ขอระบายหน่อยครับ
ผมเพิ่งแต่งงานครับ งานแต่งมี 2 ที่ ที่ต่างจังหวัดกับที่กรุงเทพมหานคร เป็นงานแต่งเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก และต่างจังหวัดได้แต่งมาแล้ว เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมาและที่ กรุงเทพมหานคร จะมีขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคม 2556 โดยค่าใช้จ่ายในการแต่งงานที่ต่างจังหวัด ทางบ้านผู้หญิงเป็นฝ่ายออกส่วนใหญ่ครับ ผมออกเป็นส่วนน้อย แต่งานที่ต่างจังหวัดไม่ใหญ่มาก ค่าใช้จ่ายจึงไม่เยอะ พอมางานที่กรุงเทพมหานคร ผมจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด 100% โดยที่ทางบ้านผู้หญิงไม่ช่วยเลย ซึ่งงานที่กรุงเทพใหญ่กว่าที่จัดที่ต่างจังหวัดถึง 4 เท่า นั้นหมายความว่าค่าใช้จ่ายก็มากขึ้นด้วย (ก่อนหน้านี้ผมมีแพลนว่าจะซื้อรถ เพื่อใช่ขับไปทำงาน จึงเก็บเงินดาวน์รถได้ก้อนหนึ่ง) แต่พอมาเจอแฟน ก็เลยคบกันและแต่งงาน ผมจึงได้เลื่อนการซื้อรถ โดยเอาเงินดาวน์รถมาจัดงานที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งก็ไม่พอ ทุกวันนี้ผมเหนื่อยครับ ผมทำงานมาไม่ได้หยุดเลยตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ผมไปทำงานประจำและทำงานพิเศษด้วย เพื่อจะได้มีเงินมากพอที่จะจัดงานที่กรุงเทพมหานคร ผมบอกแฟนว่าจัดงานเล็กๆพอ ไม่ต้องใหญ่โต แฟนผมก็รู้ว่า เงินที่ผมเอามาจัดงานก็เป็นเงินดาวน์รถที่ผมมีและเงินพิเศษที่ผมไปทำงาน **ทางบ้านของผมไม่ได้ช่วยตรงนี้ ผมต้องรับผิดชอบตัวเองทังหมด
ตั้งแต่แต่งานมาผมก็มาอยู่บ้านแฟน ผมต้องทำงานบ้านเองทุกอย่าง ตั้งแต่ล้างรถ ทิ้งขยะ ล้างจาน กวาดบ้าน แต่แฟนผมตื่นสายไม่ได้ทำอะไร นอกจากซักผ้า วันธรรมดา ผมก็ต้องขับรถไปส่งแฟนทุกวัน ตอนกลับแม่แฟนก็ไปรับ พอเลิกงานกลับบ้านมา แฟนก็เล่น เฟสบุ็ค เล่นไลน์ แต่กับเพื่อน ไม่ค่อยสนใจผม
แฟนอยากได้แบล็คดรอป อยากได้เค้ก อยากได้น้ำแข็งแกะสลัก ในงานแต่งงาน ซึ่งผมก็บอกว่าผมไม่ค่อยมีเงิน แต่แฟนก็ยังอยากจะได้ เงินใส่ซองที่ได้มาจากที่ต่างจังหวัดแฟนก็เอาไปเสียค่าเทอม ตอนนี้ผมกับแฟนเรียน ป.โท อยู่ทั้งคู่ ผมเองไม่ได้เงินซองแม้แต่บาทเดียว ส่วนค่าใช้จ่าย การ์ดแต่งงาน ของชำร่วย ชุดแต่งงาน ผมก็เป็นคนออก
ตอนนี้ผมเหนื่อยครับ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องแฟน รถผมก็ไม่ได้ต้องเอาเงินดาวน์รถมาจัดงานแต่งงาน จริงๆอยากจัดปลายปีเพราะผมไม่พร้อม แต่ทางผู้ใหญ่อยากให้จัดเร็วๆ
ทุกวันนี้ผมใช้รถแฟนครับ แฟนก็มักจะพูดว่าขับรถดีดีน่ะ อย่าให้เป็นรอยรักษาให้ดี พูดแบบนี้ทุกวันจนผมอึดอัด ไม่อยากใช้รถแฟนแล้ว ทั้งๆที่ผมดูแลรถเป็นอย่างดี ทั้งพาไปเช็คระยะเอง ล้างรถเอง ค่าน้ำมันเดือนนึงประมาณ 8000 ผมออก ประมาณ 7000 แต่แฟนออก ประมาณ 1000 ค่างวดรถคนละครึ่ง ทั้งๆที่มันไม่ใช่รถผม เดือนที่แล้วแฟนไม่มีเงิน ผมต้องจ่ายค่ารถและน้ำมันรถคนเดียว
ตอนนี้ผมเหนื่อยครับ ทำงานไม่ได้หยุดเลย หนังสือก็ไม่ได้อ่าน เครียดมากเลยครับ กลับบ้านแฟนก็ไม่สนใจ ติด Facebook,Line
ขอโทษด้วยครับที่เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเล่าให้ฟัง แค่อยากระบาย
