เป็นครั้งแรกที่ผมได้โพสกระทู้บนห้องราชดำเนินอยากเปิดความคิดเห็น
ต่างมุมมองจากเพื่อนๆบน Pantip แห่งนี้โดยไม่มีเจตนาอื่นแอบบแฝง
เริ่มต้นจากตั้งแต่มีการเลือกตั้งเมื่อปี 2544 เป็นช่วงเวลาแรกที่ผมได้รู้จักบุรุษที่ชื่อ
พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งในปีนั้นผมก็ได้
ใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตยเลือกตั้งเขาเข้ามาแทนพรรคการเมืองเก่าๆในช่วงนั้น
หลายพรรคที่มีแต่ระบบโกงกินประเทศและเอื่อผลประโยชน์ต่อพวกพอง
หลังจากคุณ ทักษิณ ได้เข้ามาบริหารประเทศก็ได้สร้างคุณประโยชน์มากมาย
ในหลายเรื่องเช่น 30 บาทรักษาทุกโรครวมไปถึง เบี้ยผู้สูงอายุ และยังมีนโยบาย
ช่วยเหลือชาวนาที่ยากจนอยู่อีกหลายนโยบายจนทำให้มีประชนต่างจังหวัด
ที่ไม่เคยได้รับโอกาสยกย่องและเทิดทูน
วันเวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหกในปี พ.ศ. 2548 คุณทักษิณ ก็ได้รับความไว้วางใจ
จากประชนได้รับเลือกตั้งเข้ามาอีกครั้งเป็นครั้งที่สองและเป็น นายกรัฐมนตรีคนแรกที่
อยู่จนครบวาระ 4 ปี แถมยังได้รับเลือกมาเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน (ผมก็ยังคงเลือกคุณทักษิณ) จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ
อันนี้เริ่มมีรอยร้าวบางๆเกินขึ้นจากกลุ่มตรงข้าม คุณทักษิณ
ฉันใดฉันนั้นเมื่อมนุษย์เรามีอำนาจมากๆทำอะไรได้ทุกอย่าง... คุณทักษิณก็เริ่มเปลี่ยนไป
เริ่มแบ่งพวกเขาใช่พวกเราไม่ใช่ตอนนั้นจำได้ว่าผมเริ่มทำงานมาได้ 4 ปีพอมีวุฒิภาวะ
เสพข่าวและติดตามผลการทำงานของรัฐบาลที่ผมเลือก โดยคิดมาตลอดว่า
เขาดีมากช่วยพัฒนาบ้านเมืองของเราได้แต่.. ก็มีหลายสิ่งที่เริ่มถูกริดรอนในทางประชาธิปไตย
ต้องยอมรับว่าการซื้อสิทธิขายเสียงมีตั้งแต่ระดับล่างสุด อบต,อบจ,นายกเทศมนตรี
โดยแถวบ้านผมถ้าจะลงนายกเล็กต้องมีเงินเริ่มต้นอย่างน้อย 2 ล้าน เพื่อใช้เป็นสินน้ำใจ
ซึ่งคู่แข่งก็ต้องลงเงินไม่ต่างกันที่เหลือก็อยู่ที่ว่า สายใครจะแข็งกว่ากัน เงินอาจเป็นเพียงปัจจัยรอง
เมื่อเขาลงทุนซื้อเสียงเข้ามา.. ต่อมาก็ต้องเข้ามาสู่โหมดเอาคืนโดยเริ่มตั่งแต่ฝากคนเข้า เทศบาลก็
มีตำแหน่งละ 50,000 ถึง 100,000 แล้วแต่เขาเรียกลองคิดดูสิครับอยู่ในตำแหน่ง 4 ปีได้เวลากอบโกยเอาคืนเท่าไร
ระบบนี้มันเน่ามาตั้งแต่การเมืองระดับท้องถิ่นแล้วแล้วการเมืองระดับประเทศจะไปเหลือหรือครับ??
