จากข่าวด้านล่าง
ขอถามผู้รู้ว่า...
1. Bitcoin มีการคำนวณค่าเงินอย่างไรที่ว่าใช้ software หลายตัวทั่วโลกช่วยคำนวน?
2. ทำไม ธ. ทั่วโลกถึงให้การยอมรับในการรับแลกเปลี่ยนเป็นเงินจริง
เพราะมูลค่าหวือหวามาก และไม่ต้องมีทองคำ back up เหมือนเงินจริง มันเหมือนแชร์ลูกโซ่, MLM ทำนองนั้นใช่ไหม?
**//**//**//**//**
บิตคอยน์ หรือ Bitcoin คือสกุลเงินเสมือนที่ถูกตั้งขึ้นมาสำหรับการทำธุรกรรมบนโลกไอที
บิตคอยน์ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 โดยฝีมือการพัฒนาของเซียนคอมพิวเตอร์ผู้ลึกลับ
ที่ใช้ชื่อว่าซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto)
ล่าสุดบิตคอยน์เป็นศัพท์ที่ถูกบัญญัติความหมายไว้ในพจนานุกรมออคฟอร์ดว่า
“สกุลเงินดิจิตอลในการทำธุรกรรมซึ่งสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องผ่านธนาคารกลาง”
หลักการของบิตคอยน์ คือ การเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่อยู่ภายใต้การดูแลของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
จุดประสงค์ของบิตคอยน์ คือ การลดบทบาทของธนาคารในการกำหนดค่าเงิน, การพิมพ์-แจกจ่ายธนบัตร
และการบันทึกมูลค่าการโอน-ฝากเงิน ซึ่งแทนที่จะต้องให้ธนาคารเป็นผู้ดูแลการโอนเงินของผู้ใช้
แต่บิตคอยน์ออกแบบให้ชาว Bitcoin ทุกคนสามารถรับรู้และช่วยยืนยันการโอนเงินซึ่งกันและกัน
ผ่านซอฟต์แวร์และไฟล์ข้อมูลเฉพาะทางที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายทั่วโลก
อีกสิ่งที่น่าสนใจ คือ มูลค่าของเงินบิตคอยน์จะเปลี่ยนแปลงขึ้นลงไม่คงที่
เนื่องจากการกำหนดค่าเงิน 1 บิตคอยน์จะเกิดจากการคำนวณผ่านกลุ่มบุคคลทั่วโลก
ที่อุทิศคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงของตัวเองเพื่อเปิดซอฟต์แวร์ของบิตคอยน์ให้ทำงานตลอดเวลา
(คนกลุ่มนี้จะได้รับบิตคอยน์กลับมาให้ตัวเองเป็นการตอบแทน)
โดยเงินบิตคอยน์นั้นสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินจริงของประเทศต่างๆได้
หรือสามารถนำไปซื้อสินค้าและบริการบนอินเทอร์เน็ต
ที่ผ่านมา ทั่วโลกมีบริษัทรับแลกเงินสกุลบิตคอยน์ให้เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐหรือเงินยูโรมากมาย
ตามค่าเงินที่เกิดจากการคำนวณของซอฟต์แวร์ โดย Mt.Gox คือผู้ให้บริการแลกเงินรายใหญ่ที่สุด
ที่เปิดรับแลกเปลี่ยนธุรกรรมบิตคอยน์ถึง 80% ในการนำเงินเข้าและออกจากระบบบิตคอยน์
ปรากฎว่ารายงานล่าสุดพบมูลค่าเงิน 1 บิตคอยน์มีมูลค่าสูงเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐ
บนกระดานแลกเปลี่ยนของเว็บไซต์ Mt. Gox ตั้งแต่วันที่ 26-27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เงิน 1 บิตคอยน์เพิ่งมีมูลค่าเกิน 100 เหรียญสหรัฐในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ก่อนจะเพิ่มมูลค่าขึ้น 1 เท่าตัวในเดือนเดียวกัน
หากคำนวณการเปลี่ยนแปลงในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (เมษายน-พฤศจิกายน 2013)
