อ่านนิยายแล้วอยากถ่ายทอดจินตนาการมาเล่าสู่กันฟัง ตามประสา nyfc เราจะคิดถึงใครได้นอกจากสองคนนี้
“มายาเทพ” (เขียนโดย แม่ช้อง) เรื่องราวความผูกพันของ กลเทพ กับ ปาตลี อสูรสาวตนหนึ่งซึ่งไร้รูปร่างตัวตน
กลเทพเป็นชายหนุ่มนักธุรกิจหน้าตาดี ฐานะดี จิตใจอ่อนโยน นุ่มนวล แต่เข้มแข็งทั้งทางโลกและทางธรรม สายตาสามารถสื่อได้ทั้งความเมตตาและคมกริบเหมือนจะมองทะลุไปถึงความคิดจิตใจของคู่สนทนา ประกอบกับมีซิกเซ้นส์พิเศษบางประการทำให้เป็นคนที่มีทั้งความอบอุ่นและลึกลับอยู่ในตัว จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวในความเพียบพร้อมคือความเหงาอ้างว้างลึกๆในใจ
ปาตลี อสูรสาวแสนซน ช่างยั่ว ขี้งอน จากอสูรพิภพ กึ่งกลางระหว่างสวรรค์กับโลกมนุษย์ พลัดมาอยู่ในโลกของมนุษย์ในสภาพของจิตที่ไร้รูปร่างตัวตน เมื่อได้เจอกับกลเทพซึ่งสามารถติดต่อสื่อสารกันทางจิตได้ ปาตลีก็วนเวียนพูดคุย ตอแย กับกลเทพอยู่เสมอ โดยบางครั้งก็เข้าไปสิงในรูปวาดของหญิงสาวคนหนึ่งแทนความมีรูปจริง ปาตลีบอกกลเทพว่า เขาอยากให้เธอมีรูปลักษณะแบบไหนก็แล้วแต่ความคิดของเขาเอง กลเทพจึงถือเอารูปวาดหญิงสาวคนนั้นเป็นจินตนาการของเขาที่มีต่อปาตลีในรูปของมนุษย์ ทั้งสองพูดคุยกัน เถียงกัน งอนกัน ห่วงใยกัน ในลักษณะอันแปลกประหลาด จนเกิดความผูกพัน ปาตลีช่วยลบความเหงาในใจกลเทพออกไปจนหมดสิ้น
อันธิกา จิตรกรสาวสวยผู้เป็นนางแบบตัวจริงของรูปวาดที่กลเทพใช้เป็นตัวแทนของปาตลี อันธิกามีนิสัยเอาแต่ใจเหมือนเด็กขี้อิจฉา ทุกอย่างที่เป็นของเธอก็ต้องเป็นของเธอคนเดียว ไม่แบ่ง ไม่ปล่อยให้คนอื่นครอบครอง แม้เธอจะไม่ได้ต้องการของชิ้นนั้นแล้วก็ตาม และต้องได้ในทุกสิ่งที่อยากได้ ไม่ว่าจะด้วยทางใด หรือทำร้ายจิตใจคนอื่นแค่ไหน เมื่อได้พบกลเทพ และเห็นว่ากลเทพสนใจรูปวาดของเธอ อันธิกาก็เข้าใจว่ากลเทพมีใจให้เธอ และเธอก็สนใจเขาเช่นกัน
.........ความจริงมีเรื่องราวของตัวละครสำคัญอื่นอีก แต่ในที่นี้ขี้เกียจจินตนาการว่าใครเหมาะสม เลยพูดถึงแค่นี้
บทของกลเทพ ณเดชน์เล่นได้ไม่ยากจากบุคลิกนุ่มนวลแต่เข้มแข็ง ประกอบกับสายตาณเดชน์มีความซับซ้อน ทั้งความอ่อนโยนและความลึกลับคมกล้า น่าจะทำให้บทนี้มีมิติได้ไม่ยาก
บทของปาตลีและอันธิกา ญาญ่าจะได้แสดงสองบทที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะบทอันธิกาซึ่งเต็มไปด้วยโมหะและความริษยา ได้เล่นบทแบบนี้โดยที่ยังมีอีกบทแสดงเป็นนางเอก หาไม่ได้ง่ายๆนา เพราะบทปาตลีก็จะน่าเอ็นดู น่าตี และน่าเห็นใจไปพร้อมๆกัน
ในนิยาย ที่จริงความผูกพันของกลเทพและปาตลียังมีไม่มากพอในความรู้สึกเรา เพราะนิยายจะถ่ายเทความสำคัญไปที่ตัวละครอื่นๆด้วยค่อนข้างมาก แต่ถ้าสร้างเป็นละครแล้วได้เพิ่มตรงจุดนี้ไป น่าจะประทับใจขึ้นอีก
แต่เรื่องที่ต้องปรบมือให้คือการสอดแทรกหลักธรรมได้พอเหมาะพอดี มีความสำคัญ แต่ไม่รู้สึกถูกยัดเยียด อ่านเข้าใจง่ายและได้ข้อคิดที่น่าสนใจ ถ้าเขียนบทดีดีก็จะมีคำสอนที่ทำให้ละครมีคุณค่านอกเหนือจากความสนุกแน่นอน
