ลองอ่านให้จบ ค่อยด่าผมนะครับ
(เป็นข้อมูลครับ ก๊อบเขามาอีกที)
ข้อมูลนี้อุทิศให้ พวกที่ยังจมอยู่ในจินตนาการตัวเอง ว่าด้วยมายาคติไม่เอาเลือกตั้ง เพราะเดี๋ยวก็ซื้อเสียงกลับมาอีก
1.จากข้อมูลของ กกต. (ซึ่งมีแต่พวกนั่นแหละ)
การเลือกตั้งปี 2554 ประชาธิปัตย์ใช้เงินไป 165,420,868.94 บาท พรรคเพื่อไทย ใช้เงินไป 93,846,296.45 บาท http://www.ect.go.th/
2.ผลวิจัยการเลือกตั้งปี 2554 อ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ระบุว่า ภาคที่มีการซื้อเสียงได้ผลที่สุด คือ ภาคใต้ และภาคกลาง / คนที่จบปริญญาโทขึ้นไป เลือกพรรคเพื่อไทยมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์
http://www.youtube.com/watch?v=W6RSB3mckEM
3.ผลวิจัยการเลือกตั้งปี 2554 ของอาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ บอกว่าการซื้อเสียงการเลือกตั้งมีผลแค่ร้อยละ 5 และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะการเลือกตั้งใหญ่ ที่คนเลือกที่พรรคตามอุดมการณ์ตัวเองhttps://www.facebook.com/boythakae/posts/468315289871967
4.ดร.จักรกริช สังขมณี รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ณ งานสัมมนา “ภูมิทัศน์และการเมืองของการพัฒนาชนบทไทยร่วมสมัย” กล่าวไว้ "มายาคติเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงของคนชนบท รวมทั้งการสร้างวาทกรรมให้ภาพการซื้อเสียงมีลักษณะตื้นเขิน งอมืองอเท้า รอคอยแต่การอุปถัมภ์และไม่รู้เท่าทันนักการเมือง กลายเป็นอุปสรรคต่อการทำความเข้าใจภาวะเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในชนบท ขณะเดียวกันหากพิจารณาวาทกรรมดังกล่าว จะพบว่าเป็นเพียงการสร้างความพึงพอใจให้กับชนชั้นกลางที่เชื่อว่าตนเองมีวุฒิภาวะทางประชาธิปไตยสูงกว่าคนในชนบท วาทกรรมการซื้อเสียงได้ลดทอนคุณค่าคะแนนเสียงในชนบท เนื่องจากมองว่าคนชนบทไร้ศีลธรรมทางประชาธิปไตย ถูกชักจูงให้เป็นฐานเสียงหรือร่วมขบวนการทางการเมืองได้ง่าย ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จึงเป็นม่านบังตาที่ทำให้ไม่เห็นเจตจำนงหรือความปรารถนาที่แท้จริงของคนชนบท”
http://www.isranews.org/
5."อย่ามาพูดว่าแพ้เพราะเงิน เลือกตั้งหลังสุดอาจเป็นเพราะเราใช้เงินมากกว่าเขาด้วยซ้ำไป" อลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
http://pic.twitter.com/MT2eSktIPe. --------------------------------
เลิกหลอกตัวเอง ดูถูกคนอื่น ดูถูกคนจน หรือร่วมใจกันยอมถูกสะกดจิตหมู่ ดูถูกว่าคนไทยยังความรู้น้อย ไม่ควรปกครองด้วยระบอบ ปชต. หรือ คิดว่าตนเองฉลาด ตนเองรวย เป็นด็อกเตอร์ เป็นหมอ เป็นนักธุรกิจ ควรมีคะแนนเสียงมากกว่าคนจน ชาวไร่ชาวนา ทั้งๆที่คนไทยชั้นล่างเหล่านั้นหากเทียบกับ ประชากรของสหรัฐอเมริกาเมื่อ ค.ศ.1776 หรือ พ.ศ. 2319 นั้น คนไทยปัจจุบันมีความรู้ มากกว่าคนสหรัฐฯสมัยนั้นมากมาย แต่ประเทศเขายอมรับผลการเลือกตั้ง นอมให้ปกครองครบวาระไป เมื่อครบวาระ ปชช.ก็จะเห็นสันดาน และ ฝีมือการปกครองของรัฐบาลนั้นๆด้วยตัวเอง ก็จะพิจารณาเลือก หรือ ไม่เลือกพรรคนั้นๆ ประเทศไมยไม่เคยยอมให้ใครปกครองต่อเนื่องได้นาน ไม่ยอมให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง (รธน.40 เขียนให้ พรรคการเมืองเข้มแข็ง พวก Elite เก่าทนไม่ได้ เพราะคนรุ่นใหม่ดันฉลาดเผยอมาเทียบชั้นจึงต้องหาทางกำจัด ทำลาย......!!!
