิ้งไปละ" (ระหว่างนั้นฮีก็เผลอหันหน้ามาหา)
ดู๊... ดูฮีพูด (บอกแล้วววว ว่าเป็นคู่กวน คู่กัด)
แต่... ใบหน้ายิ้มนะเจ้าคะ
นั่น! นั่น! เห็นนะ หน้าแบบนั้น ยิ้มแบบนั้น ไม่ได้เห็นมานานแล้ววววว
ฮี "เขิน" เจ้าค่าาาาาาา!!!
(นี่ก็ปลื้มที่เขาประทับใจ)
เป็นอันว่า mission complete ค่าาาาาา
และ complete แบบเหนือความคาดหมายมากๆด้วย
ตอนแรกนึกว่าอย่างมากฮีก็แค่ยิ้ม แต่นี่ "เขิน" ชนิด "ไม่สามารถปิดบังได้" เลยค่ะ
หาดูชมได้ยากนะนี่ ชีวิตนี้เคยเห็นแค่ไม่กี่ครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ทำงานอย่างมีความสุข อารมณ์ดีทั้งวัน (เพิ่งสัมภาษณ์มา หุๆ)
ส่วนตัวฉันเองก็จำใบหน้าเขินๆของเขาเมื่อเช้านี้ได้ติดตา นึกถึงทีไรก็ยิ้มได้ทุกที ก็มีความสุขอารมณ์ดีตามไปอีกคน
คือที่เล่ามาทั้งหมดนี้ก็แค่...
อยากขอบคุณต้นเรื่อง ต้นไอเดีย
ขอบคุณคุณ foren 161 มากๆค่ะ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้
ขอบคุณที่เรื่องราวของคุณเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้วันธรรมดาๆของเรา กลายเป็นวันพิเศษอีกวัน
และอยากแชร์ให้เป็นตัวอย่างกับคู่อื่นๆ
บางทีแต่ละคู่ก็มีโมเม้นท์นี้เนอะ แบบต่างฝ่ายต่างยุ่งๆ อาจมีช่วงที่เฉยๆ เงียบๆ ห่างๆกันไปบ้าง
แต่ถามว่ายังรักกันไหม ก็รัก ยังรู้สึกดีต่อกันไหม ก็ใช่ แต่ก็ยังปล่อยให้ทุกๆวันดำเนินไปตามปกติของมัน
คือไม่อยากให้ใครต้อง "ชิน" กับความห่าง ความเฉย ความยุ่งวุ่นวายของชีวิต ที่ดูน่าจะเป็นเรื่องปกติ
เพราะถ้าเราชินกับสิ่งแบบนี้ไปนานๆ ความหวานอาจจะน้อยลง แล้วจะทำให้เรา(รู้สึกเหมือนว่า)รักกันน้อยลง
เพราะความเคยชินกับระยะห่างที่เกิดขึ้น แล้วสุดท้ายก็จะเบื่อกันไปเอง ทั้งที่จริงๆแล้ว รักเราไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
คุณอาจจะคิดว่า ไม่เห็นเป็นไรนี่ คู่เราเข้าใจกัน รักกันดี ไม่ว่าอะไรกันอยู่แล้ว
แล้วคุณรู้ได้ไงว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร เข้าใจบนความเหงาที่อีกฝ่ายไม่มีเวลาให้หรือเปล่า?
รักกันบนความน้อยใจที่อีกฝ่ายไม่ค่อยได้สนใจหรือเปล่า?
อย่าให้คำว่า "ไม่เป็นไร" มาทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณรัก คุณแคร์เขาน้อยลง (ทั้งที่จริงๆ ต่างฝ่ายต่างก็รักและแคร์กันเท่าเดิม)
นี่เป็นเพียงอีกตัวอย่างเล็กๆ ที่แสดงให้เห็นว่า การแสดงออกว่ายังรัก ยังแคร์กัน ยังมีกันและกัน
ไม่ต้องใช้เงินทองมากมายอะไรมาแลกเลย (ในกรณีนี้ไม่ใช่แค่ "ใช้เงินไม่มาก" แต่ "ไม่ได้ใช้เงินเลย")
"เงิน" ไม่ใช่สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกดีๆที่แต่ละคู่มีให้กัน
มันเป็นเพียงแต่ สิ่งที่ใช้หา ใช้แลก สื่อกลางที่จะส่งผ่านความรู้สึกเหล่านั้น
แต่ความตั้งใจ ความจริงใจต่างหาก ที่จะสะท้อนความรู้สึกดีๆต่อกันได้ดีที่สุด
ในวันนี้ยังมีโอกาสที่จะทำให้กันอยู่ ทำเสียเถอะค่ะ อย่ารอว่าโอกาสพิเศษค่อยทำ
ไม่มีใครรู้หรอกว่ากว่าจะถึงโอกาสพิเศษคราวหน้า คุณจะยังมี "โอกาส" ได้ทำสิ่งที่ตั้งใจจะทำอยู่หรือเปล่า
ตราบที่ยังมีลมหายใจ ทำทุกวันให้เป็นวันพิเศษกันเถอะค่ะ
เป็นกำลังใจให้ทุกๆคน เริ่มต้น "วันพิเศษ" (ที่มีได้ทุกวัน) ของแต่ละคนกันนะคะ