ขาใหญ่ข้าวรัฐบาลสั่งดัมพ์ราคาหนัก ทั้งตลาดในและต่างประเทศ หาเงินต่อชีวิตจำนำข้าว ผู้ส่งออกโวยทำการค้าแบบไม่แฟร์ ตัดราคาต่ำกว่าเจ้าอื่น 40-50 ดอลล์ต่อตัน ระบุแม้แต่เวียดนามยังสะเทือน "ข้าวไชยพร" เปิดใจฮุบข้าวอิรักแล้วกว่า 8 แสนตัน ด้านชาวนาหวั่นยุบสภาทำชวดเงินค่าข้าว -ป.ป.ช.ชี้มีมูลข้าวจีทูจีเทียม ส่งมอบไม่ตรงตามสัญญา ลุยตรวจสอบต่อกรณีนำโควตาฉลากมาซื้อข้าว
++สั่งดัมพ์ราคาแย่งออร์เดอร์
แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า
ล่าสุดบริษัทส่งออกข้าวรายใหญ่รายหนึ่งที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับผู้มากบารมีในรัฐบาล และเป็นที่รู้จักกันดีในวงการ(บริษัท ส.) ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้สิทธิพิเศษในการซื้อข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลในราคาต่ำไม่จำกัดปริมาณ และได้สิทธิ์นำข้าวไปขายก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินทีหลัง มิหนำซ้ำยังคงมีการนำข้าวในสต๊อกรัฐบาลออกมาเร่ขายตลาดในประเทศอย่างต่อเนื่อง และกระทำการที่หนักข้อมากยิ่งขึ้น โดยที่นอกจากจะนำข้าวส่วนหนึ่งไปเร่ขายให้กับโรงสีหลายราย นำไปเวียนเทียนในโครงการรับจำนำเพื่อกินส่วนต่างราคาแล้ว อีกด้านหนึ่งบริษัทดังกล่าวยังได้ทำการขายตัดราคาผู้ส่งออกข้าวรายอื่น ทำให้สามารถแย่งลูกค้าได้เพิ่มเป็นจำนวนมาก และทำให้ทั้งวงการค้าข้าวปั่นป่วนอยู่ในเวลานี้
แหล่งข่าวยังขยายความเพิ่มเติมว่า
ล่าสุดบริษัทขาใหญ่ใกล้ชิดรัฐบาลรายดังกล่าวได้เสนอราคาขายข้าวขาว 5% ซึ่งเป็นข้าวใหม่ ให้ลูกค้าต่างประเทศในราคาเอฟโอบี(ส่งมอบ ณ ท่าเรือต้นทาง) ราคาเพียง 380 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน จากที่สามารถซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาลได้ในราคาต่ำเพียง 8-9 บาทต่อกิโลกรัม หรือ 8-9 พันบาทต่อตันเท่านั้น ขณะที่รายอื่นเสนอราคาลูกค้าเฉลี่ยที่ 415-420 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน หรือต่างกันถึง 35-40 ดอลลาร์สหรัฐฯ
"
ราคาที่เขาเสนอยังต่ำกว่าราคาชนิดเดียวจากเวียดนามที่ยังขายอยู่ที่ 400-405 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน หรือเขาถูกกว่าข้าวเวียดนามกว่า 20 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ทำให้เวียดนามต้องลดราคาแข่งลงไปอีก ขณะที่ข้าวขาว 100% เกรดบี ผู้ค้ารายอื่นเสนอราคาที่ 435-440 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่บริษัทดังกล่าวเสนอเพียง 390 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือถูกกว่ากันถึง 45-50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน แล้วอย่างนี้เราจะเอาอะไรไปสู้ ถือเป็นการผูกขาดตลาด เป็นการค้าแบบทำลายล้าง แข่งขันไม่แฟร์"
ชาวนาแห่จำนำใบประทวน
ด้านนายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย เปิดเผยว่าจากที่รัฐบาลมีปัญหาทางการเงินที่จะนำมาจ่ายให้กับชาวนาที่นำข้าวมาจำนำ ทำให้เวลานี้ข้าวรอบนาปรัง 2556 และนาปี 2556/57 (เริ่ม 1 ต.ค.56) มีชาวนาเป็นจำนวนมากที่ได้รับประทวนแล้วยังไม่สามารถขึ้นเงินค่าข้าวจาก ธ.ก.ส.ได้ ล่าสุดมีชาวนาในเขตภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นจำนวนมากได้แก้ปัญหาโดยนำใบประทวนไปจำนำกับโรงสี เพื่อนำเงินออกมาใช้ก่อนโดยยอมเสียดอกเบี้ยในอัตราที่ตกลงกันหากได้รับเงินค่าข้าวจากทางการแล้ว
"เงินค่าข้าวที่ชาวนานำมารับจำนำช่วงรอยต่อหลังสิ้นสุดโครงการรอบที่แล้ว (สิ้นสุด 15 ก.ย.) และรัฐบาลได้รับปากจะอนุโลมให้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2556 ชาวนาก็ยังไม่ได้รับเงินเช่นกัน อย่างไรก็ดีจากที่ไทยมีปัญหาการเมือง และส่อจะยุบสภา ชาวนาเกรงโครงการรับจำนำข้าวจะมีปัญหา และทำให้ชาวนาเดือดร้อนในช่วงสุญญากาศ"
ป.ป.ช.ชี้มีมูลข้าวจีทูจีเทียม
ด้าน ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมการ และโฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่า จากการที่ป.ป.ช. ได้ขยายการไต่สวนไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องกรณีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าว ในช่วงที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ระหว่างรัฐบาลไทยกับผู้แทนหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนจำนวน 2 หน่วยงานนั้นพบว่าพยานหลักฐานยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้เห็นว่าเป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐจริง
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=209484%3A2013-12-04-08-58-45&catid=85%3A2009-02-08-11-22-45&Itemid=417
อิอิอิ เสร็จแน่พวกสลิ่ม เห็นปะในที่สุดรัฐบาล ก็ทำให้ข้าวไทยมาเปนอันดับ 1 ในโลกได้อีกครั้ง สู้ๆๆ รัดบาน ปู
ในที่สุดประเทศไทย ก็จะได้กลับมา เปนผู้ค้าข้าว อันดับ 1 ของโลกอีกครั้ง งานนี้ สลิ่ม หนาวแน่
++สั่งดัมพ์ราคาแย่งออร์เดอร์
แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ล่าสุดบริษัทส่งออกข้าวรายใหญ่รายหนึ่งที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับผู้มากบารมีในรัฐบาล และเป็นที่รู้จักกันดีในวงการ(บริษัท ส.) ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้สิทธิพิเศษในการซื้อข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลในราคาต่ำไม่จำกัดปริมาณ และได้สิทธิ์นำข้าวไปขายก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินทีหลัง มิหนำซ้ำยังคงมีการนำข้าวในสต๊อกรัฐบาลออกมาเร่ขายตลาดในประเทศอย่างต่อเนื่อง และกระทำการที่หนักข้อมากยิ่งขึ้น โดยที่นอกจากจะนำข้าวส่วนหนึ่งไปเร่ขายให้กับโรงสีหลายราย นำไปเวียนเทียนในโครงการรับจำนำเพื่อกินส่วนต่างราคาแล้ว อีกด้านหนึ่งบริษัทดังกล่าวยังได้ทำการขายตัดราคาผู้ส่งออกข้าวรายอื่น ทำให้สามารถแย่งลูกค้าได้เพิ่มเป็นจำนวนมาก และทำให้ทั้งวงการค้าข้าวปั่นป่วนอยู่ในเวลานี้