การใช้เงินในการเลือกตั้ง ของพรรคเพื่อไทย ปี 2554
(เป็นข้อมูลครับ ก๊อบเขามาอีกที)
ข้อมูลนี้อุทิศให้ พวกที่ยังจมอยู่ในจินตนาการตัวเอง ว่าด้วยมายาคติไม่เอาเลือกตั้ง เพราะเดี๋ยวก็ซื้อเสียงกลับมาอีก
1.จากข้อมูลของ กกต. (ซึ่งมีแต่พวกนั่นแหละ) การเลือกตั้งปี 2554 ประชาธิปัตย์ใช้เงินไป 165,420,868.94 บาท พรรคเพื่อไทย ใช้เงินไป 93,846,296.45 บาท http://www.ect.go.th/
2.ผลวิจัยการเลือกตั้งปี 2554 อ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ระบุว่า ภาคที่มีการซื้อเสียงได้ผลที่สุด คือ ภาคใต้ และภาคกลาง / คนที่จบปริญญาโทขึ้นไป เลือกพรรคเพื่อไทยมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์http://www.youtube.com/watch?v=W6RSB3mckEM
3.ผลวิจัยการเลือกตั้งปี 2554 ของอาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ บอกว่าการซื้อเสียงการเลือกตั้งมีผลแค่ร้อยละ 5 และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะการเลือกตั้งใหญ่ ที่คนเลือกที่พรรคตามอุดมการณ์ตัวเองhttps://www.facebook.com/boythakae/posts/468315289871967
4.ดร.จักรกริช สังขมณี รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ณ งานสัมมนา “ภูมิทัศน์และการเมืองของการพัฒนาชนบทไทยร่วมสมัย” กล่าวไว้ "มายาคติเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงของคนชนบท รวมทั้งการสร้างวาทกรรมให้ภาพการซื้อเสียงมีลักษณะตื้นเขิน งอมืองอเท้า รอคอยแต่การอุปถัมภ์และไม่รู้เท่าทันนักการเมือง กลายเป็นอุปสรรคต่อการทำความเข้าใจภาวะเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในชนบท ขณะเดียวกันหากพิจารณาวาทกรรมดังกล่าว จะพบว่าเป็นเพียงการสร้างความพึงพอใจให้กับชนชั้นกลางที่เชื่อว่าตนเองมีวุฒิภาวะทางประชาธิปไตยสูงกว่าคนในชนบท วาทกรรมการซื้อเสียงได้ลดทอนคุณค่าคะแนนเสียงในชนบท เนื่องจากมองว่าคนชนบทไร้ศีลธรรมทางประชาธิปไตย ถูกชักจูงให้เป็นฐานเสียงหรือร่วมขบวนการทางการเมืองได้ง่าย ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จึงเป็นม่านบังตาที่ทำให้ไม่เห็นเจตจำนงหรือความปรารถนาที่แท้จริงของคนชนบท”http://www.isranews.org/
5."อย่ามาพูดว่าแพ้เพราะเงิน เลือกตั้งหลังสุดอาจเป็นเพราะเราใช้เงินมากกว่าเขาด้วยซ้ำไป" อลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์http://pic.twitter.com/MT2eSktIPe. --------------------------------
เลิกหลอกตัวเอง ดูถูกคนอื่น ดูถูกคนจน หรือร่วมใจกันยอมถูกสะกดจิตหมู่ ดูถูกว่าคนไทยยังความรู้น้อย ไม่ควรปกครองด้วยระบอบ ปชต. หรือ คิดว่าตนเองฉลาด ตนเองรวย เป็นด็อกเตอร์ เป็นหมอ เป็นนักธุรกิจ ควรมีคะแนนเสียงมากกว่าคนจน ชาวไร่ชาวนา ทั้งๆที่คนไทยชั้นล่างเหล่านั้นหากเทียบกับ ประชากรของสหรัฐอเมริกาเมื่อ ค.ศ.1776 หรือ พ.ศ. 2319 นั้น คนไทยปัจจุบันมีความรู้ มากกว่าคนสหรัฐฯสมัยนั้นมากมาย แต่ประเทศเขายอมรับผลการเลือกตั้ง นอมให้ปกครองครบวาระไป เมื่อครบวาระ ปชช.ก็จะเห็นสันดาน และ ฝีมือการปกครองของรัฐบาลนั้นๆด้วยตัวเอง ก็จะพิจารณาเลือก หรือ ไม่เลือกพรรคนั้นๆ ประเทศไมยไม่เคยยอมให้ใครปกครองต่อเนื่องได้นาน ไม่ยอมให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง (รธน.40 เขียนให้ พรรคการเมืองเข้มแข็ง พวก Elite เก่าทนไม่ได้ เพราะคนรุ่นใหม่ดันฉลาดเผยอมาเทียบชั้นจึงต้องหาทางกำจัด ทำลาย......!!!