จะพบว่ามูลค่าเงินบิตคอยน์นั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าตัว อย่างไรก็ตาม
มูลค่าการซื้อขายเงินบิตคอยน์ในเว็บไซต์อื่นยังมีค่าเฉลี่ยระดับต่ำกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐ
ซึ่งคาดว่าเงินบิตคอยน์จะผันผวนต่อเนื่องตลอดปีนี้และปีหน้า
สื่ออเมริกันวิเคราะห์ว่า ภาวะเงินบิตคอยน์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นรวดเร็วนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ
เริ่มขานรับรูปแบบสกุลเงินเสมือน หรือ virtual currency ซึ่งเป็นระบบการเงินที่มีแนวคิด
ถูกควบคุมด้วยเทคโนโลยีแทนที่นโยบายการเงินจากธนาคาร นอกจากนี้
รายงานข่าวมากมายยังชี้ว่านักลงทุนผู้มีชื่อเสียงและผู้ก่อตั้งกิจการเกิดใหม่จำนวนมาก
มีแผนจะนำระบบเงินบิตคอยน์มาใช้จ่ายกับผู้บริโภควงกว้างหรือเมนสตรีมด้วย
ทำให้การซื้อขายบิตคอยน์มีความคึกคักมากขึ้นในพริบตา
ในขณะที่บิตคอยน์ได้รับความสนใจจากชาวโลกเพราะการไม่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลประเทศใดประเทศหนึ่ง
แต่ “ธนาคารแห่งประเทศไทย” กลับสั่งระงับการแลกเปลี่ยนเงินบิตคอยน์ภายในประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยให้เหตุผลว่าสกุลเงินบิตคอยน์ขาดข้อกฎหมายกำกับเฉพาะด้านที่ชัดเจน
ทำให้การให้บริการที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายการเงินประเทศไทย
Bitcoin มีการคำนวณค่าเงินอย่างไร?
ขอถามผู้รู้ว่า...
1. Bitcoin มีการคำนวณค่าเงินอย่างไรที่ว่าใช้ software หลายตัวทั่วโลกช่วยคำนวน?
2. ทำไม ธ. ทั่วโลกถึงให้การยอมรับในการรับแลกเปลี่ยนเป็นเงินจริง
เพราะมูลค่าหวือหวามาก และไม่ต้องมีทองคำ back up เหมือนเงินจริง มันเหมือนแชร์ลูกโซ่, MLM ทำนองนั้นใช่ไหม?
**//**//**//**//**
บิตคอยน์ หรือ Bitcoin คือสกุลเงินเสมือนที่ถูกตั้งขึ้นมาสำหรับการทำธุรกรรมบนโลกไอที
บิตคอยน์ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 โดยฝีมือการพัฒนาของเซียนคอมพิวเตอร์ผู้ลึกลับ
ที่ใช้ชื่อว่าซาโตชิ นากาโมโตะ (Satoshi Nakamoto)
ล่าสุดบิตคอยน์เป็นศัพท์ที่ถูกบัญญัติความหมายไว้ในพจนานุกรมออคฟอร์ดว่า
“สกุลเงินดิจิตอลในการทำธุรกรรมซึ่งสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องผ่านธนาคารกลาง”
หลักการของบิตคอยน์ คือ การเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่อยู่ภายใต้การดูแลของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
จุดประสงค์ของบิตคอยน์ คือ การลดบทบาทของธนาคารในการกำหนดค่าเงิน, การพิมพ์-แจกจ่ายธนบัตร
และการบันทึกมูลค่าการโอน-ฝากเงิน ซึ่งแทนที่จะต้องให้ธนาคารเป็นผู้ดูแลการโอนเงินของผู้ใช้
แต่บิตคอยน์ออกแบบให้ชาว Bitcoin ทุกคนสามารถรับรู้และช่วยยืนยันการโอนเงินซึ่งกันและกัน
ผ่านซอฟต์แวร์และไฟล์ข้อมูลเฉพาะทางที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายทั่วโลก
