เราและแฟนตกลงที่จะซื้อบ้านจัดสรรโครงการหนึ่งแถววงแหวนพระราม ๕ ค่ะ
ก่อนที่จะทำสัญญาทางโครงการได้ขอเอกสารทางการเงินเพื่อดำเนินการทำ Pre-approve จากธนาคาร
เมื่อผ่านแล้วจึงผ่อนเงินดาวน์ต่ออีก ๓ งวด
และเรา Pre-approve ผ่านสองธนาคารที่ร่วมกับโครงการค่ะ

จนถึงวันนี้เราผ่อนดาวน์ครบ ๓ งวดแล้ว และสิ้นปีกำลังจะโอนบ้าน เจ้าหน้าที่ธนาคาร (แบงค์เขียว) ขอเอกสารเพื่อยื่นกู้จริงอีกครั้ง
เรารวบรวมเอกสารทั้งหมดให้ไป สองวันถัดมา เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่า เราและแฟนไม่สามารถกู้ได้ตามวงเงินที่ผ่าน Pre-approve ไว้ตั้งแต่แรก แนะนำให้หาผู้กู้ร่วมอีก ๑ คน เราพยายามถามเจ้าหน้าที่ และได้คำตอบว่า ตอนแรกแบงค์ไม่ได้ดูภาระหนี้สิน  (คืองงค่ะ ไม่ดูแล้วเอาเอกสารไปทำอะไร ยินยอมให้ตรวจเครดิตบูโรก็เซ็นต์ให้) เรื่องให้หาผู้กู้ร่วมเราไม่สะดวกจริงๆ ค่ะ คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ ต่อให้เป็นญาติพี่น้องเราก็คงไม่คิดว่าเค้าจะสะดวกใจทำให้ เราเลยเสนอว่าเราจะปิดบัตรเครดิตทุกอย่างให้หมด จะเหลือแต่รถและคอนโดเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่แบงค์เขียวก็ยืนยันว่า ต้องหาผู้กู้ร่วมเท่านั้น งั้นก็จบค่ะ ไปต่อไม่ได้

สรุปเราต้องตุ๊มๆ ต่อมๆ รอผลจากอีกแบงค์ว่าจะผ่านหรือไม่ ถ้าไม่ผ่านหรือไม่สามารถโอนบ้านภายในปีนีได้ ทางโครงการก็จะไม่ให้โปรโมชั่นที่แจ้งไว้ในครั้งแรกได้ เศร้าค่ะ

ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างไหมคะ
-ถ้ายื่นไม่ผ่านจริงๆ ปกติทางโครงการคืนเงินจอง,เงินทำสัญญา และเงินดาวน์ไหมคะ?
-แบงค์เขียวอาจจะมีเหตุผลอื่นที่ไม่อนุมัติ แต่ไม่แจ้งตามจริงเป็นได้ไหมคะ?

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ เรากับแฟนรายได้รวมกันประมาณ ๘๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน
ผ่อนคอนโด ๑๒,๐๐๐ บาท
รถยนต์ ๑๐,๐๐๐ บาท
สินเชื่อเงินสด ๑๐๐,๐๐๐ บาท (ผ่อนเดือนละ ๓,๐๐๐)
และบัตรเครดิตหมุนเวียนอยู่ ๑๐,๐๐๐ บาท (จ่ายเต็มจำนวนไม่ค้าง) ยอดสินเชื่อเงินสดแจ้งแบงค์แล้วว่าสามารถปิดได้ ถ้าแบงค์อยากให้ปิด
ยื่นกู้บ้านราคา ๓,๔๐๐,๐๐๐ บาท

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นไว้ล่วงหน้าค่ะ