ภาพรวมโลกก่อน
มองแนวโน้มค่าเงิน US$ จะแข็งค่าต่อเนื่อง เป็นการแข็งค่าที่ทะลุ trendline ที่กดมาหลายปี
การแข็งค่าคงเป้นรูปแบบค่อยเป็นค่อยไป
เหตุผลน่าจะเป็นเรื่องของ QE จะมีแนวโน้มลดลง และภาพรวมของเศรษฐกิจอเมริกาที่ค่อยๆฟื้นตัว
แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มกลับเป็นขาขึ้น คิดว่าเป็นเพราะ GDP โลกจะดีขึ้นต่อเนื่อง มีผลกระทบต่อเงินเฟ้อ
คอมโมดิตี้จะกลับมาเป็นต้นเหตุของเงินเฟ้อ แต่จะไม่เกิดการเก็งกำไรจนเศรษฐกิจพังเหมือนรอบที่แล้ว
ตลาดหุ้นเกิดใหม่ที่ขึ้นมาแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รวมถึว SET จะโตได้น้อยลง และค่อนข้างเหวี่ยง ต้องเลือกตัวเล่น
เลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการส่งออก บาทอ่อน US$ แข็งค่า
มีหนี้เป็น $ น้อย มี assets เป็น $ มาก
ส่วนตัวผมจะเน้นบ.ที่ขายสินค้าแบบคอมโมดิตี้ ที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น เอาแบบที่จำเป็นต้องใช้
ให้ดีก็มีแบรนด์เป็นของตัวเอง ไม่ใช่พวกรับจ้างผลิต (กลัวเจอลูกค้าย้ายฐานการผลิต)
ตลาดหุ้นที่น่าสนใจสำหรับผมในตอนนี้ที่สุด คือ ตลาดเซี่ยงไฮ้
ปล.เดาล้วนๆ ทดสอบความแม่น เดี๋ยวไว้ปลายปีหน้า เอามาเปิดดูอีกที เหอๆ
ขอเดาแนวโน้มปีหน้า
มองแนวโน้มค่าเงิน US$ จะแข็งค่าต่อเนื่อง เป็นการแข็งค่าที่ทะลุ trendline ที่กดมาหลายปี
การแข็งค่าคงเป้นรูปแบบค่อยเป็นค่อยไป
เหตุผลน่าจะเป็นเรื่องของ QE จะมีแนวโน้มลดลง และภาพรวมของเศรษฐกิจอเมริกาที่ค่อยๆฟื้นตัว
แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มกลับเป็นขาขึ้น คิดว่าเป็นเพราะ GDP โลกจะดีขึ้นต่อเนื่อง มีผลกระทบต่อเงินเฟ้อ
คอมโมดิตี้จะกลับมาเป็นต้นเหตุของเงินเฟ้อ แต่จะไม่เกิดการเก็งกำไรจนเศรษฐกิจพังเหมือนรอบที่แล้ว
ตลาดหุ้นเกิดใหม่ที่ขึ้นมาแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รวมถึว SET จะโตได้น้อยลง และค่อนข้างเหวี่ยง ต้องเลือกตัวเล่น
เลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการส่งออก บาทอ่อน US$ แข็งค่า
มีหนี้เป็น $ น้อย มี assets เป็น $ มาก
ส่วนตัวผมจะเน้นบ.ที่ขายสินค้าแบบคอมโมดิตี้ ที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น เอาแบบที่จำเป็นต้องใช้
ให้ดีก็มีแบรนด์เป็นของตัวเอง ไม่ใช่พวกรับจ้างผลิต (กลัวเจอลูกค้าย้ายฐานการผลิต)
ตลาดหุ้นที่น่าสนใจสำหรับผมในตอนนี้ที่สุด คือ ตลาดเซี่ยงไฮ้
ปล.เดาล้วนๆ ทดสอบความแม่น เดี๋ยวไว้ปลายปีหน้า เอามาเปิดดูอีกที เหอๆ