นี่เป็นหนังเรื่องที่ 3 ในเซ็ทคอนเน็ตโต้ ของ Edgar Wright ตามหลัง Shaun of the dead และ Hot Fuzz ที่เรื่องนี้เป็นคอนเน็ตโต้ รสมิ้นท์ช๊อคโกแลต(ไม่มีขายในไทย) ส่วนโผล่มาในหนังตอนไหนไปดูกันเอง ฮ่ะๆๆๆๆ

หนังได้คู่ขวัญอ้วนผอมกลับมารับบทนำเหมือนเดิม Simon Peg และ Nick Frost และได้ดาราอังกฤษชั้นดีมาเสริมทัพมากมาย เช่น Martin Freeman (Sherlock Holmes, The Hobbit) Pierce Brosnan (James Bond) Eddie Marsan (Sherlock Holmes เวอร์ชั่นหนัง)

Spoil นะครับ
ตัวหนังเล่าถึงกระทาชายนายหนึ่งที่ชีวิตประสบความล้มเหลว งานการไม่มี ติดเหล้า เข้าบำบัดอาการติดเหล้าแต่ดั๊นได้แรงบันดาลใจให้เขากลับไปสู่เส้นทางสีอำพัน(เบียร์) ที่เคยทำไม่สำเร็จไว้ตอนวัยรุ่น 12 ผับ 12 ไพน์(แก้วเบียร์ขนาดประมาณ 500 ML) เขาเลยรวบรวมแก๊งค์เพื่อนเก่าทั้ง 5 คนกลับไปสู่เมืองบ้านเกิดของพวกเขา เพื่อปฏิบัติภาระกิจให้สำเร็จแต่หารู้ไม่ว่าเมืองของเขา(สังเกตุตอนย้อนอดีตให้ดีๆ) มันเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนที่พวกเขาทำภารกิจครั้งก่อน

ในช่วงแรกๆนั้นมุขตลกเรื่อยๆครับ มีขำคิกคักบ้างไม่ถึงกับฮาแตกหนังค่อยๆบิวท์เรานวดเราไปเรื่อยๆ พอถึงจุดเปลี่ยนของหนังที่ผับที่ 3 (มั้งถ้าจำไม่ผิด) ความมันส์ก็บังเกิด เมื่อ Simon Peg ต้องฉะกับเด็กวัยรุ่นคนนึงในห้องน้ำ จะบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังที่มีฉากแอคชั่นที่มันส์ที่สุดในหนังปีนี้เลยครับ ผกก.แกแอบใส่แอคชั่นมันส์ๆตั้งแต่สองเรื่องแรก และความมันเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ เรื่องนี้นี่ โอ้ว เพิ่งรู้ว่าถ้าเราฝึกวิชา Bar Fight บ่อยๆ เราจะวรยุทธพอๆกับพวกเป็นกังฟูทีเดียว ฮ่ะๆๆๆๆๆ ความสมจริงไม่ต้องถามนะครับว่าลุงๆ 5 คนนี้มันเก่งขนาดนี้ได้ยังไง เอามันส์ ฮา อย่างเดียวกันไปเลย ซึ่งความมันส์ ฮาของหนังก็ทำให้เราลืมประเด็นนี้ไปเลยส่วน 5 คนนี้เก่งขนาดไหนนั้นบอกได้เลยว่าถ้า

Bilbo ใน Hobbit เก่งเท่าตัว Martin Freeman ในเรื่องนี้ คาดว่า อาซอก ออร์กขาวและผองเพื่อน คงคอขาดตายตั้งแต่ภาคแรกแล้วครับ
หรือถ้า 5 คนนี้ตัดสินใจจะตะลุยผับใน New York แทน แล้วเจอช่วงชิทอรีบุก (Avengers) พวก Avengers เบามือลงเยอะแน่นอน เพราะแต่ละคนนี่สุดๆจริงๆฉีกหุ่นยนต์เป็นนุ่นเลย ต่อยตัวแตก หัวระเบิด คือช่วงวิวาทกับต่างดาวนี่มันส์ ฮา จริงๆเลย ฝรั่งที่นั่งดูใกล้ๆกันขำไม่หยุดเลย

ตัวหนังเหมือนจะไม่มีอะไร แต่มาแรงตอนท้ายครับ ที่บอกว่าทำไมมนุษย์ต่างดาวต้องมาที่โลก และตอนที่ปะทะคารมกับแก๊งค์พระเอกช่วงสุดท้ายนี่มันใช่เลย ชัดเจนเลยว่ามนุษย์ทุกคนเป็นแบบนี้จริงๆ(แม้แต่มนุษย์ต่างดาวในเรื่อง) "มุมมองของข้า เอ็งจะยกอะไรมาก็เปลี่ยนไม่ได้เด็ดขาด" เจ็บจี๊ดดีครับ ยอมรับตัวผมเองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน และต่างฝ่ายก็ต่างคิดว่าสิ่งที่ตัวเองเสนอนั้นดีกว่า ถูกต้องกว่า ผลมันจะเป็นไงช่างมัน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันนี้ในหนังย้ำว่าในหนังนะ  มนุษย์ที่วางตัวเฉยจะถูกต่างดาวเอ็นดู ไม่เห็นด้วยจะถูกจับไปเปลี่ยนตัวกับหุ่นยนต์กลวงๆที่ไม่ทำอะไรนอกจากตามคำสั่ง ทำให้มนุษย์หลายคนไม่คิดสู้ มนุษย์ต่างดาวพยายามพัฒนาโลกด้วยการให้เทคโนโลยีต่างๆ แต่ก็ไม่มีอิสระในความคิด แต่หากสู้จริงๆมนุษย์ต่างดาวถอยทัพ เทคโนโลยีก็จะหายไปทั้งหมด

เอาจริงๆหนังมันแอบคมมากนะ เช่น ตอนเถียงกับต่างดาวตอนสุดท้าย
พระเอกบอกว่า ข้าเนี่ยต้องมีอิสระทำในสิ่งที่ข้าอยากทำ ต่างดาวถามว่า ok แล้วเอ็งอยากทำอะไร พระเอกก็พูดไม่ถูก ไปไม่ถูกต้องแถเอา
หรือ ต่างดาวบอกว่า พวกข้ามาอย่างสันติ อยากช่วยมนุษย์จริงๆ เจอถามกลับว่า แล้วเอ็งฆ่ามนุษย์ไปกี่คนแล้ว ต่างดาวก็อึ้งๆ บอก เฮ้ย มันไม่เกี่ยวกันซะหน่อย ตรงนี้เองผมว่าเจ็บดีจริงๆเป็นบทสนทนาที่สะใจ ขำกลิ้ง และเจ็บจี๊ดไปในตัว

ให้ 8/10 ครับ สนุกดี ดูกะมันส์ ฮา แต่พอออกมาคิดแล้วแอบฮาไม่ออกเหมือนกัน มันตรงกับเราช่วงนี้เกินไปหน่อย
แต่ขอย้ำว่าฉากแอคชั่นมันส์มากจริงๆครับ