อีกสิ่งที่น่าสนใจ คือ มูลค่าของเงินบิตคอยน์จะเปลี่ยนแปลงขึ้นลงไม่คงที่
เนื่องจากการกำหนดค่าเงิน 1 บิตคอยน์จะเกิดจากการคำนวณผ่านกลุ่มบุคคลทั่วโลก
ที่อุทิศคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงของตัวเองเพื่อเปิดซอฟต์แวร์ของบิตคอยน์ให้ทำงานตลอดเวลา
(คนกลุ่มนี้จะได้รับบิตคอยน์กลับมาให้ตัวเองเป็นการตอบแทน)
โดยเงินบิตคอยน์นั้นสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินจริงของประเทศต่างๆได้
หรือสามารถนำไปซื้อสินค้าและบริการบนอินเทอร์เน็ต
ที่ผ่านมา ทั่วโลกมีบริษัทรับแลกเงินสกุลบิตคอยน์ให้เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐหรือเงินยูโรมากมาย
ตามค่าเงินที่เกิดจากการคำนวณของซอฟต์แวร์ โดย Mt.Gox คือผู้ให้บริการแลกเงินรายใหญ่ที่สุด
ที่เปิดรับแลกเปลี่ยนธุรกรรมบิตคอยน์ถึง 80% ในการนำเงินเข้าและออกจากระบบบิตคอยน์
ปรากฎว่ารายงานล่าสุดพบมูลค่าเงิน 1 บิตคอยน์มีมูลค่าสูงเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐ
บนกระดานแลกเปลี่ยนของเว็บไซต์ Mt. Gox ตั้งแต่วันที่ 26-27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เงิน 1 บิตคอยน์เพิ่งมีมูลค่าเกิน 100 เหรียญสหรัฐในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ก่อนจะเพิ่มมูลค่าขึ้น 1 เท่าตัวในเดือนเดียวกัน
หากคำนวณการเปลี่ยนแปลงในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (เมษายน-พฤศจิกายน 2013)
จะพบว่ามูลค่าเงินบิตคอยน์นั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าตัว อย่างไรก็ตาม
มูลค่าการซื้อขายเงินบิตคอยน์ในเว็บไซต์อื่นยังมีค่าเฉลี่ยระดับต่ำกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐ
ซึ่งคาดว่าเงินบิตคอยน์จะผันผวนต่อเนื่องตลอดปีนี้และปีหน้า
สื่ออเมริกันวิเคราะห์ว่า ภาวะเงินบิตคอยน์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นรวดเร็วนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ
เริ่มขานรับรูปแบบสกุลเงินเสมือน หรือ virtual currency ซึ่งเป็นระบบการเงินที่มีแนวคิด
ถูกควบคุมด้วยเทคโนโลยีแทนที่นโยบายการเงินจากธนาคาร นอกจากนี้
รายงานข่าวมากมายยังชี้ว่านักลงทุนผู้มีชื่อเสียงและผู้ก่อตั้งกิจการเกิดใหม่จำนวนมาก
มีแผนจะนำระบบเงินบิตคอยน์มาใช้จ่ายกับผู้บริโภควงกว้างหรือเมนสตรีมด้วย
ทำให้การซื้อขายบิตคอยน์มีความคึกคักมากขึ้นในพริบตา
ในขณะที่บิตคอยน์ได้รับความสนใจจากชาวโลกเพราะการไม่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลประเทศใดประเทศหนึ่ง
แต่ “ธนาคารแห่งประเทศไทย” กลับสั่งระงับการแลกเปลี่ยนเงินบิตคอยน์ภายในประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยให้เหตุผลว่าสกุลเงินบิตคอยน์ขาดข้อกฎหมายกำกับเฉพาะด้านที่ชัดเจน
ทำให้การให้บริการที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายการเงินประเทศไทย