สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ว่าองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ( ทีไอ ) ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน เผยดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น ( ซีพีไอ ) ประจำปีนี้ วิเคราะห์และรวบรวมข้อมูลการใช้อำนาจในทางมิชอบ การรับสินบนและการกระทำละเมิดกฎหมายของรัฐบาลและส่วนราชการ 177 ประเทศ โดยกำหนดระดับคะแนนจาก 0 คือคอร์รัปชั่นสูงมาก ไปจนถึง 100 คือมีความโปร่งใส
ผลปรากฎว่า เดนมาร์กและนิวซีแลนด์ครองอันดับ 1 ร่วมกัน ได้คะแนนไป 91 คะแนน ซึ่งทั้งสองประเทศยังร่วมกันครองแชมป์เมื่อปีที่แล้วด้วย
ตามด้วยฟินแลนด์และสวีเดน ครองอันดับ 3 ร่วมกัน ได้ไป 89 คะแนน
ขณะที่อันดับ 5 ยังครองร่วมกัน 2 ประเทศ คือนอร์เวย์และสิงคโปร์ ได้ไป 86 คะแนน สวิตเซอร์แลนด์อยู่ในอันดับ 7 ได้ไป 85 คะแนน
อันดับ 8 เป็นของเนเธอร์แลนด์ 83 คะแนน
และปิดท้ายในอันดับ 9 มี 2 ประเทศ ได้แก่ออสเตรเลียและแคนาดา ประเทศละ 81 คะแนน สำหรับบรรดาประเทศมหาอำนาจของโลกนั้น เยอรมนีอยู่ในอันดับ 12 ได้ไป 78 คะแนน
ตามด้วยอังกฤษในอันดับ 14 มีอยู่ 76 คะแนน
ญี่ปุ่นอยู่ที่อันดับ 18 ได้ไป 74 คะแนน
สหรัฐอยู่ที่อันดับ 19 ได้ไป 73 คะแนน
ฝรั่งเศสได้ไป 71 คะแนนอยู่ที่อันดับ 22
ส่วนจีนอยู่ที่อันดับ 80 มีอยู่ 40 คะแนน
*****************************
ด้านไทยครองอันดับ 102 ร่วมกับมอลโดวาและปานามา มีอยู่ 35 คะแนน
*****†**********************
ขณะที่ 10 อันดับประเทศท้ายตาราง เริ่มจากซีเรีย เติร์กเมนิสถานและอุซเบกิสถานครองอันดับ 168 ร่วมกัน ได้ไป 17 คะแนน อิรักอยู่ที่อันดับ 171 มีอยู่ 16 คะแนน ตามด้วยลิเบียในอันดับ 172 ได้ไป 15 คะแนน อันดับ 173 เป็นของซูดานใต้ มีอยู่ 14 คะแนน ส่วนซูดานอยู่ในอันดับ 174 ได้ไป 11 คะแนน ปิดท้ายด้วยอัฟกานิสถาน เกาหลีเหนือและโซมาเลีย ครองอันดับ 175 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายร่วมกัน 8 คะแนน
ผู้สนใจสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.transparency.org/cpi2013/results
เห็นได้ชัดว่าการเมืองไทยปัจจุบันนั้นไม่เวิค ต้องเปลี่ยนแบบทั้งหมด
ใครจะปิดหูปิดตาว่ามันดี ตามสบายครับ
อยากได้สิ่งใหม่ต้องทำสิ่งใหม่
ทำแบบเดิมผลลัพก็จะแบบเดิม
ถ้าคนทั้งโลกเชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ถูกต้องเสมอ ป่านนี้คนยังเชื่อว่าโลกแบน
จัดอันดับคอรัปชั่นน้อยที่สุดในโลก
ผลปรากฎว่า เดนมาร์กและนิวซีแลนด์ครองอันดับ 1 ร่วมกัน ได้คะแนนไป 91 คะแนน ซึ่งทั้งสองประเทศยังร่วมกันครองแชมป์เมื่อปีที่แล้วด้วย
ตามด้วยฟินแลนด์และสวีเดน ครองอันดับ 3 ร่วมกัน ได้ไป 89 คะแนน
ขณะที่อันดับ 5 ยังครองร่วมกัน 2 ประเทศ คือนอร์เวย์และสิงคโปร์ ได้ไป 86 คะแนน สวิตเซอร์แลนด์อยู่ในอันดับ 7 ได้ไป 85 คะแนน
อันดับ 8 เป็นของเนเธอร์แลนด์ 83 คะแนน
และปิดท้ายในอันดับ 9 มี 2 ประเทศ ได้แก่ออสเตรเลียและแคนาดา ประเทศละ 81 คะแนน สำหรับบรรดาประเทศมหาอำนาจของโลกนั้น เยอรมนีอยู่ในอันดับ 12 ได้ไป 78 คะแนน
ตามด้วยอังกฤษในอันดับ 14 มีอยู่ 76 คะแนน
ญี่ปุ่นอยู่ที่อันดับ 18 ได้ไป 74 คะแนน
สหรัฐอยู่ที่อันดับ 19 ได้ไป 73 คะแนน
ฝรั่งเศสได้ไป 71 คะแนนอยู่ที่อันดับ 22
ส่วนจีนอยู่ที่อันดับ 80 มีอยู่ 40 คะแนน
*****************************
ด้านไทยครองอันดับ 102 ร่วมกับมอลโดวาและปานามา มีอยู่ 35 คะแนน
*****†**********************
ขณะที่ 10 อันดับประเทศท้ายตาราง เริ่มจากซีเรีย เติร์กเมนิสถานและอุซเบกิสถานครองอันดับ 168 ร่วมกัน ได้ไป 17 คะแนน อิรักอยู่ที่อันดับ 171 มีอยู่ 16 คะแนน ตามด้วยลิเบียในอันดับ 172 ได้ไป 15 คะแนน อันดับ 173 เป็นของซูดานใต้ มีอยู่ 14 คะแนน ส่วนซูดานอยู่ในอันดับ 174 ได้ไป 11 คะแนน ปิดท้ายด้วยอัฟกานิสถาน เกาหลีเหนือและโซมาเลีย ครองอันดับ 175 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายร่วมกัน 8 คะแนน
ผู้สนใจสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.transparency.org/cpi2013/results
เห็นได้ชัดว่าการเมืองไทยปัจจุบันนั้นไม่เวิค ต้องเปลี่ยนแบบทั้งหมด
ใครจะปิดหูปิดตาว่ามันดี ตามสบายครับ
อยากได้สิ่งใหม่ต้องทำสิ่งใหม่
ทำแบบเดิมผลลัพก็จะแบบเดิม
ถ้าคนทั้งโลกเชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ถูกต้องเสมอ ป่านนี้คนยังเชื่อว่าโลกแบน