ที่ผมบอกนี่เป็นประชาธิปไตยใบตองแห้งมันใช่ประชาธิปไตยตามเจตจำนงจริงที่ไหน
วันนี้องค์กรอิสระสำคัญและจำเป็นที่สุดสำหรับประเทศไทยเรา แต่ต้องเป็นองค์อิสระที่ปลอดการเมือง
แทรกแทรงนะครับและควรทำงานในเชิงรุกและภาคประชนก้สามารถตรวจสอบได้ด้วย
วันนี้ รัฐบาลชุดนี้ เริ่มหมดความชอบธรรมหลักๆแล้วก็คือเริ่มใช้เผด็จการรัฐสภานั้นแหละครับ
แก้รัฐธรรมนูญแก้ได้แต่ต้องค่อยๆแก้โดยคำนึงถึงความสุจริตก่อนประชาชนมีความแตกแยกอยู่ตอนนี้
จะทำอะไรก็ต้องคิดรอบด้าน การออก พรบ.แบบสุดซอยมันเป็นการตัดสินใจที่แย่ที่สุดของ สส และ สว
ของสภาชุดนี้แถมยังถูกต่อต้านจากภายนอกอย่างรุนแรงและไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรเลย??
การร่างสภาผัวเมียนั้นผมบอกตามตรงจากที่กล่าวมาในขั้นต้นมันเป็นช่องทางที่จำย้ำความทุจริต
ไร้ซึ่งการตรวจสอบซึ่งต้องยอมรับที่จะจำกัดมันออกไปคือถ้า สว จะมาจากการเลือกตั้งก็ต้องเลือกตั้ง
แต่ สว และ สส ไม่ควรเป็นเครือญาติกัน
ยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังพบปัญหาทุจริตอีกมากกับรัฐบาลชุดนี้แต่ผมคิดว่า
ถ้ารัฐบาลมุ่งมั้นในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนแต่แรกปล่อยให้เวลาผ่านไป
พยายามพิสูจน์คนในรัฐบาลพยายามกำจัดเนื้อร้ายออกไป ไม่ทำลายองค์กรอิสระไม่แทรกแซง
ความชอบธรรมของรัฐบาลก็จะมีมากขึ้น
วันนี้เลยมาถึงจุดที่รัฐบาลคงต้องรับผิดชอบในกรณีที่ สส. และ สว. ของพรรคเพื่อไทยเอง
ยอมรับผ่าน พรบ.นิรโทษกรรม แม้จะอ้างว่า สว.ไม่รับพิจารณาแต่ก็ไม่สามารถปฎิเสธความรับผิดชอบได้ครับ
การลาออกและยุบสภาเป็นทางออกในตอนนี้เป็นการถอยแบบแสดงความรับผิดชอบ
สำหรับคุณสุเทพนั้น เขาแค่อาศัยความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลมาปลุกมวลชนที่เห็นต่าง
จากรัฐบาล ผมจะบอกว่าเราเป็นคนไทยและผมเชื่อว่าส่วนใหญ่อยากให้ประเทศเดินต่อข้างหน้า
ลดความขัดแย้ง ลดการคอรัปชั่น ช่วยตรวจสอบ สส. สว และ องค์กรอิสระ
อย่าเลือกเข้าข้างแค่ พรรคที่เราชอบ อย่าเลือกมาชุมนุมเพียงเพราะเราเห็นต่างกับฝ่ายตรงข้าม
แสดงความเกลียดชังคนไทยด้วยกันเอง ทั้งๆที่บางครั้งคนที่เห็นต่างเป็นญาติเราเอง
ผมอยากฟังความคิดเห็นของเพื่อนๆที่ Pantip นี้ครับ
อยากลองดูว่าการเมืองบริสุทธิ์นั้นจะสามารถเกิดขึ้นได้ใน ประเทศไทยเราได้หรือไม่
