สนธิญาณ โพสต์เฟซบุ๊ก สงสาร"สุเทพ"กู้เงินโค่น"ทักษิณ" เผยแกนนำทุกคน ลงทั้งแรงเงินแรงกาย
นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตสส.ประชาธิปัตย์ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณ และนายกรณ์ จาติกวณิช ว่า นักการเมือง กับ นักต่อสู้ทางการเมือง
สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศกลางเวทีว่า..สนธิญาณ เป็นเพื่อนรัก ทำให้รู้สึกลำบากใจในการที่จะพูดถึง..สุเทพ ในทางที่เป็นคุณ เพราะจะเป็นการอวยกันไปกันมา
แต่กรณี..กรณ์ กับ สุเทพ นี้ไม่พูดไม่ได้ เพราะนอกจากสนิทสนมทั้ง2 คนแล้ว เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องทางยุทธศาสตร์...ในการต่อสู้ครั้งนี้
ผมทำข่าวมา 30 ปีเพิ่งคุยกับ สุเทพ ครั้งแรกในชีวิตเมื่อปลายเดือนเมษา 53 คงแปลกใจว่าในเส้นทางไม่เคยเจอกันเลยหรือ เจอกันแต่ผมไม่เคยเข้าไปเสวนาเพราะไม่มีประเด็นจะพูดกันและไม่ชอบอยู่ใกล้นักการเมือง ตัวเองก็เป็นเพียงนักข่าวตัวเล็กๆ แต่เพราะทนไม่ได้ กับการเคลื่อนไหวด้วยความรุนแรงของแกนนำคนเสื้อแดงที่ต้องการยกระดับการต่อสู้ให้เป็นสงครามกลางเมืองเพื่อดึงพระเจ้าอยู่หัวให้มาคลี่ลายสถานการณ์เพื่อเอาทักษิณกลับไทย ผมจึงขอติดต่อไปพบสุเทพ เพราะผมเคยเรียนรู้และฝึกฝนเรื่องการลุกขึ้นสู้ในเมืองมา คิดว่าถ้าได้คุยกับสุเทพซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบประสบการณ์จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ
กรณ์ คุยกันเพราะนักข่าวน้องรักคนหนึ่งนัดให้คุยกันเมื่อปี 52 คุยกันแล้วก็ประทับใจตลอดมาเพราะว่าเป็นคนมีวิสัยทัศน์ดีและมีความคิดทางยุทธศาสต์ จึงพูดคุยติดต่อกันตลอดมา
กับสุเทพหลังจากพบกันในครั้งนั้น ก็เสนอจะช่วยหาค่าโฆษณาให้กับทีนิวส์ จำนวนที่ทำให้อยู่รอดได้ แต่ผมปฏิเสธเพราะสองบริษัทที่เสนอมาผมไม่ชอบใจในวิธีดำเนินธุรกิจ สุเทพแปลกใจไอ้นี่บ้าหรือเปล่า อีกด้านผมเองหลังจากได้คุยกันคิดว่า...คนๆนี้เป็นลูกผู้ชายหัวใจคบได้
หลังจากเป็นฝ่ายค้าน ผมก็ยิ่งสนิทสนมทั้ง2 คน สุเทพไม่รับตำแหน่งใดในพรรค เพราะคิดสู้กับระบอบทักษิณ ไม่ได้คิดเล่นการเมืองแล้ว เหมือนที่เคยเป็น กรณ์เองก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ
ผมพูดเรื่อง..ปฏิวัติประชาชน...กับสุเทพ บ่อยครั้ง ถูกถามกลับมาเสมอ คุณคิดว่าประชาชน พร้อมแล้วหรือ ผมตอบว่า 80 ปีที่ผ่านมา หลังจากชิงอำนาจจากพระมหากษัตริย์มาแล้ว ประชาชนได้สัมผัสกับคำว่า อำนาจของตัวเองน้อยมาก จากอำนาจเผด็จการ ทหาร สู่ เผด็จทุนนิยมประชาธิปไตยคือมายาจอมปลอมที่ ทหาร ทุน นักการเมือง ใช้มอมเมาด้วย..การสร้างให้เชื่อว่า ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง
ระบอบเผด็จการทหารเข้าใจง่าย แต่ระบอบเผด็จการทุนนิยมซับซ้อนต้องรอเวลา ทักษิณคือตัวแทนของเผด็จการทุนนิยม ที่ช่วยเร่งเวลาเพราะ กระทำการทุกอย่างด้วยคิดว่าอำนาจตัวเองเบ็ดเสร็จ อำนาจรัฐ มวลชน สื่อ และเงิน แต่ทักษิณไม่ได้คิดถึงเรื่อง..ปัญญาและหัวใจ..คน ว่ามีอำนาจกว่าสิ่งใดทั้งปวง
เมื่อ สุเทพ บอกว่าพร้อม คนที่รอวันนี้มา 36 ปีเช่นผมจึงไม่รีรอที่จะบอกว่า..เดินไปด้วยกัน ไม่ว่าผลสรุปจะเป็นเช่นไรจะเผชิญหน้ารับ บอกทุกคนในครอบครัวให้พร้อมรับสถานการณ์ ไม่เคยประกาศตัวเป็นแกนนำทำงานไปเงียบๆ แต่เราร่วมกันมาตั้งแต่วันแรก ที่สำคัญผมยืนยันเป็นหุ้นส่วนที่ไม่ต้องการผลตอบแทน ไม่ได้ลงแต่แรงกาย แต่ลงเงินไปหลายล้านบาท เพราะทุกครั้งที่เห็น สุเทพ โทรไปยืมเงินคนโน้นคนนี้ ทีละ 2-3 ล้านบาท สัญญาว่าขายที่ได้ น้ำตาจะไหลทุกที ไม่ใช่เท่าแต่ผมแกนนำคนอื่นก็เช่นกันลงทั้งเงินลงทั้งแรง
ผมลาออกจากทีนิวส์ ไม่อยากให้น้องๆ ที่ร่วมสร้างองค์กันมาต้องเดือดร้อน ทิ้งอาชีพที่รัก เอาธุรกิจที่มีเข้าเสี่ยง...ด้วยเหตุผลเดียว...เชื่อหัวใจของ...สุเทพ ที่เราจะเดินไปให้สุดฝัน
ถึงวันนี้ผมคิดว่าผมตัดสินใจไม่ผิด...ไม่ว่าผลจะออกมาเช่นไร แต่วันที่ 24 ที่คนไทยตื่นรู้ ทลายกรงแห่งความกลัวออกมามันคุ้มค่าเกินบรรยาย ประชาชนตื่นรู้ด้วยปัญญา บ้านเมืองไทยในวันข้างหน้าจะไม่เหมือนเดิม
สุเทพได้ปลุกพลังแห่งการตื่นรู้ของคนไทยขึ้นอย่างไม่มีใครทำได้มาก่อน ไม่แน่ว่าในอนาคตจะมีอีกหรือไม่ แต่ทุกอย่างได้มาด้วยความเสี่ยงส่วนตัวทั้งสิ้น วันนี้ถูกออกหมายจับ ต้องนอนต้องกินในทุกสภาพ...ผมคิดว่านี่คือความเสียสละ
คนยืนข้างเวทีมีสิทธิ ที่จะวิจารณ์ตามหลักการที่ตัวเองเชื่อในที่สาธารณะ ดังเช่นกรณ์ แต่ต้องระวังว่าบางครั้งมันจะเข้าทาง เป็นเครื่องมือศัตรูของประชาชน สุเทพจึงต้องตอบโต้กลับในที่สาธารณะเช่นกันเพราะศัตรู ประชาชนเอาเป็นประเด็นไปขยายผลปั่นกระแสบั่นทอนการต่อสู้ ผมเชื่อในหัวใจของประชาชนว่าจะเข้าใจในเหตุผลของคนทั้งสอง
ผมไม่เคยเขียนเรื่องของตัวเองว่าทำอะไร ที่ไหนอย่างไร ไม่ชอบเป็นคนสำคัญ ไม่ชอบให้ใครมาชื่นชมว่าเป็นคนดี เพราะไม่ได้ดีสักเท่าไร
แต่ครั้งนี้..เพราะคำว่า..เพื่อนรักของสุเทพ.. มีความหมาย ไม่ใช่ต่อผมแต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ จึงต้องเขียนเปิดใจ ชวนทุกคนที่เห็นด้วยเปิดหน้ามา..สู้ร่วมกันครับ
