ขอระบาย ต่อจากกระทู้นี้ครับ http://ppantip.com/topic/30666307
         ตอนนี้ผ่านมาหนึ่งปีแล้วครับ ผมอึดอัดและยังเครียดเหมือนเดิม --ขอเล่าย้อนหลังก่อนถึงวันนี้ครับ ตอนคบกับแฟนแรกๆ ผมมาส่งแฟนที่บ้าน ซึ่งวันนั้นฝนตกหนักมาก หนักขนาดต้องเปิดไฟหน้ารถ ใช้ที่ปัดน้ำฝนเบอร์สาม พอมาใกล้ถึงบ้าน แฟนบอกว่าให้จอดหน้าปากซอยตรงนี้ เดี๋ยวเดินเขเข้าบ้านเอง ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ผมก็แปลกใจทำไมแฟนถึงไม่ให้ไปส่งให้ถึงบ้าน ผมก็ยืนยันให้ได้ว่าจะไปส่งให้ถึงบ้าน เพราะฝนตกหนักมาก ระหว่างที่อยู่ในรถ มีโทรศัพท์โทรเข้าเครื่องแฟนแต่แฟนไม่รับ ผมก็ไม่คิดอะไร ผมเซ้าซี้จนแฟนรำคาญในที่สุดเค้าก็ยอมให้มาส่งที่บ้าน พอมาถึงผมเจอแม่แฟนกับผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30 ผมยกมือสวัสดีแม่แฟน และสวัสดีผู้ชายคนนั้น ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เค้าก็มองหน้าผมแปลกๆ แฟนไม่พูดอะไรเดินหายเข้าไปในบ้าน หลังจากนั้นผมก็กลับบ้าน
        คบกับแฟนมาสักพักหนึ่ง จึงตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตด้วยกัน จึงตกลงว่าจะแต่งงานกัน(จริงๆแล้ว ผมเป็นเพื่อนสมัยเรียนปฐม กับแฟน ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป แล้วมาเจอกันตอนเรียน ป.โท)หลายปีเหมือนกัน แม่แฟนอนุญาตให้ผมมาอยู่ที่บ้านแฟน แต่นอนข้างล่าง แฟนนอนในห้องกับแม่ ผมก็ดีใจที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส ผมก็ทำงานทุกวันไม่หยุดเลย เพื่อจะหาเงินมาจัดงานแต่งงาน จริงๆผม มีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่ง เก็บไว้ดาวน์รถ ผมมาอาศัยอยู่กับแฟนสักพักนึง น่าจะประมาณ 3 เดือน มีอยู่วันหนึ่ง แฟนจะไปใต้กับแม่ ทางบ้านแฟนทำสวนยางที่ใต้ แฟนก็สั่งว่าดูบ้านดีดีน่ะ ทำความสะอาดบ้านด้วย อย่าขึ้นไปวุ่นวายชี้นบน ให้อยู่แต่ชั้นล่าง ซึ่งผมก็สงสัย ทำไมต้องห้ามด้วย อาจจะมีของส่วนตัว พอแฟนไปใต้แล้ว ผมแอบขึ้นไป ผมเจอชุดอยู่บ้านผู้ชาย เจอกีตาร์ ในใจคิดคงไปของพ่อเค้า แต่ทำไมมาอยู่ในห้องนี้ เสื้อผ้าก็วัยรุ่นด้วย ผมก็เก็บไว้ในใจรอแฟนกลับว่าจะถาม ช่วงเช้าวันหนึ่ง มีผู้ชายคนที่ผมเจอ (วันที่มาส่งแฟนครั้งแรก)มาหาแฟนที่บ้าน ผมบอกว่าไม่อยู่ ไปใต้กับแม่ ผมถามว่าเค้าเป็นใครเค้าก็ไม่ตอบ พอแฟนกลับมา ผมก็ถามแฟนบอก เป็นลูกน้องคนสนิทพ่อ (ทำอาชีพเดินเรือเหมือนกัน) ผมก็ไม่ว่าอะไร
       อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงวันแต่งงานแล้ว ผมนอนอยู่ข้างล่างตามปกติ เหมือนที่ผมนอน ปรากฏว่าผู้ชายคนนี้มาตอนตีสามกว่าๆ ผมก็เลยไปเรียกแฟนกับเรียกแม่ แม่กับแฟนก็บอกไม่มีอะไร เค้ามาหาเฉย ผมโวยวายยังไงกันแน่ ผู้ชายคนนี้เป็นใคร ทำไมไม่มีใครให้คำตอบผม แม่กับแฟนก็บอกไม่มีอะไร
กระทู้ก่อนหน้านี้ครับ ##### แต่เป็นเหตุการที่ต่อจากข้างบน
ขอระบายหน่อยครับ