การเมืองวันนี้ทางออกที่ภาคประชาชนเห็นว่าควรเดินไปทางไหน
ต่างมุมมองจากเพื่อนๆบน Pantip แห่งนี้โดยไม่มีเจตนาอื่นแอบบแฝง
เริ่มต้นจากตั้งแต่มีการเลือกตั้งเมื่อปี 2544 เป็นช่วงเวลาแรกที่ผมได้รู้จักบุรุษที่ชื่อ
พันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งในปีนั้นผมก็ได้
ใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตยเลือกตั้งเขาเข้ามาแทนพรรคการเมืองเก่าๆในช่วงนั้น
หลายพรรคที่มีแต่ระบบโกงกินประเทศและเอื่อผลประโยชน์ต่อพวกพอง
หลังจากคุณ ทักษิณ ได้เข้ามาบริหารประเทศก็ได้สร้างคุณประโยชน์มากมาย
ในหลายเรื่องเช่น 30 บาทรักษาทุกโรครวมไปถึง เบี้ยผู้สูงอายุ และยังมีนโยบาย
ช่วยเหลือชาวนาที่ยากจนอยู่อีกหลายนโยบายจนทำให้มีประชนต่างจังหวัด
ที่ไม่เคยได้รับโอกาสยกย่องและเทิดทูน
วันเวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหกในปี พ.ศ. 2548 คุณทักษิณ ก็ได้รับความไว้วางใจ
จากประชนได้รับเลือกตั้งเข้ามาอีกครั้งเป็นครั้งที่สองและเป็น นายกรัฐมนตรีคนแรกที่
อยู่จนครบวาระ 4 ปี แถมยังได้รับเลือกมาเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน (ผมก็ยังคงเลือกคุณทักษิณ) จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ
อันนี้เริ่มมีรอยร้าวบางๆเกินขึ้นจากกลุ่มตรงข้าม คุณทักษิณ
ฉันใดฉันนั้นเมื่อมนุษย์เรามีอำนาจมากๆทำอะไรได้ทุกอย่าง... คุณทักษิณก็เริ่มเปลี่ยนไป
เริ่มแบ่งพวกเขาใช่พวกเราไม่ใช่ตอนนั้นจำได้ว่าผมเริ่มทำงานมาได้ 4 ปีพอมีวุฒิภาวะ
เสพข่าวและติดตามผลการทำงานของรัฐบาลที่ผมเลือก โดยคิดมาตลอดว่า
เขาดีมากช่วยพัฒนาบ้านเมืองของเราได้แต่.. ก็มีหลายสิ่งที่เริ่มถูกริดรอนในทางประชาธิปไตย
ต้องยอมรับว่าการซื้อสิทธิขายเสียงมีตั้งแต่ระดับล่างสุด อบต,อบจ,นายกเทศมนตรี
โดยแถวบ้านผมถ้าจะลงนายกเล็กต้องมีเงินเริ่มต้นอย่างน้อย 2 ล้าน เพื่อใช้เป็นสินน้ำใจ
ซึ่งคู่แข่งก็ต้องลงเงินไม่ต่างกันที่เหลือก็อยู่ที่ว่า สายใครจะแข็งกว่ากัน เงินอาจเป็นเพียงปัจจัยรอง
เมื่อเขาลงทุนซื้อเสียงเข้ามา.. ต่อมาก็ต้องเข้ามาสู่โหมดเอาคืนโดยเริ่มตั่งแต่ฝากคนเข้า เทศบาลก็
มีตำแหน่งละ 50,000 ถึง 100,000 แล้วแต่เขาเรียกลองคิดดูสิครับอยู่ในตำแหน่ง 4 ปีได้เวลากอบโกยเอาคืนเท่าไร
ระบบนี้มันเน่ามาตั้งแต่การเมืองระดับท้องถิ่นแล้วแล้วการเมืองระดับประเทศจะไปเหลือหรือครับ??