สนธิญาณ"สงสาร"สุเทพ"กู้เงินโค่น"ทักษิณ ไม่รู้เมื่อไหร่จะถอนทุนคืนได้
นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตสส.ประชาธิปัตย์ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านระบอบทักษิณ และนายกรณ์ จาติกวณิช ว่า นักการเมือง กับ นักต่อสู้ทางการเมือง
สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศกลางเวทีว่า..สนธิญาณ เป็นเพื่อนรัก ทำให้รู้สึกลำบากใจในการที่จะพูดถึง..สุเทพ ในทางที่เป็นคุณ เพราะจะเป็นการอวยกันไปกันมา
แต่กรณี..กรณ์ กับ สุเทพ นี้ไม่พูดไม่ได้ เพราะนอกจากสนิทสนมทั้ง2 คนแล้ว เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องทางยุทธศาสตร์...ในการต่อสู้ครั้งนี้
ผมทำข่าวมา 30 ปีเพิ่งคุยกับ สุเทพ ครั้งแรกในชีวิตเมื่อปลายเดือนเมษา 53 คงแปลกใจว่าในเส้นทางไม่เคยเจอกันเลยหรือ เจอกันแต่ผมไม่เคยเข้าไปเสวนาเพราะไม่มีประเด็นจะพูดกันและไม่ชอบอยู่ใกล้นักการเมือง ตัวเองก็เป็นเพียงนักข่าวตัวเล็กๆ แต่เพราะทนไม่ได้ กับการเคลื่อนไหวด้วยความรุนแรงของแกนนำคนเสื้อแดงที่ต้องการยกระดับการต่อสู้ให้เป็นสงครามกลางเมืองเพื่อดึงพระเจ้าอยู่หัวให้มาคลี่ลายสถานการณ์เพื่อเอาทักษิณกลับไทย ผมจึงขอติดต่อไปพบสุเทพ เพราะผมเคยเรียนรู้และฝึกฝนเรื่องการลุกขึ้นสู้ในเมืองมา คิดว่าถ้าได้คุยกับสุเทพซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบประสบการณ์จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ
กรณ์ คุยกันเพราะนักข่าวน้องรักคนหนึ่งนัดให้คุยกันเมื่อปี 52 คุยกันแล้วก็ประทับใจตลอดมาเพราะว่าเป็นคนมีวิสัยทัศน์ดีและมีความคิดทางยุทธศาสต์ จึงพูดคุยติดต่อกันตลอดมา
กับสุเทพหลังจากพบกันในครั้งนั้น ก็เสนอจะช่วยหาค่าโฆษณาให้กับทีนิวส์ จำนวนที่ทำให้อยู่รอดได้ แต่ผมปฏิเสธเพราะสองบริษัทที่เสนอมาผมไม่ชอบใจในวิธีดำเนินธุรกิจ สุเทพแปลกใจไอ้นี่บ้าหรือเปล่า อีกด้านผมเองหลังจากได้คุยกันคิดว่า...คนๆนี้เป็นลูกผู้ชายหัวใจคบได้
หลังจากเป็นฝ่ายค้าน ผมก็ยิ่งสนิทสนมทั้ง2 คน สุเทพไม่รับตำแหน่งใดในพรรค เพราะคิดสู้กับระบอบทักษิณ ไม่ได้คิดเล่นการเมืองแล้ว เหมือนที่เคยเป็น กรณ์เองก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ
ผมพูดเรื่อง..ปฏิวัติประชาชน...กับสุเทพ บ่อยครั้ง ถูกถามกลับมาเสมอ คุณคิดว่าประชาชน พร้อมแล้วหรือ ผมตอบว่า 80 ปีที่ผ่านมา หลังจากชิงอำนาจจากพระมหากษัตริย์มาแล้ว ประชาชนได้สัมผัสกับคำว่า อำนาจของตัวเองน้อยมาก จากอำนาจเผด็จการ ทหาร สู่ เผด็จทุนนิยมประชาธิปไตยคือมายาจอมปลอมที่ ทหาร ทุน นักการเมือง ใช้มอมเมาด้วย..การสร้างให้เชื่อว่า ประชาธิปไตยคือการเลือกตั้ง
