สิ่งที่ผมเห็นวันนี้คือ คนไทยที่อยู่ตรงกลางไม่เลือกสี ไม่แบ่งข้าง พยายาม 'อธิษฐาน'
ให้บ้านเมืองปลอดภัยรอดพ้นวิกฤตการเมืองนี้ไปได้
ผมรู้ดีว่าไม่มีใครปราถนาจะเห็นความรุนแรงความแตกแยกของบ้านเมือง
คนที่อยู่ตรงกลาง ไม่เลือกสี ไม่แบ่งข้าง ไม่ได้แปลว่าพวกเขาไม่รักประเทศไทย ไม่ห่วงใยประเทศชาติ
คนทุกคนมีเหตุผลในตัวเองถึงสิ่งที่กำลังกระทำ เช่นเดียวกับคุณที่เลือกข้างเลือกสี
คุณมีสิทธิ์เลือก ผมและพวกเขาก็มีสิทธิ์ลือก แต่ "เราเลือกที่จะนิ่ง อยู่ตรงกลาง"
เพราะบางครั้งสิ่งที่คุณกำลังทำและอ้างว่า "ทำเพื่อชาติ" บางครั้งมันกลับมาร้ายประเทศไทยอันเป็นมาตุภูมิ
คนที่เลือกอยู่ตรงกลางไม่ได้มีเพียงแต่เราประชาชนคนธรรมดา
กลุ่มองค์กรบางองค์กร ที่จำเป็นต้องคงจุดยืนความเป็นกลางเอาไว้อย่างเช่น 'สื่อ'
ยิ่งจำเป็นต้องรักษาความเป็นกลางไว้ให้มากที่สุด พวกเขาทำได้เพียงแค่เป็นสื่อกลาง
นำเสนอความเป็นจริงรอบๆ ด้านเอาไว้
สิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสและรับรู้ได้ในวันนี้ก็คือ 'การโฆษณา'
วันนี้ผมเห็นการโฆษณาอย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้มีเจ้าของแบรนด์ ไม่ได้หวังผลการตลาด
แต่หวังเพียง 'ความสำนึก' ของคนไทยและนัการเมือง
โฆษณา "ขอโทษประเทศไทย" ถูกนำมาฉายในช่วงข่าวของทีวีสาธาราณะ ThaiPBS
ผมรู้สึก รับรู้ และเชื่อว่า นี่คงเป็นสิ่งหนึ่งที่สื่อได้พยายามทำหน้าที่คงความเป็นกลางเอาไว้อย่างถึงที่สุดแล้ว
พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าใครผิด ใครถูก ไม่สามารถปลุกระดมมวลชนให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้
พวกเขาคงทำได้เพียงแค่ 'ปลุกสำนึก' ให้เราคนไทยตระหนักรับรู้ว่า ที่ผ่านมาประเทศชาติพังเสียหาย
เพราะนักการเมืองและการคอร์รับปชั่น และผมเชื่อว่าสื่อเจ้านี้ยังพยายามจะบอกกับเราว่า
พวกเรารุนแรงไปหรือเปล่า ?
ฟังความข้างเดียว หรือเปล่า ?
ทำหน้าที่ของตัวเองหรือเปล่า ?
คิดถึงประชาชนหรือเปล่า ?
โกงหรือเปล่า ?
เอาเปรียบหรือเปล่า ?
ให้ปัญญาประชาชนหรือเปล่า ?
เสื่อมหรือเปล่า ?
รักเงินมากกว่าความถูกต้องหรือเปล่า ?
แล้วรอการช่วยเหลืออย่างเดียวหรือเปล่า ?
