ในรอบ 8 ทศวรรษ ปี นับตั้งแต่เปลี่ยนการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย
แต่ระบอบปกครองประชาธิปไตยของไทยกลับตกต่ำที่สุดในยุคฝ่ายค้านอันธพาลครองเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์และพวกพ้อง
ช่วงยุคทักษิณ ประเทศเพื่อนบ้านแถบอินโดจีน พยายามศึกษาระบอบการปกครองประชาธิปไตยของไทย ว่าทำไมถึงได้เจริญก้าวหน้าไปมาก
เวียดนาม พม่า ลาว กัมพูชา ส่งคนของเขามาเล่าเรียนศึกษาวัฒนธรรมไทย ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย รวมถึงศึกษาภาษาไทย
เป็นจำนวนมาก ในแต่ละปี ในยุคทักษิณ แต่ประเทศเหล่านี้หยุดชะงักการศึกษาระบอบประชาธิปไตยของไทย
นับแต่มีการปฏิวัติภายในประเทศในปี 2549 เป็นต้นมา เพราะถึงจะส่งคนมาศึกษายังไง ระบบของไทยในยุคปฏิวัติมันก็ไม่ต่างกับประเทศตัวเอง
ความแตกต่างของระบอบทักษิณ กับระบอบพรรคการเมืองอันธพาลประชาธิปัตย์
ยุคทักษิณทำให้เวียดนาม พม่า ลาว กัมพูชา หันมาเป็นมิตรกับประเทศไทยมากขึ้น หลังจากมีความตึงเครียดนับตั้งแต่หลังสงครามอินโดจีน
แต่ยุคพรรคการเมืองอันธพาลประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะได้เป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน กลับทำให้ประเทศเหล่านี้ จำตัองกลับมาเสริมสร้างกำลังรบกันอย่างแข็งขันเพื่อรอต่อกรกับประเทศไทย
คิดตรองดูสิว่าระบอบทักษิณ(ประชาธิปไตย) หรือ ระบอบพรรคการเมืองอันธพาลแบบประชาธิปัตย์
เหมาะสมกับการเปิดประชาคมประชาชาติอาเซียน ปี 2558 มากกว่ากัน
จะเลือกแบบเปิดแล้ว ทำมาค้าขายคล่อง การลงทุนดีขึ้น ไปมาหาสู่ไม่มีระแวงซึ่งกันและกัน
หรือ จะเลือกเปิดแล้ว ตั้งหน้าตั้งตาสู้รบกันกับเพื่อนบ้านอย่างเอาเป็นเอาตาย แค่ศักดิ์ศรีอกุศลคนบางคนบังตา พาประเทศชาติล่มจม
คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศนี้ พวกเขาไม่ได้โง่นะครับ พวกเขาคิดเป็น เลือกเป็น
ถึงแม้ ณ ตอนนี้พวกม็อบราชดำเนินของนายสุเทพ จะสามารถล้มรัฐบาลเพื่อไทย ได้ หรือ ไม่ ก็ตาม
ระบอบทักษิณ(ประชาธิปไตย)ก็จะคงอยู่คู่ชาติบ้านเมืองไทยตราบนานเท่านาน ชั่วฟ้าดินสลาย.........
ขอบคุณครับ.......
การปกครองระบอบประชาธิปไตยของไทยเฟื่องฟูที่สุดในยุคของทักษิณ
แต่ระบอบปกครองประชาธิปไตยของไทยกลับตกต่ำที่สุดในยุคฝ่ายค้านอันธพาลครองเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์และพวกพ้อง
ช่วงยุคทักษิณ ประเทศเพื่อนบ้านแถบอินโดจีน พยายามศึกษาระบอบการปกครองประชาธิปไตยของไทย ว่าทำไมถึงได้เจริญก้าวหน้าไปมาก
เวียดนาม พม่า ลาว กัมพูชา ส่งคนของเขามาเล่าเรียนศึกษาวัฒนธรรมไทย ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย รวมถึงศึกษาภาษาไทย
เป็นจำนวนมาก ในแต่ละปี ในยุคทักษิณ แต่ประเทศเหล่านี้หยุดชะงักการศึกษาระบอบประชาธิปไตยของไทย
นับแต่มีการปฏิวัติภายในประเทศในปี 2549 เป็นต้นมา เพราะถึงจะส่งคนมาศึกษายังไง ระบบของไทยในยุคปฏิวัติมันก็ไม่ต่างกับประเทศตัวเอง
ความแตกต่างของระบอบทักษิณ กับระบอบพรรคการเมืองอันธพาลประชาธิปัตย์
ยุคทักษิณทำให้เวียดนาม พม่า ลาว กัมพูชา หันมาเป็นมิตรกับประเทศไทยมากขึ้น หลังจากมีความตึงเครียดนับตั้งแต่หลังสงครามอินโดจีน
แต่ยุคพรรคการเมืองอันธพาลประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะได้เป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน กลับทำให้ประเทศเหล่านี้ จำตัองกลับมาเสริมสร้างกำลังรบกันอย่างแข็งขันเพื่อรอต่อกรกับประเทศไทย
คิดตรองดูสิว่าระบอบทักษิณ(ประชาธิปไตย) หรือ ระบอบพรรคการเมืองอันธพาลแบบประชาธิปัตย์
เหมาะสมกับการเปิดประชาคมประชาชาติอาเซียน ปี 2558 มากกว่ากัน
จะเลือกแบบเปิดแล้ว ทำมาค้าขายคล่อง การลงทุนดีขึ้น ไปมาหาสู่ไม่มีระแวงซึ่งกันและกัน
หรือ จะเลือกเปิดแล้ว ตั้งหน้าตั้งตาสู้รบกันกับเพื่อนบ้านอย่างเอาเป็นเอาตาย แค่ศักดิ์ศรีอกุศลคนบางคนบังตา พาประเทศชาติล่มจม
คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศนี้ พวกเขาไม่ได้โง่นะครับ พวกเขาคิดเป็น เลือกเป็น
ถึงแม้ ณ ตอนนี้พวกม็อบราชดำเนินของนายสุเทพ จะสามารถล้มรัฐบาลเพื่อไทย ได้ หรือ ไม่ ก็ตาม
ระบอบทักษิณ(ประชาธิปไตย)ก็จะคงอยู่คู่ชาติบ้านเมืองไทยตราบนานเท่านาน ชั่วฟ้าดินสลาย.........
ขอบคุณครับ.......