อ่านนิยายแล้วมโนละคร ณเดชน์-ญาญ่า "มายาเทพ"
อ่านนิยายแล้วอยากถ่ายทอดจินตนาการมาเล่าสู่กันฟัง ตามประสา nyfc เราจะคิดถึงใครได้นอกจากสองคนนี้
“มายาเทพ” (เขียนโดย แม่ช้อง) เรื่องราวความผูกพันของ กลเทพ กับ ปาตลี อสูรสาวตนหนึ่งซึ่งไร้รูปร่างตัวตน
กลเทพเป็นชายหนุ่มนักธุรกิจหน้าตาดี ฐานะดี จิตใจอ่อนโยน นุ่มนวล แต่เข้มแข็งทั้งทางโลกและทางธรรม สายตาสามารถสื่อได้ทั้งความเมตตาและคมกริบเหมือนจะมองทะลุไปถึงความคิดจิตใจของคู่สนทนา ประกอบกับมีซิกเซ้นส์พิเศษบางประการทำให้เป็นคนที่มีทั้งความอบอุ่นและลึกลับอยู่ในตัว จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวในความเพียบพร้อมคือความเหงาอ้างว้างลึกๆในใจ
ปาตลี อสูรสาวแสนซน ช่างยั่ว ขี้งอน จากอสูรพิภพ กึ่งกลางระหว่างสวรรค์กับโลกมนุษย์ พลัดมาอยู่ในโลกของมนุษย์ในสภาพของจิตที่ไร้รูปร่างตัวตน เมื่อได้เจอกับกลเทพซึ่งสามารถติดต่อสื่อสารกันทางจิตได้ ปาตลีก็วนเวียนพูดคุย ตอแย กับกลเทพอยู่เสมอ โดยบางครั้งก็เข้าไปสิงในรูปวาดของหญิงสาวคนหนึ่งแทนความมีรูปจริง ปาตลีบอกกลเทพว่า เขาอยากให้เธอมีรูปลักษณะแบบไหนก็แล้วแต่ความคิดของเขาเอง กลเทพจึงถือเอารูปวาดหญิงสาวคนนั้นเป็นจินตนาการของเขาที่มีต่อปาตลีในรูปของมนุษย์ ทั้งสองพูดคุยกัน เถียงกัน งอนกัน ห่วงใยกัน ในลักษณะอันแปลกประหลาด จนเกิดความผูกพัน ปาตลีช่วยลบความเหงาในใจกลเทพออกไปจนหมดสิ้น
อันธิกา จิตรกรสาวสวยผู้เป็นนางแบบตัวจริงของรูปวาดที่กลเทพใช้เป็นตัวแทนของปาตลี อันธิกามีนิสัยเอาแต่ใจเหมือนเด็กขี้อิจฉา ทุกอย่างที่เป็นของเธอก็ต้องเป็นของเธอคนเดียว ไม่แบ่ง ไม่ปล่อยให้คนอื่นครอบครอง แม้เธอจะไม่ได้ต้องการของชิ้นนั้นแล้วก็ตาม และต้องได้ในทุกสิ่งที่อยากได้ ไม่ว่าจะด้วยทางใด หรือทำร้ายจิตใจคนอื่นแค่ไหน เมื่อได้พบกลเทพ และเห็นว่ากลเทพสนใจรูปวาดของเธอ อันธิกาก็เข้าใจว่ากลเทพมีใจให้เธอ และเธอก็สนใจเขาเช่นกัน
.........ความจริงมีเรื่องราวของตัวละครสำคัญอื่นอีก แต่ในที่นี้ขี้เกียจจินตนาการว่าใครเหมาะสม เลยพูดถึงแค่นี้
บทของกลเทพ ณเดชน์เล่นได้ไม่ยากจากบุคลิกนุ่มนวลแต่เข้มแข็ง ประกอบกับสายตาณเดชน์มีความซับซ้อน ทั้งความอ่อนโยนและความลึกลับคมกล้า น่าจะทำให้บทนี้มีมิติได้ไม่ยาก
บทของปาตลีและอันธิกา ญาญ่าจะได้แสดงสองบทที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะบทอันธิกาซึ่งเต็มไปด้วยโมหะและความริษยา ได้เล่นบทแบบนี้โดยที่ยังมีอีกบทแสดงเป็นนางเอก หาไม่ได้ง่ายๆนา เพราะบทปาตลีก็จะน่าเอ็นดู น่าตี และน่าเห็นใจไปพร้อมๆกัน
ในนิยาย ที่จริงความผูกพันของกลเทพและปาตลียังมีไม่มากพอในความรู้สึกเรา เพราะนิยายจะถ่ายเทความสำคัญไปที่ตัวละครอื่นๆด้วยค่อนข้างมาก แต่ถ้าสร้างเป็นละครแล้วได้เพิ่มตรงจุดนี้ไป น่าจะประทับใจขึ้นอีก
แต่เรื่องที่ต้องปรบมือให้คือการสอดแทรกหลักธรรมได้พอเหมาะพอดี มีความสำคัญ แต่ไม่รู้สึกถูกยัดเยียด อ่านเข้าใจง่ายและได้ข้อคิดที่น่าสนใจ ถ้าเขียนบทดีดีก็จะมีคำสอนที่ทำให้ละครมีคุณค่านอกเหนือจากความสนุกแน่นอน