จะพูดยังไงดีหล่ะ

คือสหรัฐเนี่ย กองทัพไม่เคยแทรกแซงการบริหารก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอิทธิพลเลย
ตรงกันข้าม อิทธิพลของกองทัพแทบจะแทรกอยู่ทั่วทุกตารางนิ้วของประเทศเลยด้วยซ้ำ

คือต้องเข้าใจก่อนว่า ประเทศสหรัฐคือประเทศที่ยกย่องทหารครับ
ใครจะเข้ามาเล่นการเมือง ถ้าเคยเป็นทหารเก่ามาก่อน หรือเคยออกรบมาก่อน จะมีแต้มต่อคนที่ไม่เคยเป็นอยู่พอสมควร
ประชาชนชอบ โอกาสได้รับเลือกจะสูงขึ้น ประธานาธิบดีของสหรัฐนี่ทหารเก่าเพียบ
อีกอย่างคือ ทหารของสหรัฐไม่ใช่ทุกคนจะเป็นทหารตลอดชีวิต (ต่างกับบ้านเราที่ส่วนใหญ่จะเป็นตลอดชีวิต)
ดังนั้นแล้ว สส หรือ สว ของทางนั้นจะมีคนที่เป็นทหารเก่าอยู่พอสมควร
ความสัมพันธ์ของรัฐกับทหารเลยแนบแน่นมาก แทบจะเรียกว่าแยกกันไม่ออก
ขณะที่บ้านเรา ทหารลาออกมาลงเลือกตั้ง สอบตกกันระนาวทั้งนั้น ที่สอบได้ต้องไปอิงแอบนักเลือกตั้งเอา
เพราะบ้านเราไม่ได้ยกย่องทหารเหมือนสหรัฐ
ขณะที่สหรัฐ รัฐบาลกับทหารเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ทางบ้านเรา รัฐบาลกับทหารจะออกแนวเป็นไม้เบื่อไม้เมากันซะมากกว่า
รัฐบาลก็กลัวว่าจะโดนทหารออกมายึดอำนาจเมื่อไหร่
ทหารก็ระแวงว่ารัฐบาลจะเข้ามาล้วงลูก แต่งตั้งคนในคอนโทรลของตัวเองเพื่อเข้ามาครอบงำกองทัพ

และถ้าวิเคราะห์ในแง่ของการบริหารเงิน (โลกนี้หมุนด้วยเงินครับ ไม่ใช่แรงดึงดูด)
สหรัฐ ยิ่งทหารมีอำนาจ รัฐยิ่งได้กำไรครับ อย่าลืมว่าอเมริกาเป็นประเทศที่ส่งออกอาวุธ
และทหารสหรัฐหารายได้เข้าประเทศด้วยครับ ก็ออกไปรบนอกประเทศนั่นไง ขนเงินกับทรัพยากรกลับเข้าประเทศมาเพียบ
อาจจะมีแป๊กไปบ้างที่ทำแล้วไม่คุ้มอย่างตอนสงครามเวียดนามกับสงครามอัฟกัน/อิรัก แต่โดยรวมแล้วถือว่าทำแล้วได้กำไร
ขณะที่บ้านเรา ไม่ได้ไปรบกับใคร มองในแง่การบริหารแล้ว งบทางการทหารเลยเหมือนการลงทุนที่ไม่มีผลตอบแทน
รัฐบาลเลยมักจะหาทางตัดงบกองทัพอยู่ตลอด ยิ่งเพิ่มการเขม่นกันเข้าไปอีก

อีกอย่างหนึ่งคือ การกระจายอำนาจของ "คนถือปืน" ในสหรัฐ
สหรัฐมีหน่วยงานที่มีกำลังรบกระจายอยู่ไปทั่ว ไม่ได้กระจุกอยู่แค่ "ทหารบก" อย่างเดียวเหมือนไทย
4 เหล่าทัพของสหรัฐมีอำนาจทางการรบแทบจะไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แถมยังมีหน่วยงานอื่นๆที่มีกำลังรบเป็นของตัวเองอีก เช่น CIA
เทียบกับไทยก็เหมือนกับว่า สหรัฐกระจายปืน 10 กระบอกไปให้หลายๆคนถือ ขณะที่ไทยถือปืน 10 กระบอกอยู่คนเดียว
ทหารบกแทบไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรเลยหากจะทำรัฐประหาร ไม่มีใครหยุดได้อยู่แล้ว

สรุปคือ ที่สหรัฐไม่มีการรัฐประหารหรือกองทัพแทรกแซงรัฐบาลพลเรือนเลย ก็เพราะสังคมของเขาเอื้อให้เป็นแบบนั้นครับ
ขณะที่บ้านเรา ทำรัฐประหารกันหยั่งกะจะเร่งทำสถิติ ก็เพราะสังคมของเราเอื้อมันให้เป็นแบบนั้นเช่นกัน