ระบอบเผด็จการทหารเข้าใจง่าย แต่ระบอบเผด็จการทุนนิยมซับซ้อนต้องรอเวลา ทักษิณคือตัวแทนของเผด็จการทุนนิยม ที่ช่วยเร่งเวลาเพราะ กระทำการทุกอย่างด้วยคิดว่าอำนาจตัวเองเบ็ดเสร็จ อำนาจรัฐ มวลชน สื่อ และเงิน แต่ทักษิณไม่ได้คิดถึงเรื่อง..ปัญญาและหัวใจ..คน ว่ามีอำนาจกว่าสิ่งใดทั้งปวง
เมื่อ สุเทพ บอกว่าพร้อม คนที่รอวันนี้มา 36 ปีเช่นผมจึงไม่รีรอที่จะบอกว่า..เดินไปด้วยกัน ไม่ว่าผลสรุปจะเป็นเช่นไรจะเผชิญหน้ารับ บอกทุกคนในครอบครัวให้พร้อมรับสถานการณ์ ไม่เคยประกาศตัวเป็นแกนนำทำงานไปเงียบๆ แต่เราร่วมกันมาตั้งแต่วันแรก ที่สำคัญผมยืนยันเป็นหุ้นส่วนที่ไม่ต้องการผลตอบแทน ไม่ได้ลงแต่แรงกาย แต่ลงเงินไปหลายล้านบาท เพราะทุกครั้งที่เห็น สุเทพ โทรไปยืมเงินคนโน้นคนนี้ ทีละ 2-3 ล้านบาท สัญญาว่าขายที่ได้ น้ำตาจะไหลทุกที ไม่ใช่เท่าแต่ผมแกนนำคนอื่นก็เช่นกันลงทั้งเงินลงทั้งแรง
ผมลาออกจากทีนิวส์ ไม่อยากให้น้องๆ ที่ร่วมสร้างองค์กันมาต้องเดือดร้อน ทิ้งอาชีพที่รัก เอาธุรกิจที่มีเข้าเสี่ยง...ด้วยเหตุผลเดียว...เชื่อหัวใจของ...สุเทพ ที่เราจะเดินไปให้สุดฝัน
ถึงวันนี้ผมคิดว่าผมตัดสินใจไม่ผิด...ไม่ว่าผลจะออกมาเช่นไร แต่วันที่ 24 ที่คนไทยตื่นรู้ ทลายกรงแห่งความกลัวออกมามันคุ้มค่าเกินบรรยาย ประชาชนตื่นรู้ด้วยปัญญา บ้านเมืองไทยในวันข้างหน้าจะไม่เหมือนเดิม
สุเทพได้ปลุกพลังแห่งการตื่นรู้ของคนไทยขึ้นอย่างไม่มีใครทำได้มาก่อน ไม่แน่ว่าในอนาคตจะมีอีกหรือไม่ แต่ทุกอย่างได้มาด้วยความเสี่ยงส่วนตัวทั้งสิ้น วันนี้ถูกออกหมายจับ ต้องนอนต้องกินในทุกสภาพ...ผมคิดว่านี่คือความเสียสละ
คนยืนข้างเวทีมีสิทธิ ที่จะวิจารณ์ตามหลักการที่ตัวเองเชื่อในที่สาธารณะ ดังเช่นกรณ์ แต่ต้องระวังว่าบางครั้งมันจะเข้าทาง เป็นเครื่องมือศัตรูของประชาชน สุเทพจึงต้องตอบโต้กลับในที่สาธารณะเช่นกันเพราะศัตรู ประชาชนเอาเป็นประเด็นไปขยายผลปั่นกระแสบั่นทอนการต่อสู้ ผมเชื่อในหัวใจของประชาชนว่าจะเข้าใจในเหตุผลของคนทั้งสอง
ผมไม่เคยเขียนเรื่องของตัวเองว่าทำอะไร ที่ไหนอย่างไร ไม่ชอบเป็นคนสำคัญ ไม่ชอบให้ใครมาชื่นชมว่าเป็นคนดี เพราะไม่ได้ดีสักเท่าไร
แต่ครั้งนี้..เพราะคำว่า..เพื่อนรักของสุเทพ.. มีความหมาย ไม่ใช่ต่อผมแต่เป็นเรื่องของประเทศชาติ จึงต้องเขียนเปิดใจ ชวนทุกคนที่เห็นด้วยเปิดหน้ามา..สู้ร่วมกันครับ