จดจำความสูญเสียไว้ในใจ หยุดทำร้ายประเทศไทย แล้วร่วมมือกันเถอะครับ 'คนไทย'
ถ้าความรู้สึกสำนึกนี้มันไม่เกิดขึ้น สิ่งที่เราทำได้ก็คงเป็นได้แค่ 'คำอธิษฐาน' อย่างสิ้นหวัง
อธิษฐานกันเถอะ 'ประเทศไทย' | Pray for Thailand
My heart is crying
อธิษฐานกันเถอะ 'ประเทศไทย' | Pray for Thailand
ให้บ้านเมืองปลอดภัยรอดพ้นวิกฤตการเมืองนี้ไปได้
ผมรู้ดีว่าไม่มีใครปราถนาจะเห็นความรุนแรงความแตกแยกของบ้านเมือง
คนที่อยู่ตรงกลาง ไม่เลือกสี ไม่แบ่งข้าง ไม่ได้แปลว่าพวกเขาไม่รักประเทศไทย ไม่ห่วงใยประเทศชาติ
คนทุกคนมีเหตุผลในตัวเองถึงสิ่งที่กำลังกระทำ เช่นเดียวกับคุณที่เลือกข้างเลือกสี
คุณมีสิทธิ์เลือก ผมและพวกเขาก็มีสิทธิ์ลือก แต่ "เราเลือกที่จะนิ่ง อยู่ตรงกลาง"
เพราะบางครั้งสิ่งที่คุณกำลังทำและอ้างว่า "ทำเพื่อชาติ" บางครั้งมันกลับมาร้ายประเทศไทยอันเป็นมาตุภูมิ
คนที่เลือกอยู่ตรงกลางไม่ได้มีเพียงแต่เราประชาชนคนธรรมดา
กลุ่มองค์กรบางองค์กร ที่จำเป็นต้องคงจุดยืนความเป็นกลางเอาไว้อย่างเช่น 'สื่อ'
ยิ่งจำเป็นต้องรักษาความเป็นกลางไว้ให้มากที่สุด พวกเขาทำได้เพียงแค่เป็นสื่อกลาง
นำเสนอความเป็นจริงรอบๆ ด้านเอาไว้
สิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสและรับรู้ได้ในวันนี้ก็คือ 'การโฆษณา'
วันนี้ผมเห็นการโฆษณาอย่างหนึ่ง ที่ไม่ได้มีเจ้าของแบรนด์ ไม่ได้หวังผลการตลาด
แต่หวังเพียง 'ความสำนึก' ของคนไทยและนัการเมือง
โฆษณา "ขอโทษประเทศไทย" ถูกนำมาฉายในช่วงข่าวของทีวีสาธาราณะ ThaiPBS
ผมรู้สึก รับรู้ และเชื่อว่า นี่คงเป็นสิ่งหนึ่งที่สื่อได้พยายามทำหน้าที่คงความเป็นกลางเอาไว้อย่างถึงที่สุดแล้ว
พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่าใครผิด ใครถูก ไม่สามารถปลุกระดมมวลชนให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้
พวกเขาคงทำได้เพียงแค่ 'ปลุกสำนึก' ให้เราคนไทยตระหนักรับรู้ว่า ที่ผ่านมาประเทศชาติพังเสียหาย
เพราะนักการเมืองและการคอร์รับปชั่น และผมเชื่อว่าสื่อเจ้านี้ยังพยายามจะบอกกับเราว่า
พวกเรารุนแรงไปหรือเปล่า ?
ฟังความข้างเดียว หรือเปล่า ?
ทำหน้าที่ของตัวเองหรือเปล่า ?
คิดถึงประชาชนหรือเปล่า ?
โกงหรือเปล่า ?
เอาเปรียบหรือเปล่า ?
ให้ปัญญาประชาชนหรือเปล่า ?
เสื่อมหรือเปล่า ?
รักเงินมากกว่าความถูกต้องหรือเปล่า ?
แล้วรอการช่วยเหลืออย่างเดียวหรือเปล่า ?
จดจำความสูญเสียไว้ในใจ หยุดทำร้ายประเทศไทย แล้วร่วมมือกันเถอะครับ 'คนไทย'
ถ้าความรู้สึกสำนึกนี้มันไม่เกิดขึ้น สิ่งที่เราทำได้ก็คงเป็นได้แค่ 'คำอธิษฐาน' อย่างสิ้นหวัง
อธิษฐานกันเถอะ 'ประเทศไทย' | Pray for Thailand
My heart is crying