ราโมน่า ฟลาวเวอร์สนั่งข้างผมตอนดู The World's End วันนี้

วันนี้ได้มีโอกาสมาดู The World’s End ที่เอสพลานาด รัชดาในรอบเวลา 19:40 น. ซึ่งแปลกมากเพราะเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีที่ได้ดูหนังในโรงดึกๆขนาดนี้ แปลกที่มาดูคนเดียวโดยที่ไม่ต้องให้ครอบครัวพามาและแปลกที่มาดูในกรุงเทพ เมืองนครที่ไม่ใช่ที่อยู่หลักแหล่งของตัวเองแถมรถรายังติดกันอย่างกับรีบไปดูลำยองตอนสุดท้าย (แต่มันจบไปแล้วนี่หว่า ฮา) เนื่องจากเราเพิ่งจะเข้าสู่อายุ 16 ปีได้ไม่นาน ถ้าทางบ้านรู้ว่าเรามาดูหนังดึกขนาดนี้มีหวังบ้านแตกแน่! เอาเป็นว่าเริ่มเข้าเรื่องดีกว่า

วันนี้เลือกไปนั่งที่นั่ง E10 ซึ่งเป็นที่นั่งสามัญที่ตัวเองต้องมานั่งดูทุกครั้งถ้ายังไม่มีคนจอง เพราะอยู่ตรงกลางและเหมาะกับระดับสายตาตัวเองพอดี ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่พอเวลาดูจะมีผู้ชมคนอื่นมานั่งรอบข้างซ้ายขวาเรา ซึ่งส่วนใหญ่ที่เจอก็จะมาเป็นคู่เป็นส่วนใหญ่ บางทีดูหนังอยู่ที่จู๋จี๋กันบ้างอะไรบ้าง เราก็จะคอยส่งกระแสอิจฉาริษยาไปตามประสาคนโสด 555 แต่ครั้งนี้แตกต่างจากที่เคยดูครั้งก่อนๆเพราะคราวนี้ไม่มีใครมานั่งติดกับเราในระยะ 4 ที่นั่งนอกจากผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่ง E11 ติดกับเราทางด้านขวาคนเดียว..

สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวหลังจากมานั่งข้างเธอเลยคือ เอ๊ะ? มาดูคนเดียวหรือเนี้ย ทำไมเธอเลือกที่จะดูหนังตลกจากอังกฤษนะ แต่คำถามที่ผุดขึ้นมานั้นก็จางหายไปเมื่อได้เห็นสไคล์การแต่งตัวของเธอเพราะเธอย้อมผมสีชมพูและใส่แจ็คเกตสีม่วง อย่างกับราโมน่า ฟลาเวอร์สในเรื่อง Scott Pilgrim แบบที่เรียกว่าถอดแบบกันมาเลยและที่ตลกก็คือทั้ง Scott Pilgrim และ The World’s End ที่กำลังจะได้ดูดันกำกับโดย Edgar Wright เหมือนกันทั้งคู่ เหอะๆ

ระหว่างที่ดู หนังก็สนุกมากๆ แต่ละมุขที่ปล่อยมาแบบ โอ้ย! ทั้งโรงสนุกสนานเฮฮา ผู้หญิงที่นั่งข้างผมก็ขำด้วย หลังจากหนังจบ อยากจะเข้าไปถามแกว่าตั้งใจแต่งเป็นราโมน่าฟลาเวอร์สมาหรือเปล่าเนี้ย? แต่ก็ไม่กล้าเข้าไป เขาโตกว่าเราตั้งเยอะ เดี๋ยวจะโดนตบเอา ก็เลยไม่อะไรกับเขาดีกว่า แล้วก็รีบกลับบ้านก่อนที่จะดึกเกินไป ด้วยความที่ค่อนข้างรีบกลับก็เลยลองยืนคอยแท็กชี่ดู แต่ก็ไม่มีคันไหนจอดเลย ตัวเองก็เลยตัดสินใจลงรถไฟใต้ดินไปแถวลาดพร้าวแล้วไปขึ้นแท็กซี่แถวนั้นดีกว่า น่าจะมีเยอะกว่า ก็เลยลงไป แต่สิ่งที่บังเอิญมากๆคือ ผู้หญิงคนนั้นเธอขึ้นขบวนเดียวกับผมด้วย!!! แล้วแถมยังลงสถานีเดียวกันอีกด้วย บังเอิญอะไรเช่นนี้ แต่ถามว่ากล้าเข้าไปคุยอยู่ไหม ก็ยังไม่กล้าอยู่ดี จนสุดท้ายก็แยกจากเธอไปโดยที่ยังรู้สึกค้างคาในใจอยู่เหมือนเดิม

กระทู้นี้อาจจะดูบ่นๆบ้างแต่อยากจะมาระบายให้ชาวพันทิปได้ฟังหน่อย เราก็ไม่ได้อยากจะทำความรู้จักกับผู้หญิงคนนั้นหรอกแต่พอเห็นเธอแต่งตัวคล้ายกับตัวละครที่เราชอบกลับทำให้เรามีความสุขแฮะ ก็ขอจบกระทู้แต่เพียงเท่านี้แล้วกัน เพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน เหนื่อยๆเพลียๆขอเวลาพักผ่อนหน่อย

ป.ล. ขอติดแท็กชีวิตวัยรุ่นหน่อย เห็นว่าน่าจะเหมาะกับเรื่องที่เขียนอยู่และเราอายุ 16

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่