ที่ผมบอกนี่เป็นประชาธิปไตยใบตองแห้งมันใช่ประชาธิปไตยตามเจตจำนงจริงที่ไหน
วันนี้องค์กรอิสระสำคัญและจำเป็นที่สุดสำหรับประเทศไทยเรา แต่ต้องเป็นองค์อิสระที่ปลอดการเมือง
แทรกแทรงนะครับและควรทำงานในเชิงรุกและภาคประชนก้สามารถตรวจสอบได้ด้วย
วันนี้ รัฐบาลชุดนี้ เริ่มหมดความชอบธรรมหลักๆแล้วก็คือเริ่มใช้เผด็จการรัฐสภานั้นแหละครับ
แก้รัฐธรรมนูญแก้ได้แต่ต้องค่อยๆแก้โดยคำนึงถึงความสุจริตก่อนประชาชนมีความแตกแยกอยู่ตอนนี้
จะทำอะไรก็ต้องคิดรอบด้าน การออก พรบ.แบบสุดซอยมันเป็นการตัดสินใจที่แย่ที่สุดของ สส และ สว
ของสภาชุดนี้แถมยังถูกต่อต้านจากภายนอกอย่างรุนแรงและไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรเลย??
การร่างสภาผัวเมียนั้นผมบอกตามตรงจากที่กล่าวมาในขั้นต้นมันเป็นช่องทางที่จำย้ำความทุจริต
ไร้ซึ่งการตรวจสอบซึ่งต้องยอมรับที่จะจำกัดมันออกไปคือถ้า สว จะมาจากการเลือกตั้งก็ต้องเลือกตั้ง
แต่ สว และ สส ไม่ควรเป็นเครือญาติกัน
ยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังพบปัญหาทุจริตอีกมากกับรัฐบาลชุดนี้แต่ผมคิดว่า
ถ้ารัฐบาลมุ่งมั้นในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนแต่แรกปล่อยให้เวลาผ่านไป
พยายามพิสูจน์คนในรัฐบาลพยายามกำจัดเนื้อร้ายออกไป ไม่ทำลายองค์กรอิสระไม่แทรกแซง
ความชอบธรรมของรัฐบาลก็จะมีมากขึ้น
วันนี้เลยมาถึงจุดที่รัฐบาลคงต้องรับผิดชอบในกรณีที่ สส. และ สว. ของพรรคเพื่อไทยเอง
ยอมรับผ่าน พรบ.นิรโทษกรรม แม้จะอ้างว่า สว.ไม่รับพิจารณาแต่ก็ไม่สามารถปฎิเสธความรับผิดชอบได้ครับ
การลาออกและยุบสภาเป็นทางออกในตอนนี้เป็นการถอยแบบแสดงความรับผิดชอบ
สำหรับคุณสุเทพนั้น เขาแค่อาศัยความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลมาปลุกมวลชนที่เห็นต่าง
จากรัฐบาล ผมจะบอกว่าเราเป็นคนไทยและผมเชื่อว่าส่วนใหญ่อยากให้ประเทศเดินต่อข้างหน้า
ลดความขัดแย้ง ลดการคอรัปชั่น ช่วยตรวจสอบ สส. สว และ องค์กรอิสระ
อย่าเลือกเข้าข้างแค่ พรรคที่เราชอบ อย่าเลือกมาชุมนุมเพียงเพราะเราเห็นต่างกับฝ่ายตรงข้าม
แสดงความเกลียดชังคนไทยด้วยกันเอง ทั้งๆที่บางครั้งคนที่เห็นต่างเป็นญาติเราเอง
ผมอยากฟังความคิดเห็นของเพื่อนๆที่ Pantip นี้ครับ
อยากลองดูว่าการเมืองบริสุทธิ์นั้นจะสามารถเกิดขึ้นได้ใน ประเทศไทยเราได้หรือไม่