ขอระบายครับ
ผมเพิ่งแต่งงานครับ งานแต่งมี 2 ที่ ที่ต่างจังหวัดกับที่กรุงเทพมหานคร เป็นงานแต่งเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก และต่างจังหวัดได้แต่งมาแล้ว เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมาและที่ กรุงเทพมหานคร จะมีขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคม 2556 โดยค่าใช้จ่ายในการแต่งงานที่ต่างจังหวัด ทางบ้านผู้หญิงเป็นฝ่ายออกส่วนใหญ่ครับ ผมออกเป็นส่วนน้อย แต่งานที่ต่างจังหวัดไม่ใหญ่มาก ค่าใช้จ่ายจึงไม่เยอะ พอมางานที่กรุงเทพมหานคร ผมจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด 100% โดยที่ทางบ้านผู้หญิงไม่ช่วยเลย ซึ่งงานที่กรุงเทพใหญ่กว่าที่จัดที่ต่างจังหวัดถึง 4 เท่า นั้นหมายความว่าค่าใช้จ่ายก็มากขึ้นด้วย (ก่อนหน้านี้ผมมีแพลนว่าจะซื้อรถ เพื่อใช่ขับไปทำงาน จึงเก็บเงินดาวน์รถได้ก้อนหนึ่ง) แต่พอมาเจอแฟน ก็เลยคบกันและแต่งงาน ผมจึงได้เลื่อนการซื้อรถ โดยเอาเงินดาวน์รถมาจัดงานที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งก็ไม่พอ ทุกวันนี้ผมเหนื่อยครับ ผมทำงานมาไม่ได้หยุดเลยตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ผมไปทำงานประจำและทำงานพิเศษด้วย เพื่อจะได้มีเงินมากพอที่จะจัดงานที่กรุงเทพมหานคร ผมบอกแฟนว่าจัดงานเล็กๆพอ ไม่ต้องใหญ่โต แฟนผมก็รู้ว่า เงินที่ผมเอามาจัดงานก็เป็นเงินดาวน์รถที่ผมมีและเงินพิเศษที่ผมไปทำงาน **ทางบ้านของผมไม่ได้ช่วยตรงนี้ ผมต้องรับผิดชอบตัวเองทังหมด
ตั้งแต่แต่งานมาผมก็มาอยู่บ้านแฟน ผมต้องทำงานบ้านเองทุกอย่าง ตั้งแต่ล้างรถ ทิ้งขยะ ล้างจาน กวาดบ้าน แต่แฟนผมตื่นสายไม่ได้ทำอะไร นอกจากซักผ้า วันธรรมดา ผมก็ต้องขับรถไปส่งแฟนทุกวัน ตอนกลับแม่แฟนก็ไปรับ พอเลิกงานกลับบ้านมา แฟนก็เล่น เฟสบุ็ค เล่นไลน์ แต่กับเพื่อน ไม่ค่อยสนใจผม
แฟนอยากได้แบล็คดรอป อยากได้เค้ก อยากได้น้ำแข็งแกะสลัก ในงานแต่งงาน ซึ่งผมก็บอกว่าผมไม่ค่อยมีเงิน แต่แฟนก็ยังอยากจะได้ เงินใส่ซองที่ได้มาจากที่ต่างจังหวัดแฟนก็เอาไปเสียค่าเทอม ตอนนี้ผมกับแฟนเรียน ป.โท อยู่ทั้งคู่ ผมเองไม่ได้เงินซองแม้แต่บาทเดียว ส่วนค่าใช้จ่าย การ์ดแต่งงาน ของชำร่วย ชุดแต่งงาน ผมก็เป็นคนออก
ตอนนี้ผมเหนื่อยครับ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องแฟน รถผมก็ไม่ได้ต้องเอาเงินดาวน์รถมาจัดงานแต่งงาน จริงๆอยากจัดปลายปีเพราะผมไม่พร้อม แต่ทางผู้ใหญ่อยากให้จัดเร็วๆ
ทุกวันนี้ผมใช้รถแฟนครับ แฟนก็มักจะพูดว่าขับรถดีดีน่ะ อย่าให้เป็นรอยรักษาให้ดี พูดแบบนี้ทุกวันจนผมอึดอัด ไม่อยากใช้รถแฟนแล้ว ทั้งๆที่ผมดูแลรถเป็นอย่างดี ทั้งพาไปเช็คระยะเอง ล้างรถเอง ค่าน้ำมันเดือนนึงประมาณ 8000 ผมออก ประมาณ 7000 แต่แฟนออก ประมาณ 1000 ค่างวดรถคนละครึ่ง ทั้งๆที่มันไม่ใช่รถผม เดือนที่แล้วแฟนไม่มีเงิน ผมต้องจ่ายค่ารถและน้ำมันรถคนเดียว
ตอนนี้ผมเหนื่อยครับ ทำงานไม่ได้หยุดเลย หนังสือก็ไม่ได้อ่าน เครียดมากเลยครับ กลับบ้านแฟนก็ไม่สนใจ ติด Facebook,Line
ขอโทษด้วยครับที่เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเล่าให้ฟัง แค่อยากระบาย