แหล่งข่าวยังขยายความเพิ่มเติมว่า ล่าสุดบริษัทขาใหญ่ใกล้ชิดรัฐบาลรายดังกล่าวได้เสนอราคาขายข้าวขาว 5% ซึ่งเป็นข้าวใหม่ ให้ลูกค้าต่างประเทศในราคาเอฟโอบี(ส่งมอบ ณ ท่าเรือต้นทาง) ราคาเพียง 380 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน จากที่สามารถซื้อข้าวในสต๊อกรัฐบาลได้ในราคาต่ำเพียง 8-9 บาทต่อกิโลกรัม หรือ 8-9 พันบาทต่อตันเท่านั้น ขณะที่รายอื่นเสนอราคาลูกค้าเฉลี่ยที่ 415-420 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน หรือต่างกันถึง 35-40 ดอลลาร์สหรัฐฯ
"ราคาที่เขาเสนอยังต่ำกว่าราคาชนิดเดียวจากเวียดนามที่ยังขายอยู่ที่ 400-405 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน หรือเขาถูกกว่าข้าวเวียดนามกว่า 20 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน ทำให้เวียดนามต้องลดราคาแข่งลงไปอีก ขณะที่ข้าวขาว 100% เกรดบี ผู้ค้ารายอื่นเสนอราคาที่ 435-440 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่บริษัทดังกล่าวเสนอเพียง 390 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือถูกกว่ากันถึง 45-50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน แล้วอย่างนี้เราจะเอาอะไรไปสู้ ถือเป็นการผูกขาดตลาด เป็นการค้าแบบทำลายล้าง แข่งขันไม่แฟร์"
ชาวนาแห่จำนำใบประทวน
ด้านนายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย เปิดเผยว่าจากที่รัฐบาลมีปัญหาทางการเงินที่จะนำมาจ่ายให้กับชาวนาที่นำข้าวมาจำนำ ทำให้เวลานี้ข้าวรอบนาปรัง 2556 และนาปี 2556/57 (เริ่ม 1 ต.ค.56) มีชาวนาเป็นจำนวนมากที่ได้รับประทวนแล้วยังไม่สามารถขึ้นเงินค่าข้าวจาก ธ.ก.ส.ได้ ล่าสุดมีชาวนาในเขตภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นจำนวนมากได้แก้ปัญหาโดยนำใบประทวนไปจำนำกับโรงสี เพื่อนำเงินออกมาใช้ก่อนโดยยอมเสียดอกเบี้ยในอัตราที่ตกลงกันหากได้รับเงินค่าข้าวจากทางการแล้ว
"เงินค่าข้าวที่ชาวนานำมารับจำนำช่วงรอยต่อหลังสิ้นสุดโครงการรอบที่แล้ว (สิ้นสุด 15 ก.ย.) และรัฐบาลได้รับปากจะอนุโลมให้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2556 ชาวนาก็ยังไม่ได้รับเงินเช่นกัน อย่างไรก็ดีจากที่ไทยมีปัญหาการเมือง และส่อจะยุบสภา ชาวนาเกรงโครงการรับจำนำข้าวจะมีปัญหา และทำให้ชาวนาเดือดร้อนในช่วงสุญญากาศ"
ป.ป.ช.ชี้มีมูลข้าวจีทูจีเทียม
ด้าน ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมการ และโฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่า จากการที่ป.ป.ช. ได้ขยายการไต่สวนไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องกรณีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าว ในช่วงที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ระหว่างรัฐบาลไทยกับผู้แทนหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนจำนวน 2 หน่วยงานนั้นพบว่าพยานหลักฐานยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้เห็นว่าเป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐจริง
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=209484%3A2013-12-04-08-58-45&catid=85%3A2009-02-08-11-22-45&Itemid=417
อิอิอิ เสร็จแน่พวกสลิ่ม เห็นปะในที่สุดรัฐบาล ก็ทำให้ข้าวไทยมาเปนอันดับ 1 ในโลกได้อีกครั้ง สู้ๆๆ รัดบาน ปู