    ผมเพิ่งแต่งงานครับ งานแต่งมี 2 ที่ ที่ต่างจังหวัดกับที่กรุงเทพมหานคร เป็นงานแต่งเล็กๆ  ไม่ใหญ่มาก และต่างจังหวัดได้แต่งมาแล้ว เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมาและที่ กรุงเทพมหานคร จะมีขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคม 2556 โดยค่าใช้จ่ายในการแต่งงานที่ต่างจังหวัด ทางบ้านผู้หญิงเป็นฝ่ายออกส่วนใหญ่ครับ ผมออกเป็นส่วนน้อย แต่งานที่ต่างจังหวัดไม่ใหญ่มาก ค่าใช้จ่ายจึงไม่เยอะ พอมางานที่กรุงเทพมหานคร ผมจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด 100% โดยที่ทางบ้านผู้หญิงไม่ช่วยเลย ซึ่งงานที่กรุงเทพใหญ่กว่าที่จัดที่ต่างจังหวัดถึง 4 เท่า นั้นหมายความว่าค่าใช้จ่ายก็มากขึ้นด้วย (ก่อนหน้านี้ผมมีแพลนว่าจะซื้อรถ เพื่อใช่ขับไปทำงาน จึงเก็บเงินดาวน์รถได้ก้อนหนึ่ง) แต่พอมาเจอแฟน ก็เลยคบกันและแต่งงาน ผมจึงได้เลื่อนการซื้อรถ โดยเอาเงินดาวน์รถมาจัดงานที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งก็ไม่พอ ทุกวันนี้ผมเหนื่อยครับ ผมทำงานมาไม่ได้หยุดเลยตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ผมไปทำงานประจำและทำงานพิเศษด้วย เพื่อจะได้มีเงินมากพอที่จะจัดงานที่กรุงเทพมหานคร ผมบอกแฟนว่าจัดงานเล็กๆพอ ไม่ต้องใหญ่โต แฟนผมก็รู้ว่า เงินที่ผมเอามาจัดงานก็เป็นเงินดาวน์รถที่ผมมีและเงินพิเศษที่ผมไปทำงาน **ทางบ้านของผมไม่ได้ช่วยตรงนี้ ผมต้องรับผิดชอบตัวเองทังหมด
   ตั้งแต่แต่งานมาผมก็มาอยู่บ้านแฟน ผมต้องทำงานบ้านเองทุกอย่าง ตั้งแต่ล้างรถ ทิ้งขยะ ล้างจาน กวาดบ้าน แต่แฟนผมตื่นสายไม่ได้ทำอะไร นอกจากซักผ้า วันธรรมดา ผมก็ต้องขับรถไปส่งแฟนทุกวัน ตอนกลับแม่แฟนก็ไปรับ พอเลิกงานกลับบ้านมา แฟนก็เล่น เฟสบ็ค เล่นไลน์ แต่กับเพื่อน ไม่ค่อยสนใจผม
  แฟนอยากได้แบล็คดรอป อยากได้เค้ก อยากได้น้ำแข็งแกะสลัก ในงานแต่งงาน ซึ่งผมก็บอกว่าผมไม่ค่อยมีเงิน แต่แฟนก็ยังอยากจะได้ เงินใส่ซองที่ได้มาจากที่ต่างจังหวัดแฟนก็เอาไปเสียค่าเทอม ตอนนี้ผมกับแฟนเรียน ป.โท อยู่ทั้งคู่ ผมเองไม่ได้เงินซองแม้แต่บาทเดียว ส่วนค่าใช้จ่าย การ์ดแต่งงาน ของชำร่วย ชุดแต่งงาน ผมก็เป็นคนออก
  ตอนนี้ผมเหนื่อยครับ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องแฟน รถผมก็ไม่ได้ต้องเอาเงินดาวน์รถมาจัดงานแต่งงาน จริงๆอยากจัดปลายปีเพราะผมไม่พร้อม แต่ทางผู้ใหญ่อยากให้จัดเร็วๆ
  ทุกวันนี้ผมใช้รถแฟนครับ แฟนก็มักจะพูดว่าขับรถดีดีน่ะ อย่าให้เป็นรอยรักษาให้ดี พูดแบบนี้ทุกวันจนผมอึดอัด ไม่อยากใช้รถแฟนแล้ว ทั้งๆที่ผมดูแลรถเป็นอย่างดี ทั้งพาไปเช็คระยะเอง ล้างรถเอง ค่าน้ำมันเดือนนึงประมาณ 8000 ผมออก ประมาณ 7000 แต่แฟนออก ประมาณ 1000 ค่างวดรถคนละครึ่ง ทั้งๆที่มันไม่ใช่รถผม เดือนที่แล้วแฟนไม่มีเงิน ผมต้องจ่ายค่ารถและน้ำมันรถคนเดียว
  ตอนนี้ผมเหนื่อยครับ ทำงานไม่ได้หยุดเลย หนังสือก็ไม่ได้อ่าน เครียดมากเลยครับ กลับบ้านแฟนก็ไม่สนใจ ติด Facebook,Line
ขอโทษด้วยครับที่เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเล่าให้ฟัง แค่อยากระบาย
