สารคดีชีวิตสัตว์โลก :: กองทุนรวมหุ้น

มีหลายท่านอยากลงทุนในหุ้น แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี หรือบางท่านอาจลงทุนในหุ้นอยู่แล้ว แต่ว่าไม่มีเวลาติดตามหุ้น ทำให้สภาพพอร์ตไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้ลงทุนในหุ้นโดยมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลให้

"กองทุนรวมหุ้น (equity fund)" หรือ "กองทุนรวมตราสารทุน" คือ กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตราสารทุนประเภทต่างๆ  เช่น หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ (warrants) รวมถึงหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้น ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนรวม (คำนวณโดยเฉลี่ยในแต่ละรอบปีบัญชี)
  
นโยบายการลงทุน
     “กองทุนรวมหุ้น” มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายขึ้นอยู่กับ บลจ.หรือผู้จัดการกองทุน เช่น อาจเลือกลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยเป็นหุ้นขนาดเล็กที่มีผลการดำเนินงานดี และมีศักยภาพที่จะขยายกิจการได้อย่างดีในอนาคต หรืออาจลงทุนในหุ้นคุณภาพ ซึ่งเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มั่นคง มีผลการดำเนินงานดี  หรือลงทุนในหุ้นของหมวดอุตสาหกรรมใดๆ (ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยนโยบายดังกล่าวไว้ในหนังสือชี้ชวนอย่างชัดเจนด้วย)

ผลตอบแทนและความเสี่ยง
กองทุนรวมหุ้นมีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในกองทุนรวมประเภทอื่นๆ แต่ก็อย่าลืมว่าผลตอบแทนสูงย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงสูง
การลงทุนใน "กองทุนรวมหุ้น" อาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ที่กองทุนรวมไปลงทุน ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองทั้งภายในและภายนอกประเทศ การปรับเปลี่ยนนโยบายของภาครัฐที่มีผลต่อบริษัทที่ประกอบธุรกิจ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ อาจมีผลกระทบต่อราคาหุ้นที่กองทุนรวมไปลงทุน
ความเสี่ยงจากผู้จัดการกองทุน วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตัดสินใจเลือกหุ้นและกำหนดสัดส่วนการกระจายการลงทุนไม่เหมาะสม หรือแม้แต่เลือกจังหวะการลงทุนผิดพลาด  แต่การที่กองทุนรวมหุ้นมีการกระจายการลงทุนไปในหุ้นหลายๆ ตัว ก็ยังช่วยกระจายหรือจำกัดความเสี่ยงได้ เพราะหากหุ้นตัวใดมีราคาลดลงก็ยังมีหุ้นตัวอื่นมาพยุงไว้

จะเลือกกองทุนรวมหุ้นที่ใช่ได้อย่างไร          
1. ให้เปรียบเทียบผลตอบแทนของกองทุนรวมหุ้นตัวที่เราสนใจกับตัวชี้วัดหรือ  Benchmark เช่น  ถ้ากองทุนรวมหุ้นทั่วไป  ก็ต้องเปรียบเทียบผลตอบแทนกับ  SET Index หรือถ้าเป็นกองทุนรวมหุ้นที่มีชื่อว่า  กอง  SET50  ก็ต้องเปรียบเทียบกับผลตอบแทน  SET50 Index การเปรียบเทียบดังกล่าวเป็นตัววัดว่าผู้จัดการกองทุนมีประสิทธิภาพแค่ไหน  และสามารถเอาชนะดัชนีชี้วัดได้มากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ ผู้ลงทุนควรพิจารณาผลการดำเนินงานของผู้จัดการกองทุนมากกว่า 1 ปี โดยขึ้นอยู่กับระยะการลงทุนของผู้ลงทุน เพื่อให้เห็นความสม่ำเสมอของการบริหารกองทุนของผู้จัดการกองทุนที่กำลังพิจารณา
2. เปรียบเทียบค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมจัดการกองทุนด้วย เพราะบางปีกองทุนรวมทุกกองทุนเอาชนะ Benchmark หมด  ดังนั้น  ต้องเลือกกองทุนรวมหุ้นที่มีค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผลที่สุด
3. จะเลือกกองทุนรวมหุ้นแบบไหนระหว่างจ่ายปันผลกับไม่จ่ายปันผล  กองแบบที่จ่ายปันผล ข้อดี  คือ ได้ผลตอบแทนระหว่างการลงทุนเป็นระยะ เสมือนเป็นรายได้เพิ่มเข้ามา (แต่ถึงเวลาจริงจะได้หรือไม่ หรือได้เท่าไร  ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของกองทุนในรอบบัญชีนั้น  ๆ  ด้วย)  ข้อด้อย  คือ  เงินปันผลต้องถูกหักภาษี  ณ  ที่จ่าย  10%  ขณะที่กองไม่จ่ายปันผล  ไม่ต้องเสียภาษี  กำไรเวลาขายคืนหน่วยลงทุนก็ได้รับไปเต็ม  ๆ  แต่ระหว่างการลงทุนไม่มีเงินปันผล

ดูๆ แล้ววิธีการเลือกองทุนรวมหุ้นก็ไม่ยากเย็นอะไรเนอะ แล้วเม่าจะเลือกกองทุนรวมหุ้นกองไหนไปติดตามกันได้ในการ์ตูนจ้า






ติดตามตอนเก่าๆ ได้ใน
http://www.maoinvestor.com
ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การลงทุนได้ในเฟชบุ้คจ้า ^^

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่