        ####ตอนนี้คือเหตุการปัจจุบันครับ
        เมื่อช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา แฟนจะไปใต้ครับไปหาแม่ แต่ไม่ให้ผมไปด้วย ผมถามว่าทำไม เค้าบอกว่าไม่อยากให้มีปัญหา ผมก็งงปัญหาอะไร ผมรู้สึกแปลกๆ ก่อนที่แฟนจะไปหนึ่งวัน ผมลางานล่วงหน้าไว้แล้วแต่แฟนไม่รู้ พอวันที่ออกเดินทาง ผมบอกว่าผมจะไปด้วยแฟนไม่ให้ไป ในที่สุดก็ทะเลาะกัน แฟนเลยยอมให้ไป พอผมไปถึง ผมก็เจอผู้ชายคนนี้คนเดิมอีกแล้ว ผมก็ไม่พูดอะไรได้แต่เก็บไว้ในใจ วันกลับ แม่และแฟนกลับกรุงเทพพร้อมกัน ขับรถคนละคัน ผมขับมากับแฟน แม่ขับมากับผู้ชายคนนั้น(พ่อของแฟนเดินเรือต่างประเทศ ไม่ค่อยกลับบ้าน ผมจะไม่พูดถึง) โดยตกลงว่าจะแวะพักรถที่ วัดห้วยมงคล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างทางแฟนก็พูดถึงผู้ชายคนนี้ ว่าเดินเรือเหมือนพ่อ ดีอย่างนู้นดีแบบนี้ เงินเดือนเยอะ ไม่เหมือนผม ไม่มีอะไร มีแต่ตัว ผมก็เก็บไว้ในใจตลอด จนกระทั่งแฟนพูดว่า เดี๋ยวอาจจะสลับรถกับแม่น่ะ แม่อยากนั่งรถใหม่ ให้ผู้ชายคนนั้นมาขับรถให้แม่นั่งเป็นขันที่ผมขับมากับแฟน ส่วนผมกับแฟนก็ไปขับรถแม่ ผมก็ไม่พอใจ ถึงจะไม่ใช่รถผมก็ตาม ผมจ่ายค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าผ่อน ทุกอย่าง แฟนผมบอกว่ารถเค้าจะให้ใครขับก็ได้ ผมเลยโวยวายและจพไปต่อยผู้ชายคนนั้น แม่เค้าบอกว่า อย่าทำอะไรผู้ชายคนนั้นน่ะ เค้ามาก่อน ผมน้ำตาไหล เสียใจมาก ผมเลยเอากุญแจรถคืนแฟน แล้วผมก็เดิน จากวัดห้วยมงคลมาปากทาง ไกลพอสมควรเพื่อมาขึ้นรถ วันนั้นผมกลับกรุงเทพเองหลังจากนั้นไม่คุยกับแฟนหลายวัน ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นก็อยู่ที่บ้าน ผมทำใจไม่ได้ คนข้างบ้านบอกว่าถ้าอยู่ไม่ได้ให้กลับบ้าน เค้ามาก่อน ป้าข้างบ้านพูดมาแบบนี้ผม น้ำตาไหลอีกรอบหนึ่ง
       ผมอยากจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้พ่อแฟนฟัง แต่ยังไม่มีโอกาสได้เจอพ่อแฟน อยากให้พ่อแฟนรับรู้ หรือว่าพ่อแฟนอาจจะรู้อยู่ก็ได้
###ตอนนี้ผมเครียดมากเลย แฟนผมตกเบิก ผมต้องให้เงินแฟนทุกวัน ทางบ้านแฟนไม่ช่วยเลย ผมเอา Nokia lumia 925 และ iPhone 5 ไปขายมาเสียค่าเทอมให้แฟน ผมต้องใช้หนี้จากงานแต่ง ผมต้องเสียค่ารถครึ่งหนึ่ง ค่าประกันอีก ของเข้าบ้าน  ทุกๆอย่าง แฟนและทางบ้านไม่ช่วยอะไรเลย ผมไม่มีเงินจะกินข้าว ต้องเก็บไว้เป็นค่าเทอมให้แฟน ส่วนผม ตอนนี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนเลย ผมเสียสละทุกอย่าง เหนื่อย ตอนนี้เหนื่อยมากเลยครับ ###หัวหน้าครอบครัวต้องรับผิดชอบทุกอย่างเลยหรอครับ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าของเข้าบ้าน ค่าเทอมแฟน ค่าผ่อนรถแฟน ผมอายุ 26 เองครับ ผมเหนื่อย ผมอยากกลับบ้าน แต่ใจหนึ่งก็รักแฟน ทะเลาะกันทีไร แฟนไล่ออกจากบ้านทุกที (แฟนผม อายุ 28 ลูกคนเดียว แม่ตามใจ) ผมท้อมากเลยครับ ###ขอโทษน่ะครับ ที่เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเล่าให้ฟัง